18 มิ.ย.61 ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการขับเคลื่อนการแก้ไขปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้(คปต.) ครั้งที่ 3/2561 ที่ประชุมรับทราบความก้าวหน้าการจัดทำแผนอัตรากำลังพลตำรวจหน่วยปฏิบัติการพิเศษ(นปพ.) และตำรวจตระเวนชายแดน(ตชด.) ในพื้นที่รวม 4,700 อัตรา ให้มีความพร้อมรักษาความปลอดภัยในพื้นที่ในอนาคต และรับทราบการจัดทำแนวทางการจัดระเบียบชายแดนในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ เพื่อใช้เป็นกรอบให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ถือปฏิบัติ
นอกจากนี้ ที่ประชุมมีมติเห็นชอบ 3 เรื่อง คือ 1.แนวทางแก้ไขปัญหาการรังวัดที่ดิน กรณีการจัดหาที่ดินเพิ่มเติมเพื่อการดำเนินโครงการพัฒนาด่านศุลากรบูเก๊ะตา ต.โล๊ะจูด อ.แว้ง จ.นราธิวาส ให้มีความพร้อมปฏิบัติงานและเพื่ออำนวยความสะดวกในการผ่านแดนตามกฎหมายแก่ผู้เดินทางเข้า-ออก ค้าขาย ท่องเที่ยว รวมถึงผู้ประกอบการที่เข้ามาลงทุนในพื้นที่
2.โครงการขับเคลื่อนค่ายพัฒนาเพื่อการเรียนรู้สังคมพหุวัฒนธรรม เพื่อส่งเสริมการสร้างความเข้าใจที่ถูกต้อง นำไปสู่การอยู่ร่วมกันในสังคมพหุวัฒนธรรมได้อย่างสันติสุข
3.โครงการจัดหาเรือยางตรวจการณ์ท้องแข็งในการใช้ลาดตระเวนทางน้ำในพื้นที่ เพื่อสนับสนุนการแก้ไขปัญหาการกระทำผิดกฎหมายตามแนวชายแดนให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น
4 .โครงการอาชีวศึกษาประชารัฐ จชต. เพื่อช่วยเหลือและสร้างโอกาสทางการศึกษาวิชาชีพแก่นักเรียนและเยาวชนในพื้นที่ ตั้งแต่ปี 2561 เป็นต้นไป
ทั้งนี้ พล.อ.ประวิตร ในฐานะประธาน คปต. ได้เน้นย้ำให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งจัดระเบียบชายแดนในพื้นที่โดยเร็ว โดยต้องคำนึงถึงความเป็นอยู่ของพี่น้องประชาชนในพื้นที่ รวมทั้งเน้นย้ำการดำเนินการด้านงบประมาณให้สอดคล้องกับเจตนารมณ์ของพระราชบัญญัติวินัยการเงินการคลังของรัฐ
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี