2 มิ.ย.61 นายเสรี สุวรรณภานนท์ อดีตประธานคณะกรรมาธิการขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ ด้านการเมือง สภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ กล่าวถึงกรณีคณะกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.) มีมติเสียงข้างมากเห็นว่าการถือครองหุ้นของนายดอน ปรมัตถ์วินัย รมว.ต่างประเทศ เข้าลักษณะต้องห้ามตามรัฐธรรมนูญมาตรา 264 ประกอบมาตรา 187 ที่ห้ามไม่ให้รัฐมนตรีถือครองหุ้นในห้างหุ้นส่วนหรือบริษัท จนอาจเป็นเหตุให้ต้องพ้นจากตำแหน่งรัฐมนตรี และสำนักกฎหมายของ กกต. อยู่ระหว่างยกร่างคำร้องเพื่อยื่นให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยต่อไป ว่า กกต.เสนอความเห็นเบื้องต้นว่าภรรยาของนายดอน ถือหุ้นมีจำนวนขัดต่อรัฐธรรมนูญ และจะทำให้พ้นจากตำแหน่งหรือไม่นั้น มีนักการเมืองบางคนบอกว่านายดอน จะออกจากตำแหน่งหรือไม่อยู่ที่สปิริต
อย่างไรก็ตาม เรื่องนี้ตนขอแนะนำว่าหากเป็นเรื่องจริง เรื่องนี้อาศัยสปิริตอย่างเดียวไม่ได้ เพราะการออกโดยคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญจะทำให้ไม่กระทบต่อกิจการที่ได้กระทำไปก่อนพ้นจากตำแหน่ง ตามรัฐธรรมนูญ(รธน.) มาตรา 170 วรรคสาม มาตรา 187 ประกอบมาตรา 82 วรรคสอง อย่างไรก็ตาม หากรัฐมนตรีถูก กกต.เห็นว่าถือหุ้นขัด รธน.จริง ก็ต้องส่งให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยให้ถึงที่สุด และยังไม่รู้ว่าศาลรัฐธรรมนูญจะวินิจฉัยอย่างไร
นายเสรี กล่าวอีกว่า ศาลรัฐธรรมนูญอาจวินิจฉัยไม่ผิดก็ได้ เพราะ รธน.มาตรา 263 วรรค 4 ยกเว้นไว้ว่า “บทบัญญัติแห่งกฎหมายใดที่ห้ามมิให้บุคคลดำรงตำแหน่งทางการเมือง มิให้นำมาใช้บังคับแก่การดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีตามมาตรา 264” ซึ่งเป็นข้อกฎหมายที่ควรให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยให้เป็นยุติ ตาม รธน.มาตรา 82 วรรคสอง ประกอบมาตรา 170 วรรคสาม ซึ่งหากแสดงสปิริตลาออกจากรัฐมนตรีก่อน ก็จะเป็นปัญหาต่อไปว่าการที่ได้กระทำไปแล้ว จะชอบด้วยกฎหมายหรือไม่ จะกลายเป็นปัญหาหนักเข้าไปอีก หาก กกต.เห็นว่าผิด ก็ควรต้องรอศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยจะเป็นการดีที่สุด
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี