วันนี้ (10 มิ.ย.) เวลา 10.30-12.00 น. ที่ห้องประชุมวายุภักษ์ ชั้น 4 อาคารวายุภักษ์ โรงแรมเซ็นทารา ศูนย์ราชการแจ้งวัฒนะ "พรรคไทยศรีวิไลย์" ได้มีการประชุมสามัญครั้งที่ 1 เพื่อสรรหาหัวหน้าพรรคไทยศรีวิไลย์ กรรมการบริหารพรรค และที่ปรึกษาพรรคฯ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การประฃุมพรรคไทยศรีวิไลย์ครั้งนี้นอกจากจะมีการสรรหาหัวหน้าพรรคฯ และกรรมการบริหารพรรคฯ แล้ว ยังจะมีพิธีมอบพระแสงดาบ (จำลอง) สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราฃ จากเจ้าอาวาสวัดพรานนก อ.อุทัย จ.พระนครศรีอยุธยา รวมทั้งจะการปราศรัยโดยหัวหน้าพรรคฯ รองหัวหน้าพรรคฯ และประธานที่ปรึกษาพรรคฯ นอกจากนี้ยังจะมีกิจกรรม "ทุบหม้อข้าว ประกาศปราบโกงทั่วแผ่นดิน"ด้วย
ทั้งนี้ ก่อนหน้านี้นายณัชพล สุพัฒนะ" หรือ "มาร์ค พิทบูล" ว่าที่รองหัวหน้าพรรคไทยศรีวิไลย์ เคยให้สัมภาษณ์กับ "ทีมข่าวแนวหน้าออนไลน์" โดยให้เหตุผลถึงการลงมาเล่นการเมืองในนามพรรคไทยศรีวิไลย์ว่า ถือว่าเป็นโอกาสทองของคนรุ่นใหม่ที่จะได้ล้างน้ำเน่า เพราะว่าการเมืองไทยไม่ได้พัฒนามายาวนานแล้ว มีแต่เดิมๆ ซ้ำๆ พรรคการเมืองเดิมๆ ส.ส.เดิมๆ หน้าเก่าๆ รวมถึงนโยบายเดิมๆ ด้วย จริงๆ ตนก็ไม่อยากมาเล่นการเมืองและไม่ได้คาดหวังมากมาย แต่ขอให้ได้ริเริ่มเพื่อจุดประกายไฟให้กับคนรุ่นใหม่ เพื่อพวกเขาจะได้กล้าและก้าวเข้ามาในสนามการเมือง และขอให้ช่วยกันชะล้างระบบการเมืองน้ำเน่า
นายณัชพล สุพัฒนะ" หรือ "มาร์ค พิทบูล" กล่าวว่า เมื่อตนเข้ามาเล่นการเมืองแล้ว สิ่งที่ตนอยากพัฒนามี 3 อย่างคือ 1.การปราบปรามการทุจริตคอร์รัปชั่น เป็นเป้าหมายแรกที่อยากจะทำมาก เพราะบ้านเมืองเราเข้าขั้นวิกฤติมีการโกงกันทุกหย่อมหญ้า ตั้งแต่หมู่บ้าน ตำบล วงการพระ วงการศึกษา โกงเงินคนจน โกงเงินคนแก่
2.การปฏิรูประบบราชการ เพราะประเทศเรานั้นหน่วยงานที่เป็นตัวถ่วงประเทศคือหน่วยงานราชการ ไม่เคยเลยที่หน่วยงานราชการจะไปข้างหน้า มีแต่เพียงเดินไปอย่างกับเต่าวิ่งตามหลัง ไม่ทันโลก และที่แย่ไปกว่านั้นข้าราชการชอบคิดว่าพวกเขาเป็นนายประชาชน สังเกตดูว่าการติดต่อหน่วยงานราชการยุ่งยากจะวุ่นวาย เงื่อนไขมาก เอกสารมาก ขั้นตอนมาก ไม่เคยทันกิน ซึ่งต่างกับระบบเอกชนทุกอย่างจะรวดเร็วไปหมด แต่ของราชการอะไรก็ยากไปหมด หน่วยงานราชการเป็นหน่วยงานที่ไร้ประสิทธิภาพมากที่สุดแล้ว
3.การสร้างงาน สร้างอาชีพ กระจายรายได้ เพราะในประเทศเรานักการเมืองที่ผ่านมาสอนให้ประชาชนทำอะไรไม่ได้ ไม่พยายามสร้างงานสร้างอาชีพสนับสนุนให้คนไทยไปเป็นคนใช้แรงงาน เรียนจบมาก็ไปรับจ้างเขาแทนที่จะส่งเสริมธุรกิจรายย่อยกับครัวเรือนมาแปลงเป็นทรัพย์สินเป็นทุน นำภูมิปัญญาชาวบ้านมาสร้างมูลค่าเพิ่มให้กลายเป็นประเทศอุตสาหกรรม เพื่อขายในท้องถิ่นของตนเอง
ดูทุกวันนี้เกษตกรที่ปลูกข้าวยากจน แต่พ่อค้าคนกลางที่มาซื้อข้าวกลับร่ำรวย เพราะเรามีรัฐบาลที่ขายของไม่เป็น ทั้งที่เราผลิตข้าว ยางพาราได้จำนวนมาก แทนที่จะไปชี้นำราคาตลาด ผลิตขึ้นมาแล้วนำไปขาย เพราะทั้งโลกมีตั้งหลายประเทศที่ต้องการ เราต้องเป็นคนกำหนดราคาตลาด ดูอย่างประเทศที่ผลิตน้ำมันยังกำหนดราคาตลาดได้เลย
"รัฐบาลแจกแต่ปลาให้กับประชาชน แต่ไม่เคยสอนทำคันเบ็ด และไม่เคยแม้กระทั้งแจกเบ็ด แจกปลาอย่างเดียวเลย ซึ่งมันไม่ใช่ ดังนั้น เราจะต้องสอนเขาทำคันเบ็ดเป็น และทำอุปกรณ์จับปลาขึ้นมาเองเลยดีกว่า" มาร์ค พิทบูล กล่าว
อ่านข่าวก่อนหน้านี้
ผมจะเป็นนายกฯ! 'มาร์ค พิทบูล' ลั่นลงเล่นการเมืองก็ต้องเลือกตัวเอง ไปหนุน 'ลุงตู่' ทำไม?
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี