วันที่ 25 มิถุนายน ที่แซร์กเลอ เดอ ลูนิยง แองแตร์อัลลิเย่ กรุงปารีส สาธารณรัฐฝรั่งเศส พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีกล่าวเปิดงานสัมมนา Thailand Business Forum ว่า ความสัมพันธ์ระหว่างไทยและฝรั่งเศสที่ดำเนินมาอย่างต่อเนื่องยาวนาน ซึ่งฝรั่งเศสเป็นคู่ค้าอันดับที่ 23 ของไทย และเป็นคู่ค้าอันดับที่ 4 ในสหภาพยุโรป ปีที่ผ่านมา ไทยและฝรั่งเศสมีมูลค่าการค้าระหว่างกันรวม 4,452 ล้านยูโร การส่งออกของไทยไปยังฝรั่งเศสในปี 2017 มีมูลค่า 1,507 ล้านยูโร และนำเข้าสินค้ามีมูลค่า 2,943 ล้านยูโร
ฝรั่งเศสยังมีบทบาทด้านการลงทุน ในประเทศไทย ทั้งแง่ของขนาดธุรกิจและสาขาการลงทุนที่ครอบคลุมทั้งภาคอุตสาหกรรมและภาคบริการ เช่น อากาศยาน ยานยนต์และชิ้นส่วน วัสดุก่อสร้าง พลังงาน และอิเล็กทรอนิกส์ หลายบริษัทฝรั่งเศสที่ไปลงทุนตั้งฐานการผลิตในไทยเพื่อเป็นฐานการผลิตเพื่อส่งออกรวมทั้งจำหน่ายในประเทศ โดย การส่งเสริมการลงทุนในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา มีการลงทุนจากฝรั่งเศสที่ได้รับอนุมัติให้การส่งเสริมการลงทุนจากบีโอไอ จำนวน 190 โครงการ มูลค่ารวมประมาณ 625 ล้าน ยูโร ด้านการท่องเที่ยว ปีที่ผ่านมานักท่องเที่ยวชาวไทยเดินทางมาเยือนฝรั่งเศสจำนวน 98,000 คน ขณะที่มีนักท่องเที่ยวจากฝรั่งเศสเดินทางไปยังประเทศไทย 739,852 คน
นายกรัฐมนตรีกล่าวเกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจไทยและแนวโน้มว่า อัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจของไทยปรับตัวดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง ในปี 2017 อัตราการเติบโตของผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ หรือ GDP ที่ร้อยละ 3.9 เศรษฐกิจไทยในไตรมาสแรกของปี 2018 ขยายตัวสูงถึงร้อยละ 4.8 ซึ่งเป็นอัตราการขยายตัวสูงสุดในรอบ 5 ปีจากภาวะการส่งออกและการท่องเที่ยวที่ดีขึ้นต่อเนื่อง คาดว่าปี 2018 ทั้งปีเศรษฐกิจไทยจะเติบโตได้ที่ ร้อยละ 4.2 – 4.7
ในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจ รัฐบาลประกาศใช้นโยบายประเทศไทย 4.0 ด้วยวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และนวัตกรรม ควบคู่ไปกับการเติบโตอย่างเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม รัฐบาลได้ประกาศอุตสาหกรรมเป้าหมายใหม่ ที่มีศักยภาพที่จะพัฒนาเพื่อสร้างมูลค่าเพิ่ม เช่น เกษตรและเทคโนโลยีชีวภาพ การแพทย์ เคมีและปิโตรเคมีชีวภาพ และดิจิทัล เพื่อยกระดับความเป็นอยู่ของประชาชน และสนับสนุนการปฏิรูปทางเศรษฐกิจ
สำหรับกรอบของยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปีนั้น ถือเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ของประเทศไทยมีแผนพัฒนาประเทศระยะยาว ที่ครอบคลุมการพัฒนาในหลายมิติ รวมถึงมีแผนการปฏิรูปด้านโครงสร้างพื้นฐานครั้งใหญ่ของประเทศ เช่น รถไฟความเร็วสูง ทางด่วน และระบบขนส่งสาธารณะแบบราง การขยายท่าเรือ สนามบิน และโครงสร้างพื้นฐานด้านดิจิทัล วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี เพื่อเชื่อมโยงความเจริญเติบโตเข้าไปยังพื้นที่ชุมชนและเพิ่มขีดความสามารถของประเทศ
ในตอนท้าย นายกรัฐมนตรีกล่าวเชิญชวนนักลงทุนจากใรั่งเศสเป็นส่วนหนึ่งของการเปลี่ยนแปลง ด้วยรัฐบาลนี้มีความมุ่งมั่นที่จะปฏิรูปประเทศไทยในทุกมิติ โดยการปฏิรูประบบราชการและการอำนวยความสะดวกนั้นเป็นหนึ่งใน 5 เรื่องเร่งด่วน ที่จะต้องดำเนินการให้เห็นผลก่อนการเลือกตั้งที่จะมีขึ้นในต้นปีหน้าตามโรดแมปที่ 3 ระยะสู่ความเป็นประชาธิปไตยที่ยั่งยืน ประเทศไทยกำลังอยู่ช่วงท้ายของระยะที่ 2 ซึ่งเป็นการปฏิรูปทั้งด้านการเมือง เศรษฐกิจและสังคม เพื่อเตรียมตัวให้พร้อมสำหรับระยะที่ 3 นั่นคือการเลือกตั้งตามกระบวนการประชาธิปไตยและส่งมอบภารกิจให้แก่รัฐบาลชุดต่อไป
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี