นายกฯปิดประชุม ACMECS โชว์ความสำเร็จ ร่วมรับรองเอกสารปฏิญาณกรุงเทพ-แผนแม่บท ACMECS ระยะ 5 ปี ย้ำไทยนำร่องประเดิมกองทุน ACMECS เป็นไปตามกม.ชี้คิดดี ทำดี แต่ต้องมีเงินลงทุน
เมื่อเวลา 11.20 น.วันที่ 16 มิ.ย.61 ที่โรงแรมแชงกรี-ลา พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.) แถลงภายหลังประชุมสุดยอดผู้นำยุทธศาสตร์ความร่วมมือทางเศรษฐกิจอิรวดี-เจ้าพระยา-แม่โขง(ACMECS Summit) ครั้งที่ 8 ว่า เป้าหมายของACMECS คือการลดช่องว่างและสร้างการเติบโตทางเศรษฐกิจ และต้องเกิดจากความร่วมมือต้องเกิดจากทุกคน ภาครัฐ เอกชนและประชาชน ซึ่งถ้ารัฐกับเอกชนร่วมมือกัน แล้วประชาชนไม่เห็นด้วยไม่ได้ เราต้องสร้างการเข้าถึงข้อมูลและหลักเหตุผล มีความโปร่งใส และมีประสิทธิภาพ ก้าวทันเทคโนโลยี เข้าถึงข้อมูล เทคโนโลยี นวัตกรรม และเป็นเรื่องที่น่ายินดีที่อนุภูมิภาคของเราเป็นที่สนใจจากประเทศต่างๆ ซึ่งในการประชุมนี้ ที่มีทั้งเลขาธิการอาเซียน และสถาบันการเงินและหน่วยงานระหว่างประเทศมากกว่า 30 ภาคส่วนเข้าร่วมประชุม รวมถึงรัฐมนตรีญี่ปุ่น เกาหลีใต้ และ ได้ส่งสารมาแสดงความยินดี
โดยการประชุมครั้งนี้ได้รับการรับรองเอกสาร 2 ฉบับคือปฏิญาณกรุงเทพ และแผนแม่บท ACMECS ระยะเวลา 5 ปี ส่วนเรื่องงบประมาณก็ได้มีมีการหารือกัน ซึ่งตนได้แจ้งว่าให้แต่ละประเทศแสวงหาแหล่งเงินทุนต่างๆ ดูว่าอะไรเร่งด่วน และต้องสร้างความเชื่อมโยงถนน น้ำ รถรางและอากาศ แต่ส่ิงสำคัญต้องตอบสนองภูมิศาสตร์ประเทศตัวเองให้ได้ และผู้นำ ACMECS เห็นชอบสนับสนุนการจัดอันดับความสำคัญการทำงานระยะ 2 ปีแรก ในโครงการหรือแผนงานที่ทำได้ทันที แต่ละประเทศจะไปทำแผนย่อยออกมาเพื่อนำไปสู่แผนปฏิบัติการและใช้จ่ายงบประมาณ ที่ทั้งในประเทศและเงินทุนจากต่างประเทศ โดยแหล่งเงินทุนต้องมีความชัดเจน เพื่อความยั่งยืน ที่สำคัญที่สุดถ้าคิดดี ทำดี แต่ไม่มีเงินก็ทำไม่ได้
ขณะที่ประเทศไทยมีปัญหาผู้มีรายได้น้อย ทำอาชีพเกษตรกรจำนวนมากมาก มีผลต่อการลงทุนเพื่ออนาคต ดังนั้นต้องจัดลำดับความสำคัญเร่งด่วนในการดำเนินงาน เพราะถ้าหากทำเล็กๆไปก็ไม่ยั่งยืน ทั้งนี้กองทุน ACMECS Fund ที่จะจัดตั้งไทยสนับสนุนทุนนำร่องไปก่อนจำนวนหนึ่ง เป็นไปตามกฎหมายและอยู่ในการพิจารณาของรัฐบาล
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ที่ประชุมได้ขอบคุณประเทศไทยที่ได้ริเริ่มก่อตั้ง ACMECS และจัดการประชุมครั้งที่ 8 ให้ก้าวไปอีกขั้น เป็น ACMECS ที่มั่นคง มั่งคั่ง ยั่งยืน รวมทั้งเห็นชอบกับนโยบายของไทยที่คำนึงถึงเพื่อนบ้านและประชาชนเป็นศูนย์กลางภายใต้นโยบายไทยแลนด์พลัสวัน หรือ ไทยแลนด์บวก 1 นอกจากนี้ ประเทศสมาชิกได้ให้การรับรองอย่างเป็นเอกฉันท์ต่อปฏิญญากรุงเทพ ซึ่งเน้นการสร้างความแข็งแกร่ง ความหลากหลาย การเป็นหุ้นส่วนทางยุทธศาสตร์ที่มีผลประโยชน์ร่วมกัน
ทั้งนี้ ขอฝากให้กระทรวงคมนาคมพิจารณาเรื่องการเชื่อมโยงโครงข่ายคมนาคม ต้องคิดว่าทำอย่างไรให้เกิดความเชื่อมั่นได้ว่าการเชื่อมโยงเส้นทางจะไม่ทำให้ประเทศหรือเมืองของเพื่อนบ้านกลายเป็นเพียงทางผ่าน เราต้องดูแลในเรื่องนี้ด้วยจึงจะได้รับการยอมรับ เพื่อให้ประเทศที่อยู่ตรงกลางได้ประโยชน์ ไม่ใช่ไปตรงตลอดแล้วประเทศตรงกลางไม่ได้อะไรเลย เราต้องไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ในส่วนภาคเอกชน ได้มีการประชุมหารือร่วมกับสถาบันการเงิน องค์กรระหว่างประเทศ รวม 36 ประเทศ ทุกฝ่ายให้ความสนใจทั้งหมด ขึ้นอยู่กับพวกเราเท่านั้นที่ต้องทำให้ประเทศของเราและสมาชิกของเรามีศักยภาพด้วยการมีเสถียรภาพทั้งการเมืองและความมั่นคง ความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน ถ้าไม่เกิดตรงนี้อย่างอื่นก็ไปไม่ได้ทั้งหมด จะกี่แผนแม่บทก็ไปไม่ได้ จึงขึ้นอยู่กับประชาชนทุกคนที่ต้องมีส่วนร่วม ทั้งรัฐ เอกชน ประชาชน เพื่อทำให้ ACMECS เดินหน้าไปอย่างยั่งยืน
“ในนามรัฐบาลไทย ขอขอบคุณทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องรวมถึงสื่อมวลชนที่สนับสนุนติดตามการประชุมครั้งนี้ เพราะนี่คือสิ่งที่เป็นอนาคต เมื่อสนใจในสิ่งที่เป็นอนาคตก็จะได้ไปด้วยกันได้ ที่ผ่านมา เรามีประสบการณ์การจัดงานระดับนี้มา 2 ครั้ง คือ ACB ในปี 2559 และ ACMECS ในครั้งนี้ ส่วนอีก 2 ครั้งข้างหน้า คืออาเซียนซัมมิทในปี 2562 และการประชุมเอเปกในปี 2565 ก็เป็นเรื่องของรัฐบาลต่อไป นี่คือความก้าวหน้าของประเทศไทย ขอให้ทุกคนช่วยกันผลักดันความร่วมมือเหล่านี้ให้เกิดผลลัพธ์เป็นรูปธรรม เป็นประโยชน์ต่อพวกเรา มิตรประเทศ เพื่อประชาชนในภูมิภาคอาเซียนและประชาคมโลกต่อไป” พล.อ.ประยุทธ์กล่าว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในการแถลงข่าวครั้งนี้ไม่อนุญาตให้สื่อมวลชนซักถามนายกฯ เนื่องจาก พล.อ.ประยุทธ์ มีภารกิจต่อเนื่องคือการร่วมรับประทานอาหารเที่ยงกับผู้นำประเทศกลุ่ม ACMECS และซีอีโอ และได้มอบหมายให้นายนิกรเดช พลางกูร รองอธิบดีกรมเศรษฐกิจระหว่างประเทศ กระทรวงการต่างประเทศ รับหน้าที่ตอบคำถามผู้สื่อข่าว ซึ่งนายนิกรเดชได้กล่าวถึงกรณีกองทุน ACMECS ที่ประเทศไทยจะมอบทุนประเดิมในการก่อตั้งว่า จะมีการประชุมของเจ้าหน้าที่ด้านการเงินการคลังในปีนี้ เพื่อพิจารณาจำนวนเงินในกองทุนดังกล่าว โดยให้ความสำคัญกับการมีส่วนร่วมของประเทศสมาชิกและพิจารณาถึงเงื่อนไขข้อกฎหมายประกอบด้วย
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี