"มีชัย" แนะนักกฎหมายต้องมี "นิติทรรศนะ" ชี้จะต้อง "ซื่อตรงต่อวิชาชีพ - เปิดใจให้กว้าง - ก้าวตามให้ทันโลก" ดักคอ คนจ้องล้ม รธน. ควรคงหลักการเพื่อประโยชน์สุขของส่วนรวม ไม่ทำตามอำเภอใจ
18 มิ.ย. 61 ที่ห้องประชุม สุรเกียรติ์ เสถียรไทย ชั้น 4 อาคารเทพทวาราวดี คณะนิติศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย มีการปาฐกถา
ในหัวข้อ "ทิศทางการศึกษานิติศาสตร์ในอนาคตนับแต่รัฐธรรมนูญฉบับปัจจุบัน" เนื่องในโอกาสครบ 46 ปี ของคณะนิติศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ทั้งนี้นายมีชัย ฤชุพันธุ์ ประธานคณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ (กรธ.) เป็นผู้กล่าวปาฐกถาดังกล่าว
โดยนายมีชัย กล่าวปาฐกถาว่า ตอนที่ร่างรัฐธรรมนูญฉบับปัจจุบัน ก็ได้ตั้งคำถามกับตัวเองว่า ปัญหาทั้งหลายทั้งปวงที่มีอยู่ ในประเทศไทย ตั้งแต่ปัญหารากหญ้าจนกระทั่งปัญหาทางการเมือง ไปจนถึงผู้บริหารสูงสุด เกิดจากอะไร ซึ่งคำตอบที่ได้รับก็คือ เกิดจากการขาดวินัยของบุคคล รู้จักแต่สิทธิของตัวเอง แต่ไม่รู้หน้าที่ ดังนั้น ทาง กรธ. จึงสรุปว่า จะต้องทำให้คนมีวินัยให้ได้ แต่กฎหมายก็ไม่สามารถให้คนมีวินัยได้ ดังนั้น การศึกษาต่างหากถึงทำให้คนมีวินัยได้ ฉะนั้น ถ้าเรามุ่งแต่ให้การศึกษาเพื่อให้เด็กไปแข่งขันเพื่อความเป็นเลิศทางวิชาการแต่เพียงอย่างเดียวแล้ว ความรู้ทางวิชาการนั้น ก็อาจจะมาทำลายโลกได้ ถ้าคนนั้นไม่มีวินัย และไม่มีคุณธรรม ดังนั้นในรัฐธรรมนูญจึงเขียนบังคับให้รัฐ ต้องจัดการศึกษาตั้งแต่เด็กวัยแรกเกิดไม่เกิน 5 ขวบ เพื่อพัฒนาสมองเด็ก อีกทั้งความเหลื่อมล้ำไม่ใช่ความมีความจนอย่างเดียว ความเหลื่อมล้ำก็จะเกิดจากการได้รับการพัฒนาหรือไม่ได้รับการพัฒนาด้วย เพราะฉะนั้น สิ่งที่ต้องทำสิ่งแรกก็คือ การปฏิรูปการศึกษา โดยตั้งเป้าเอาไว้ 3 อย่างว่า จะต้องเป็นคนดี มีวินัย และให้เรียนตามความถนัด
นายมีชัย กล่าวต่อว่า สิ่งที่สองที่จะต้องปฏิรูปก็คือการปฏิรูปกระบวนการยุติธรรมและการบังคับใช้กฎหมาย อย่างเข้ม งวดกวดขัน ซึ่งตอนนี้มีกฎหมายมากกว่า 1,000 ฉบับ แต่มีเพียง 50-100 ฉบับ ที่ใช้ลงโทษ ที่เหลือไม่ได้ใช้ เพราะว่า ฝืนธรรมชาติของมนุษย์จนเกินไป สร้างภาระเกินกว่าที่บุคคลจะปฏิบัติตาม ต่อมา กำลังเจ้าหน้าที่ไม่เพียงพอ และที่สำคัญก็คือ กฎหมายที่ออกมา ไม่สมเหตุสมผล และเมื่อคนไม่มีวินัย การบังคับใช้กฎหมายไม่เข้มงวด ทำให้กฎหมายเป็นแต่เพียงเป็นกฎบังคับ เมื่อไหร่เจ้าหน้าที่จะเอาจริงก็ผิดได้ ดังนั้น ในรัฐธรรมนูญฉบับนี้จึงกำหนดทิศทางวางกรอบการออกกฎหมายมากขึ้นกว่ารัฐธรรมนูญที่ผ่านมา จึงหวังว่า ใครที่หัวสมัยใหม่ที่หวังจะยกเลิกรัฐธรรมนูญ ก็ควรคงตรงนี้ไว้ โดยควรจะคงหลักว่า ในการทำงานทุกองค์กร จะต้องปฏิบัติตามกฎหมาย ไม่ทำตามอำนาจอำเภอใจ และจะต้องเป็นไปเพื่อประโยชน์ส่วนรวมของประเทศชาติ และความผาสุกของประชาชนโดยรวม
“ในการร่างรัฐธรรมนูญครั้งนี้ เราระแวดระวังกฎหมายเป็นอย่างมาก เกือบจะเรียกได้ว่า เป็นตัวรังเกียจด้วยซ้ำไป เพราะฉะนั้น จึงเขียนไว้หลายที่ว่า ถ้าไม่จำเป็น ก็อย่าไปออกกฎหมาย โดยในรัฐธรรมนูญเขียนไว้ในมาตรา 26 ระบุว่า การจะออกกฎหมายได้ จะต้องเป็นไปตามเงื่อนไขที่รัฐธรรมนูญกำหนดเท่านั้น และมาตรา 77 ระบุกรอบและกระบวนการเอาไว้ว่า การจะออกกฎหมาย จะต้องไม่ขัดนิติธรรม ไม่จำกัดสิทธิ์เสรีภาพเกินสมควรแก่เหตุ ไม่กระทบศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ และจะต้องบอกเหตุผลด้วยว่า ในกฎหมายดังกล่าว ได้จำกัดสิทธิเสรีภาพไว้ตรงไหน โดยการออกกฎหมายจะต้องรับฟังความคิดเห็นของบุคคล เพื่อให้เขามาบอกว่า สิ่งที่คุณกำลังจะทำนั้น จะกระทบอะไรบ้าง เขาจะต้องมีหน้าที่อย่างไร คนที่จะออกกฎหมายต้องบอกว่า ภาระอะไรบ้างที่จะเกิดกับประชาชน และเมื่อกฎหมายออกแล้ว ก็จะต้องไปประเมินผลสัมฤทธิ์ว่า ผลที่คาดว่า จะเกิดขึ้นตามที่คิดไว้หรือไม่ ถ้าไม่เป็นไปตามที่คิด จะมีเหตุผลสมควรหรือไม่ที่จะยกเลิก” นายมีชัย กล่าว
นายมีชัยกล่าวด้วยว่า ขณะนี้ ไม่ใช่แค่ประเทศไทย ต่างประเทศก็คิดว่า กฎหมายมันเยอะมากเกินไป โดยมีคนคิดทำลายระบบกฎหมาย ชื่อบริษัทกิโยติน เขาทำมาหลายประเทศแล้ว ได้ยินว่า กำลังเข้ามาในประเทศไทย ซึ่งตนเชื่อว่า ครั้งนี้เขาทำไม่ได้ เพราะเขายังไม่รู้ว่า กฎหมายในประเทศไทยมีกี่ฉบับ แต่ในวันหนึ่งข้างหน้าภายใน 3 ปี จะรู้ว่า กฎหมายมีกี่ฉบับ เพราะจะมีระบบกลางรวบรวมข้อมูลอยู่ นอกจากนี้ก็ต้องเริ่มคิดแล้วว่า ผลิตนักกฎหมายไปทำอะไร
"ผมมองว่า สิ่งที่ต้องมีคือ นักกฎหมายที่มีนิติทรรศนะ คือ 1.จิตใจเป็นธรรม ซื่อตรงวิชาชีพ 2.รอบรู้และรู้รอบ เพราะมุมมองแต่ละวิชาชีพมีความคิดอ่านต่างกัน 3.เปิดใจกว้างรับความเห็นต่าง คนที่เป็นนักกฎหมายต้องเปิดใจกว้างให้ได้ ถ้าไม่เปิดคุณจะไม่เรียนรู้อะไรใหม่ได้เลย กฎหมายไม่ใช่ตัวเลขที่มีสูตรตายตัว การปฏิบัติจะหยุดเมื่อคำวินิจฉัยถึงที่สุด แต่ในทางวิชาการจะยังไม่หยุด ยังหาเหตุผลกันอยู่ แต่อย่าชี้หน้าด่าเขา เพราะแสดงว่า ใจไม่กว้าง 4. ต้องไม่ติดยึดทฤษฎี จนก้าวไม่ทันวิวัฒนาการ โดยเฉพาะทางไอทีที่มีการเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา ซึ่งเราต้องออกนอกกรอบให้ได้" นายมีชัย กล่าว
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี