"วงเสวนากลไกปราบโกงเลือกตั้ง"เห็นพ้อง ไม่มั่นใจว่าการเลือกตั้งที่จะมีขึ้น เชื่อคสช.ใช้อำนาจรัฐนอกเหนือกติกาแทรกแซง "ศุภชัย"ระบุไม่ต้องกลัว4กกต.อยู่ใต้อำนาจใคร เพราะพ้นตำแหน่ง ไม่ต้องการไปอยู่ในที่จำกัด
7 มิ.ย.61 ที่โรงแรมเซ็นทรา บายเซ็นทารา ศูนย์ราชการ และคอนเวนชันเซ็นเตอร์ แจ้งวัฒนะ สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) จัดเสวนาในหัวข้อ "กลไกปราบโกงเลือกตั้ง ใช้กับใคร ใช้ได้จริงหรือ"
โดย นายเจษฎ์ โทณะวณิก ที่ปรึกษาคณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ (กรธ.) กล่าวว่า เงื่อนไขต่างๆ ที่จะทำให้การเลือกตั้งถูกลากไปอีกไม่มีอีกแล้ว ถ้าพูดว่าจะมีการเลือกตั้งที่บริสุทธิ์และยุติธรรม ตนยังไม่เห็นว่าจะมีการทุจริต แต่สิ่งที่ได้สัมผัสจากการลงพื้นที่พูดคุยกับประชาชน คือ เมื่อมีการเลือกตั้งทุกครั้งจะมีการทุจริตเลือกตั้งทุกหน่วย ถ้าหากมองการเลือกตั้งทั่วประเทศมีทั้งหมด 9 หมื่นหน่วย สิ่งที่น่าเป็นห่วง คือ กกต.ได้บอกว่าเจ้าหน้าที่ได้จัดการเรื่องปัญหาดังกล่าวได้เพียงร้อยละ 1 เท่านั้นของที่เกิดปัญหา ซึ่งเป็นเรื่องที่น่าเป็นห่วง ดังนั้น ต้องเริ่มจากกลไกจากเสรีภาพของการตั้งพรรคการเมือง ซึ่งถ้าหากพรรคการเมืองนั้นไม่มีสมาชิกที่มีอุดมการณ์และจรรยาบรรณที่ดีก็ย่อมจะมีผลต่อการคัดเลือกผู้สมัครที่เหมาะสม หรือไม่สามารถหลุดพ้นพรรคที่เป็นของนายทุน และจะกระทบต่อการทำไพรมารี่โหวตซึ่งเป็นหน้าด่านของการปราบโกง เพราะว่าจะไม่ได้ผู้สมัครที่ไม่ซื้อสิทธิขายเสียง
นายเจษฎ์ กล่าวอีกว่า กลไกหลังจากเลือกตั้งเสร็จ ก็จะมีบทลงโทษเรื่องการแจกใบดำซึ่งจะมีผลตัดสิทธิ์ผู้สมัครทั้งระดับประเทศและท้องถิ่นตลอดชีวิต เทียบได้กับการประหารชีวิตทางการเมือง แต่กลไกดังกล่าวจะได้ผลหรือไม่ขึ้นอยู่กับประชาชนว่าจะให้ความร่วมมือกับกกต.ได้มากน้อยแค่ไหน ซึ่งตอนนี้รัฐธรรมนูญฉบับดังกล่าว ติดอาวุธให้กับประชาชนแล้ว โดยในรัฐธรรมนูญได้กำหนดไว้ว่าในการเลือกตั้งบางเขต ถ้ามีประชาชนไม่ประสงค์ลงคะแนนมากกว่าการประสงค์ลงคะแนนบุคคลใดในพื้นที่นั้น จะต้องจัดการเลือกตั้งใหม่และผู้สมัครในตอนแรกก็ห้ามลง นอกจากนี้ ตนเชื่อว่าประชาชนเป็นกลไกที่ดีที่สุด และจะต้องอาศัยข้าราชการด้วย เพราะการทุจริตของนักการเมืองจะเกิดไม่ได้ถ้าไม่มีข้าราชการเข้ามาร่วมด้วย ดังนั้น เป็นเหตุผลว่าทำไมข้าราชการทุกคนต้องยื่นบัญชีทรัพย์สินเพื่อให้ตรวจสอบ
ขณะที่ นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า ยืนยันมีการเลือกตั้งแน่นอน แต่จะมีเมื่อไหร่ต้องถาม คสช.ตามกรอบรัฐธรรมนูญ คือ สูตร 3 : 3 : 5 หลังกฎหมายลูกเกี่ยวกับการเลือกตั้งอีก 2 ฉบับ คือ เมื่อทูลเกล้าฯ เพื่อให้ทรงลงพระปรมาภิไธย ใช้ระยะเวลา 3 เดือน และรอ 3 เดือน หลังกฎหมายลูก ส.ส.บังคับใช้ที่จะมีผล ต่อจากนั้นดำเนินการเลือกตั้งให้เสร็จสิ้นภายใน 5 เดือน แต่ตนห่วงเงื่อนไขนอกรัฐธรรมนูญว่าถ้าบ้านเมืองไม่สงบจะไม่มีเลือกตั้ง กลัวว่าจะมีคนนำมาใช้เป็นเงื่อนไข ขณะเดียวกันมีผู้พูดถึงรัฐธรรมนูญปราบโกง ถ้าปราบได้จริง รัฐธรรมนูญได้บังคับใช้มาแล้ว 1 ปี แต่ยังมีการโกง ซึ่งการจะใช้ปราบโกงได้บ้างต้องใช้ควบคู่ระบอบประชาธิปไตยที่มีการตรวจสอบถ่วงดุล ถ้าใช้กับระบอบที่ไม่สามารถตรวจสอบได้ก็ไม่เป็นผล
นายจุรินทร์ กล่าวว่า การเลือกตั้งถ้าจะสุจริตเที่ยงธรรมได้ก็ต่อเมื่อมีปัจจัยอย่างน้อย 3 ปัจจัย กติกาต้องเป็นธรรม การบังคับใช้กติการวมถึงการบังคับใช้กลไกปราบโกงด้วยต้องเป็นธรรม การใช้อำนาจรัฐของคนที่มีอำนาจต้องเป็นธรรมด้วย ซึ่งต้องมีความสุจริตเที่ยงธรรมทั้งองคาพยพ การเลือกตั้งครั้งหน้าถ้าถามมีโอกาสเกิดความสุจริตเที่ยงธรรมหรือไม่ ตอบเลยว่าไม่ เพราะกฎกติกาสำคัญคือรัฐธรรมนูญ ไม่สุจริตเที่ยงธรรมตั้งแต่ต้น เรื่องกติกา พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญกับคำสั่ง คสช.ต่างๆ การใช้อำนาจรัฐของผู้มีอำนาจ เพราะเปลี่ยนสถานะจากคนเขียนกติกา จากกรรมการมาเป็นผู้เล่น ที่สำคัญ คือ เป็นห่วงเรื่องการใช้อำนาจเหนือองค์กรอิสระ เช่น การใช้มาตรา 44 ที่ส่งผลต่อความสุจริตเที่ยงธรรมได้
นอกจากนี้ ขอตั้งข้อสังเกตเรื่องใบส้มระหว่างหาเสียงเลือกตั้ง ถ้า กกต.พบว่ามีความไม่สุจริตกับผู้สมัครรับเลือกตั้ง กกต.สามารถระงับสิทธิ์เลือกตั้งของผู้สมัครได้เป็นระยะเวลา 1 ปีได้ จึงเป็นห่วงถ้า กกต.ใช้อำนาจสุจริตเที่ยงธรรมยุติธรรมก็ไม่มีอะไรน่าห่วง แต่ถ้ามีสิ่งนอกเหนือไปจากนี้ก็อาจจะเอื้อประโยชน์ให้กับผู้สมัครบางคนบางพรรคได้
"ที่สำคัญ กกต.ประจำหน่วยที่ศาลรัฐธรรมนูญเพิ่งจะวินิจฉัยว่าการให้กกต.ประจำหน่วยไปช่วยหรือจัดให้ไปช่วยคนพิการผู้สูงอายุและทุพพลภาพ ตนก็เป็นห่วงกลัวจะไปช่วยกากบาทตามเจตนารมณ์ของผู้กา จะกลายเป็นช่องทางทุจริต ขอให้ กกต.ช่วยจับตาเป็นพิเศษ อย่าให้เกิดการทุจริต คำถามว่ากลไกปราบโกงใช้กับใครใช้ได้จริงหรือ คือต้องใช้กับทุกคน ถามว่าใช้ได้จริงหรือคำตอบก็ขึ้นอยู่กับ กกต.ถ้า กกต.ดำรงความเป็นอิสระไม่เป็นเสือหมอบ เสือกระดาษคิดว่ากระบวนการเลือกตั้งยังมีความหวังที่จะเห็นความสุจริตเที่ยงธรรมเกิดขึ้นแม้กติกาไม่เที่ยงธรรมมาตั้งแต่ต้นก็ตาม" นายจุรินทร์ กล่าว
ด้าน นายศุภชัย สมเจริญ ประธาน กกต.ได้กล่าวขอบคุณวิทยากรที่มาร่วมแสดงความเห็น โดยระบุว่า ขอให้พรรคการเมืองไม่ต้องเป็นกังวล เรื่องการปฎิบัติหน้าที่ของ กกต.ชุดนี้ ไม่ต้องกลัวว่าเราจะไปอยู่ใต้อำนาจใคร เพราะเราถูกเซ็ตซีโร่ไปแล้ว ที่อยู่เพราะมีคำสั่งให้ปฎิบัติหน้าที่ต่อ ดังนั้น การจะทำอะไรก็จะคำนึงถึงกฎหมาย เนื่องจากเมื่อต้องพ้นจากตำแหน่งไปแล้ว กกต.ทั้ง 4 คน ก็อยากอยู่สบาย ไม่อยากไปอยู่ในที่จำกัด และไม่ต้องกลัว เพราะถึงแม้จะมี กกต.ใหม่มาการเลือกตั้งก็จะไม่สะดุด เนื่องจากตามกฎหมายใหม่ กกต.เป็นเพียงผู้กำกับดูแล ส่วนการดำเนินการเป็นหน้าที่ของสำนักงานฯ และขณะนี้สำนักงานก็เตรียมพร้อมทุกอย่างไว้หมดแล้ว
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี