7 มิ.ย.61 นายคำนูณ สิทธิสมาน โฆษกคณะกรรมการพิจารณาร่าง พ.ร.บ.ตำรวจแห่งชาติ โพสต์เฟซบุ๊ค Kamnoon Sidhisamarn ระบุว่า การประชุมคณะกรรมการฯเมื่อวันที่ 6 มิ.ย.61 เริ่มลงรายมาตราในหมวดการบรรจุและแต่งตั้งข้าราชการตำรวจให้ดำรงตำแหน่งระดับต่างๆ ซึ่งจะเป็นการบัญญัติหลักเกณฑ์ที่ชัดเจนไว้ในกฎหมายหลักระดับพ.ร.บ.เป็นครั้งแรก จากที่เคยบัญญัติอยู่ในกฎหมายลำดับรอง อาทิ กฎ ก.ตร. หรือเป็นธรรมเนียมปฏิบัติ เหตุผลสำคัญที่สุดก็คือ เพื่อป้องกันการเปลี่ยนแปลงหลักเกณฑ์เพื่อเอื้อประโยชน์แก่บางบุคคลเป็นพิเศษ
นายคำนูณ กล่าวอีกว่า ก่อนอื่นการบรรจุและแต่งตั้งข้าราชการตำรวจชั้นสัญญาบัตรแรกเข้า ที่ไม่ใช่ตำแหน่งวิชาชีพเฉพาะ ให้ดำรงตำแหน่งในส่วนราชการใด ให้ดำเนินการ ดังนี้
1. ถ้าผู้ที่จะได้รับการบรรจุและแต่งตั้งเป็นผู้สำเร็จการศึกษาจากโรงเรียนนายร้อยตำรวจ ให้ผู้สำเร็จการศึกษาระดับปริญญาตรีซึ่งมีคะแนนเฉลี่ยตลอดหลักสูตรสูงสุดมีสิทธิเลือกก่อนตามลำดับ
2. ถ้าผู้ที่จะได้รับการบรรจุและแต่งตั้งเป็นผู้สอบคัดเลือกหรือแข่งขันได้ ให้ผู้ที่สอบคัดเลือกหรือแข่งขันได้เป็นลำดับที่ 1 มีสิทธิเลือกก่อนเรียงตามลำดับไป
หากมีกรณีอื่นนอกเหนือจากนี้ให้ดำเนินการตามวิธีการที่ก.ตร.กำหนด
ต่อมา การแต่งตั้งข้าราชการตำรวจชั้นสัญญาบัตรในระดับตำแหน่งต่าง ๆ ให้อยู่ภายใต้ 3 เกณฑ์ ดังนี้
- ระยะเวลา
- พื้นที่
- การประเมินรายบุคคล
เริ่มต้นจากเกณฑ์ระยะเวลา ได้กำหนดระยะเวลาขั้นต่ำที่ข้าราชการตำรวจชั้นสัญญาบัตรแต่ละคนจะต้องอยู่ตำแหน่งในแต่ละลำดับชั้นให้ครบก่อนจึงจะมีสิทธิได้รับการพิจารณาให้เลื่อนขึ้นดำรงตำแหน่งในลำดับชั้นที่สูงขึ้น ดังนี้
1. ตำแหน่งสารวัตร จะต้องดำรงตำแหน่งรองสารวัตรมาแล้วไม่น้อยกว่า 7 ปี
2. ตำแหน่งรองผู้กำกับการ จะต้องดำรงตำแหน่งสารวัตรมาแล้วไม่น้อยกว่า 4 ปี
3. ตำแหน่งผู้กำกับการ จะต้องดำรงตำแหน่งรองผู้กำกับการมาแล้วไม่น้อยกว่า 4 ปี
4. ตำแหน่งรองผู้บังคับการ จะต้องดำรงตำแหน่งผู้กำกับการมาแล้วไม่น้อยกว่า 4 ปี
5. ตำแหน่งผู้บังคับการ จะต้องดำรงตำแหน่งรองผู้บังคับการมาแล้วไม่น้อยกว่า 4 ปี
6. ตำแหน่งรองผู้บัญชาการ จะต้องดำรงตำแหน่งผู้บังคับการมาแล้วไม่น้อยกว่า 3 ปี
7. ตำแหน่งผู้บัญชาการ จะต้องดำรงตำแหน่งรองผู้บัญชาการมาแล้วไม่น้อยกว่า 3 ปี
8. ตำแหน่งผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ จะต้องดำรงตำแหน่งผู้บัญชาการมาแล้วไม่น้อยกว่า 2 ปี
9. ตำแหน่งจเรตำรวจแห่งชาติและรองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ จะต้องดำรงตำแหน่งผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติมาแล้วไม่น้อยกว่า 2 ปี
นั่นหมายความว่า ตามเกณฑ์ระยะเวลาทั่วไปนี้ข้าราชการตำรวจชั้นสัญญาบัตรจะต้องดำรงตำแหน่งระดับชั้นต่าง ๆ อย่างน้อย 33 ปีจึงจะมีโอกาสได้เป็นแคนดิเดตตำแหน่งผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ
หากข้าราชการตำรวจแรกบรรจุเข้ารับราชการในตำแหน่งรองสารวัตรหลังจบปริญญาตรีมีอายุ 22 ปี ก็จะมาอยู่ในตำแหน่งแคนดิเดตผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติขณะมีอายุอย่างน้อย 55 ปี
นายคำนูณ กล่าวต่อว่า ขอย้ำถึงเหตุผลสำคัญที่สุดในการกำหนดเกณฑ์ระยะเวลาขั้นต่ำในการดำรงตำแหน่งแต่ละระดับชั้นไว้ในกฎหมายหลักระดับพ.ร.บ.ที่กล่าวไว้ข้างต้นอีกครั้งก็คือ เพื่อป้องกันการเปลี่ยนแปลงหลักเกณฑ์เพื่อเอื้อประโยชน์แก่บางบุคคล ซึ่งเคยเกิดข้อครหาวิพากษ์วิจารณ์มาแล้วในอดีตเมื่อมีการเปลี่ยนหรือพยามเปลี่ยนกฎ ก.ตร.ว่าด้วยการนี้ ในลักษณะเสมือนเป็นการลดระยะเวลาระดับบน เพิ่มระยะเวลาระดับล่าง จนเกิดเป็นศัพท์แสลงบางคำ อาทิ 'ต่อยอดทอดสะพานสูง' หรือ 'ชักบันไดหนี' เป็นต้น
เมื่อผ่านเกณฑ์เวลาแล้ว ในการแต่งตั้งข้าราชการตำรวจยังจะต้องพิจารณาจากอีก 2 เกณฑ์ คือ เกณฑ์พื้นที่ และเกณฑ์การประเมินรายบุคคล
โดยเกณฑ์พื้นที่นั้น จะได้พิจารณาว่าการแต่งตั้งในระดับสารวัตรขึ้นไปจนถึงระดับรองผู้บังคับการให้พิจารณาจากผู้มีคุณสมบัติที่รับราชการอยู่ในภายในภาคเดียวกันเท่านั้น
ส่วนเกณฑ์การประเมินรายบุคคลนั้นจะได้กำหนดให้ข้าราชการตำรวจแต่ละคนมีคะแนนประจำตัวถ่วงน้ำหนักจาก 3 กรอบ คือ อาวุโส ผลงาน และความพึงพอใจของประชาชน ซึ่งจะได้พิจารณารายละเอียดในการประชุมครั้งต่อ ๆ ไป
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี