ครม.เด้งฟ้าผ่า
‘ณรงค์ แผ้วพลสง’รองเลขาฯกพฐ.
เซ่นอนุมัติซื้อครุภัณฑ์
วงงบประมาณ279ล้าน
บิ๊กตู่สั่งฟันครูอมเงินเด็ก
ครม.ไฟเขียวย้าย “ณรงค์” รองเลขาฯ สพฐ. นั่งศึกษาธิการภาค 15 (เชียงใหม่) เซ่นลงนามอนุมัติงบซื้อครุภัณฑ์ 279 ล้าน รมว.ศึกษาฯแจงย้ายเพื่อเปิดทางสอบขยายผลหาคนเกี่ยวข้อง ผู้บงการ ย้ำมีพิรุธทั้งนโยบายและปฎิบัติ ฮึ่มสั่งสอบทุกระดับ เจอใครเอี่ยวไม่เว้น ถ้าไม่ผิดย้ายกลับได้
พ.อ.อธิสิทธิ์ ไชยนุวัติ ผู้ช่วยโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงผลประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.)เมื่อวันที่ 5 มิถุนายนว่า ครม.พิจารณาอนุมัติแต่งตั้งนายณรงค์ แผ้วพลสง ข้าราชการพลเรือนสามัญ ตำแหน่งรองเลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) ให้ดำรงตำแหน่งศึกษาธิการภาค สำนักงานศึกษาธิการภาค 15 (เชียงใหม่) ตั้งแต่วันที่ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมแต่งตั้งเป็นต้นไป เพื่อทดแทนตำแหน่งที่ว่าง
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สาเหตุการโยกย้ายครั้งนี้ มีกระแสข่าวว่า สืบเนื่องจากนายณรงค์ลงนามโอนงบประมาณจัดซื้อครุภัณฑ์ฝึกทักษะมัธยมศึกษาตอนต้นจำนวน 6 แสนบาทต่อโรงเรียน มีการแจ้งจัดสรรให้ 458 โรงเรียน รวมวงเงินทั้งหมด 279 ล้านบาท ซึ่งอยู่ระหว่างตรวจสอบว่าอาจจะมีการล็อกสเปก แต่กลับมีการเซ็นต์อนุมัติดังกล่าว
วันเดียวกัน นพ.ธีระเกียรติ เจริญเศรษฐศิลป์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.)เปิดเผยว่า ครม.มีมติเห็นชอบตามที่ศธ.เสนอแต่งตั้งโยกย้ายนายณรงค์ แผ้วพลสง รองเลขาธิการ กพฐ.ไปเป็นศึกษาธิการภาค (ศธภ.) 15 ภาคเหนือตอนบน เรื่องนี้ถือว่า ยังไม่ได้ทุจริต ยังไม่มีความเสียหายเกิดขึ้น แต่เป็นการไม่ทำตามนโยบาย และตนต้องการสอบสวนให้ลึกลงไปว่าใครเกี่ยวข้องอีก จึงต้องย้ายนายณรงค์และตั้งคณะกรรมการสืบสวนข้อเท็จจริง มีคนนอกมาเป็นประธานตรวจสอบ
สำหรับโครงการนี้ใช้งบ 279 ล้านบาท เริ่มต้นตั้งแต่เดือนธันวาคม 2560 ขณะนี้เรามีข้อมูลชัดเจนว่า ไม่ได้สำรวจความต้องการของโรงเรียนจริง ทำไปก่อนแล้วส่งลงไป จากนั้นจึงค่อยไปถามโรงเรียนว่าเอาหรือไม่ นอกจากนั้น ยังยัดไส้เพิ่มเติม ตนจึงต้องการสอบสวนให้ชัดเจน
ผู้สื่อข่าวถามว่า นายณรงค์ เป็นระดับรอง กพฐ.การเซ็นอนุมัติงบต้องให้ผู้บังคับบัญชาอนุมัติก่อนหรือไม่ นพ.ธีระเกียรติกล่าวว่า มีคนถามประเด็นนี้มาเช่นกัน แต่คงต้องให้นายณรงค์ชี้แจง เพราะเป็นคนเซ็น และตอนนั้นนายบุญรักษ์ ยอดเพชร เลขาธิการ กพฐ.เดินทางไปราชการต่างประเทศ รองเลขาธิการ กพฐ.ในฐานะรักษาการฯมีอำนาจเซ็นได้ ที่สำคัญเรื่องนี้คนชงก็ไม่ใช่คนที่มีอำนาจดูแล คือ ผู้อำนวยการสำนักมัธยม แต่เป็นรักษาการฯ และตนได้สอบสวนเบื้องต้น คนที่เป็นเจ้าของเรื่องจริง ๆ ได้สั่งการแล้วว่า อย่าเซ็น แต่ก็ยังเซ็น ตนต้องสืบสวนต่อว่า ใครที่สั่ง ทุกระดับ แต่ถ้าตรวจสอบถึงใครก็โดนหมด ส่วนนายณรงค์แต่ถ้าตรวจสอบแล้ว ไม่มีความผิด ก็ย้ายกลับมาตำแหน่งตรงนี้ได้
รมว.ศึกษาฯกล่าวต่อว่า ซึ่งนอกจากกรณีนี้แล้ว พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ยังสั่งการในที่ประชุมครม.ว่า กรณีที่ผู้อำนวยการโรงเรียนปล่อยให้อาหารเด็ก นมเด็กมีปัญหา ขโมยเงินเด็ก ให้ลงโทษอย่างเด็ดขาด และรุนแรง โดยผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา (สพท.) ที่ปล่อยให้มีทุจริตเกิดขึ้นในเขตพื้นที่ฯของตัวเองต้องรับผิดชอบด้วย
“เรื่องนี้มีปัญหาร้องเรียนหลายอย่าง เช่น บอกว่าเป็นงบฝึกทักษะ แต่ปรากฏว่า มีรายหนึ่งร้องเรียนว่า เป็นการจัดซื้อชั้นวางหนังสือ และคนที่ร้องเรียน ก็บอกว่ามีการล็อกสเป็กชั้นวางหนังสือ ถ้าไปดูรายละเอียดแต่ละโครงการต้องตอบให้ได้ด้วย เรื่องนี้ยังอีกยาว แต่เบื้องต้น ใครเป็นคนเซ็นต้องรับผิดชอบ ทำตรงไปตรงมา เรื่องนี้ถือว่าเราได้ระงับความเสียหาย จะจงใจหรือไม่ ผมไม่ทราบ แต่ความไม่ชอบมาพากลของโครงการนี้มีแน่นอนทั้งเชิงนโยบายและเชิงปฎิบัติ เพราะปกติไม่มีใครเซ็น ถ้ายังมีการร้องเรียนกันอยู่” นพ.ธีระเกียรติกล่าว
และว่า เท่าที่สอบถาม นายณรงค์อ้างว่า เซ็นเพื่อรอดูว่า รมว.ศึกษาฯจะว่าอย่างไร ทั้งที่รู้ว่ารัฐมนตรีจะเอาอย่างไร และทั้งที่รู้มาตลอดว่ารายงานให้ตนทราบตั้งแต่เดือนธันวาคม 2560 แล้วว่าจะไม่ทำ ทุกอย่างว่าตามข้อเท็จจริง ถ้าไม่ผิดตนจะคืนความเป็นธรรมให้ ทั้งนี้ การตรวจสอบปัญหาทุจริตที่เกิดขึ้นใน สพฐ. ล่าสุดทราบว่านายบุญรักษ์ สั่งตั้งคณะกรรมการสอบสวนวินัยไปหลายเรื่องแล้ว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ได้พยายามโทรศัพท์ไปหานายณรงค์เพื่อสอบถามเรื่องดังกล่าวแล้ว แต่ไม่มีผู้ใดรับสาย
ขณะที่ นายบุญรักษ์ ยอดเพชร เลขาธิการ กพฐ.กล่าวว่า ขณะนี้ได้มีการตั้งคณะกรรมการสืบสวนข้อเท็จจริงเรื่องดังกล่าวแล้ว ซึ่งตนได้มีการโยกย้ายข้าราชการตำแหน่งรองผู้อำนวยการสำนัก จำนวน 2 รายที่เป็นผู้ชงเรื่องนี้ขึ้นมา เพื่อไม่ให้เกี่ยวข้องกับการสืบข้อเท็จจริง สำหรับการดำเนินการในเรื่องนี้ตนได้สั่งในไลน์ของผู้บริหารอย่างชัดเจนว่า สิ่งที่เกิดขึ้นทั้งหมด โดยเฉพาะกลุ่มโรงเรียนที่มีการหาผู้ขายไว้แล้ว จะไม่มีการโอนเงินใดๆ ทั้งสิ้นจนกว่าจะสอบข้อเท็จจริง แต่เบื้องต้น สพฐ.จะไม่มีการจัดงบประมาณลงไปให้อยู่แล้ว แต่บังเอิญว่ามีบริษัทที่เป็นผู้ขาย และทำหนังสือทวงการโอนเงินงวดมายังตน เนื่องจากเป็นผู้ที่ได้งาน ซึ่งตนรู้ว่าบริษัทดังกล่าวได้เริ่มดำเนินการทางกฎหมายกับกับตน ในฐานะเลขาธิการ กพฐ.แล้ว และหากไม่ได้รับเงินก็จะฟ้องร้อง แต่ตนต้องหยุดการดำเนินการ เพราะจะต้องตรวจสอบให้มีความกระจ่างก่อน ทั้งนี้หากการตรวจสอบไม่พบความผิดปกติก็จะดำเนินการตามขั้นตอน ทั้งนี้ตนจะต้องไปตรวจสอบว่าการตั้งงบประมาณ ใครเป็นผู้ตั้ง เพราะงบถูกตั้งขึ้นตั้งแต่ปี 2560 คงต้องย้อนไปดู และจากที่ตนได้ตรวจสอบเบื้องต้นพบว่าไม่มีการขอ และ สพฐ.ยกเลิกไม่มีการจัดสรรตั้งแต่แรกแล้ว มีการเซ็นแจ้งจัดสรรไปจริง แต่ไม่มีการโอนเงินให้ เนื่องจากผิดนโยบายของ รมว.ศธ. อย่างไรก็ตามการทุจริตของ สพฐ.ต่างๆตนได้มีการดำเนินการโยกย้ายผอ.เขตพื้นที่แล้ว จำนวน 10 ราย ซึ่งในจำนวนดังกล่าวก็เกี่ยวข้องกับการจัดซื้อครุภัณฑ์ฝึกทักษะด้วย
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี