ผบ.ทบ.ตอกกลับ
ไม่มีทหารดูดสส.โคราช
เป็นขรก.ไม่ยุ่งการเมือง
‘วรชัย’แฉซ้ำท็อปบู๊ทขู่
ไม่ย้าย‘เดี๋ยวได้เจอดีกัน’
ผบ.ทบ.ปัดบิ๊กทหารเดินสายดูดอดีตสส.เข้า “พปชร.”ยารับราชการต้องไม่ยุ่งการเมืองหากตรวจพบต้องห้ามปราม “วิษณุ” ยันเดินสายหาสมาชิกไม่แปลก ใช้เงินล่อจะผิดหรือไม่ ต้องถาม“กกต.”ในส่วน‘พท.’แฉยังไม่หยุดดูด ยังไม่ถ่ายคลิปถ้าไม่หยุดเปิดคลิปเสียงแน่ ปูดเกรดเอได้30ล้าน มาเป็นพวงได้100ล้าน‘วรชัย’แฉใครไม่ยอมย้ายเข้าพรรคเจอขู่’เดี๋ยวได้เจอดีกัน’
เมื่อวันที่ 6กรกฎาคม พล.อ.เฉลิมชัย สิทธิสาท ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) กล่าวถึงกรณีที่พรรคเพื่อไทย (พท.) ออกมาระบุว่า มีนายทหารระดับสูงสังกัดกองทัพบกเคลื่อนไหวดึงนักการเมือง จ.นครราชสีมา ให้มาร่วมพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ว่า ตนไม่ทราบ ซึ่งโดยปกติทางทหารก็ไม่มีใครทำเช่นนั้นอยู่แล้ว เชื่อว่านายทหารในราชการไม่มีการไปเคลื่อนไหวทางการเมือง เพราะเป็นนโยบายของกองทัพ ซึ่งในเรื่องนี้ไม่ทราบในรายละเอียดจริงๆ ถ้ามีตนก็ต้องปรามและในการประชุมหน่วยขึ้นตรงกองทัพบก (นขต.ทบ.) วันที่ 6กรกฎาคมนี้ ได้สั่งการไปว่า ทหารต้องในจุดที่เหมาะสมในการทำหน้าที่
‘วิษณุ’ชี้เดินสายหาสมาชิกไม่ผิด
ด้าน นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีพรรคเพื่อไทย (พท.) ระบุว่ามีคลิปดูดอดีตสส.เข้าร่วมพรรคพลังประชารัฐ โดยเสนอผลประโยชน์ หากเป็นเช่นนั้นจริง จะมีผลต่อการตั้งพรรคพลังประชารัฐหรือไม่ ว่า ตนไม่ทราบและไม่รู้จักพรรคพลังประชารัฐ ส่วนการเดินสายหาสมาชิกพรรคการเมืองถือว่าผิดกฎหมายหรือไม่นั้น เรื่องดังกล่าวทุกพรรคสามารถทำได้ ไม่มีอะไรผิดปกติ กระบวนการหาสมาชิกไม่ได้ยุ่งยาก เดินคุยกันก็ไม่มีปัญหา แต่ที่บอกว่าพรรคการเมืองหาสมาชิกไม่ได้ หมายถึง การรับจดทะเบียนเป็นสมาชิก ซึ่งต้องประชุมใหญ่พรรค วันนี้เขาประชุมไม่ได้จึงมีปัญหา ถ้าจะหาเตรียมไว้ก็หาได้ ไม่เช่นนั้นจะจดทะเบียนตั้งพรรคได้อย่างไร
ใช้เงินซื้อผิดหรือไม่ต้องถามกกต.
เมื่อถามย้ำว่าถ้าอย่างนั้นการชวนมาร่วมพรรคตามธรรมดาถือว่าไม่ผิดใช่หรือไม่ นายวิษณุกล่าวว่า “ผมไม่ได้ตอบถึงขนาดนั้น ผมบอกว่าหากปกติไม่แปลก เพราะเรายอมรับความจริงว่าใครที่สนใจตั้งพรรคการเมืองก็ไปขอจดทะเบียนชื่อพรรคได้ แล้วเขาให้คนเรียกประชุมโดยขออนุญาต คสช.ได้ ก็แสดงว่าหาสมาชิกได้จึงไม่แปลก”เมื่อถามอีกว่า หากมีการเสนอเงินเพื่อดูดอดีต ส.ส.ตามที่เป็นข่าว ถือว่าเป็นความผิดหรือไม่ นายวิษณุ กล่าวว่า ตนไม่ขอตอบ เป็นหน้าที่ของคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) และหากหลักฐานชัดแล้วก็ไปถาม กกต.ถ้ากกต.บอกว่ากระทบก็กระทบ
พท.แฉเกรดA30ล.-ยกพวง100ล.
นายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด รักษาการรองโฆษกพรรคเพื่อไทย (พท.) กล่าวว่า ตามที่ตนได้กล่าวไปก่อนหน้านี้ถึงกระแสข่าวนายทหารชั้นผู้ใหญ่ เดินสายติดต่ออดีตส.ส.นครราชสีมา พรรคเพื่อไทย เพื่อมาหารือกับแกนนำ คสช.ที่ กทม.นั้น จนถึงขณะนี้ก็ยังมีความพยายามไม่เลิก นอกจากจะใช้ให้อดีต ส.ส.ที่คิดจะย้ายออกไปโทรศัพท์มาชักชวนแล้ว ยังคงมีการใช้ระดับแม่ทัพใหญ่ แม่ทัพน้อย ติดต่อและประสานกับอดีตส.ส.นครราชสีมาของพรรคอย่างต่อเนื่อง พร้อมทั้งเสนอค่าตอบแทนให้จำนวนมาก แว่วว่าถ้าเป็น ส.ส.เกรดเอก็ได้ 30ล้านบาท แต่ถ้ามาเป็นพวงก็อาจได้ถึง 100ล้านบาท
ขู่ปล่อยคลิปลอบดูดสส.โคราช
นอกจากนี้ยังมีข้อเสนอให้มาร่วมกันแบ่งเขตเลือกตั้งได้เอง การันตีว่าไม่มีแพ้ ทั้งนี้ อดีต ส.ส.ที่ไม่คิดจะย้ายออกไปจากพรรคเพื่อไทย ก็ใช้วิธีโทรศัพท์กดดันเขาเช้าเย็น แถมข่มขู่ว่าถ้าไม่ย้ายออกมาจะมีปัญหา อ้างว่าขนาด นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ ยังโดนดำเนินคดีจำนวนมาก ตนเชื่อว่าไม่มีใครกลัว ยิ่งเอาแกนนำ คสช.มาอ้างด้วยยิ่งไม่มีใครกลัว ทุกคนตัวเท่ากันหมด การใช้วิธีกดดันสารพัดกับคนที่ไม่คิดจะย้ายออกไปนั้น ผมมองว่ามันไม่ถูกต้อง ดังนั้นที่ผมบอกว่าจะมีคลิปแฉนั้น ตอนนี้ยังไม่ได้ถ่ายหรืออัดคลิปไว้ หากพูดกันรู้เรื่องก็ไม่มีอะไร แต่ถ้าผู้มีอำนาจยังไม่หยุดใช้วิธีรุกล้ำพื้นที่ส่วนตัวของอดีต สส.ของพรรค ก็อาจจะมีคลิปเสียงออกมาและถ้าพวกท่านยังไม่เลิก ก็อาจจะมีคลิปภาพตามมาอีกด้วย” นายอนุสรณ์ กล่าว
‘วรชัย’ปูดคำขู่’เดี๋ยวได้เจอดีกัน’
ขณะที่ นายวรชัย เหมะ อดีตส.ส.สมุทรปราการ พรรคเพื่อไทย กล่าวว่า วันนี้รัฐบาลพยายามทำทุกอย่างเพื่ออยู่ในอำนาจต่อ ทั้งเขียนกติกาเอื้อให้กับกลุ่มคนที่จะเข้ามาสนับสนุนตัวเองให้ได้เป็นรัฐบาลต่อ ใช้การลงพื้นที่ของนายกฯ ในการหาเสียงโน้มน้าวใจประชาชนเพื่อสร้างคะแนนให้ตัวเอง โดยเฉพาะโครงการประชารัฐ และยังใช้ชื่อโครงการของรัฐไปตั้งพรรคการเมืองที่จะหนุนตัวเองเข้ามามีอำนาจอีก ยิ่งตอนนี้กระแสดูดอดีตส.ส.เข้าพรรคการเมืองที่สนับสนุนเผด็จการยิ่งรุนแรง ใช้ข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ทั้งสีกากีและสีเขียวไปโน้มน้าวอดีตส.ส. ซึ่งดูดโดยผลประโยชน์ ใครไม่ยอมก็ข่มขู่ ในพื้นที่ จ.นครราชสีมาถึงขั้นมีคำพูดกับคนที่ไม่ยอมเข้าร่วมว่า “เดี๋ยวได้เจอดีกัน”หลังจากนั้น2-3วันก็มีหมายมาที่บ้าน ใครไม่ยอมเข้าร่วมแล้วมีคดีอะไรติดตัวจะเจอเช่นนี้กันหมด
สนช.ลงมติผ่านร่างยุทธศาตร์ชาติ
ที่รัฐสภา มีการประชุมสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) เพื่อพิจารณาร่างยุทธศาสตร์ชาติ ที่มี นายสุรชัย เลี้ยงบุญเลิศชัย รองประธานสนช.คนที่1 เป็นประธาน โดยที่ประชุมมีมติเอกฉันท์ 179 คะแนนเห็นชอบกับร่างยุทธศาสตร์ชาติ ซึ่งขั้นตอนต่อไป พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี จะนําขึ้นทูลเกล้าทูลกระหม่อมถวายภายใน 20วัน เพื่อมีพระบรมราชโองการประกาศใช้เป็นยุทธศาสตร์ชาติ อันจะมีผลใช้บังคับเป็นเวลา 20ปี ตามพรบ.จัดทำยุทธศาสตร์ชาติพ.ศ.2560 ทั้งนี้ เมื่อมีพระบรมราชโองการประกาศใช้ยุทธศาสตร์ชาติแล้ว ให้คณะกรรมการจัดทํายุทธศาสตร์ชาติแต่ละด้าน จัดทําแผนแม่บทเพื่อบรรลุเป้าหมายตามที่กําหนดไว้ในยุทธศาสตร์ชาติเสนอต่อคณะกรรมการพิจารณาให้ความเห็นชอบก่อนเสนอคณะรัฐมนตรีต่อไป
มีแผนงาน6ด้านพัฒนาประเทศ
สำหรับร่างยุทธศาสตร์มีสาระสำคัญ 6 ด้านดังนี้ 1.ยุทธศาสตร์ชาติด้านความมั่นคงมีเป้าหมายการพัฒนาที่สำคัญ คือ ประเทศชาติมั่นคง ประชาชนมีความสุข เน้นการบริหารจัดการสภาวะแวดล้อมของประเทศให้มีความมั่นคง ปลอดภัย และมีความสงบเรียบร้อยในทุกระดับ ควบคู่ไปกับการป้องกันและแก้ไขปัญหาด้านความมั่นคงที่มีอยู่ในปัจจุบันและที่อาจจะเกิดขึ้นในอนาคต 2.ยุทธศาสตร์ชาติด้านการสร้างความสามารถในการแข่งขัน มุ่งเน้น การยกระดับศักยภาพของประเทศในหลากหลายมิติบนพื้นฐานแนวคิด 3ประการ ได้แก่ (1) “ต่อยอดอดีต” โดยมองกลับไปที่รากเหง้านำมาประยุกต์ผสมผสานให้สอดรับกับ บริบทของเศรษฐกิจและสังคมโลกสมัยใหม่ (2) “ปรับปัจจุบัน” เพื่อปูทางสู่อนาคต ผ่านการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานของประเทศในมิติต่างๆ (3) “สร้างคุณค่าใหม่ในอนาคต” ด้วยการเพิ่มศักยภาพของผู้ประกอบการ เพื่อตอบสนองต่อความต้องการของตลาด
3.ยุทธศาสตร์ชาติด้านการพัฒนาและเสริมสร้างศักยภาพทรัพยากรมนุษย์ เพื่อพัฒนาคนในทุกมิติและในทุกช่วงวัยให้เป็นคนดี เก่ง มีคุณภาพ และเป็นพลเมืองดีของชาติ 4.ยุทธศาสตร์ชาติด้านการสร้างโอกาสและความเสมอภาคทางสังคมให้ความสำคัญการดึงเอาพลังของ ภาคส่วนต่างๆ ร่วมขับเคลื่อน โดยการสนับสนุนการรวมตัวของประชาชนในการร่วมคิดร่วมทำเพื่อส่วนรวม 5.ยุทธศาสตร์ชาติด้านการสร้างการเติบโตบนคุณภาพชีวิตที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม มีเป้าหมายเพื่อนำไปสู่การบรรลุเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนในทุกมิติและ6.ยุทธศาสตร์ชาติด้านการปรับสมดุลและพัฒนาระบบการบริหารจัดการภาครัฐ มีเป้าหมายเพื่อปรับเปลี่ยนภาครัฐ โดยภาครัฐต้องมีขนาดที่เหมาะสมกับบทบาทภารกิจ และพร้อมที่จะปรับตัวให้ทันต่อการเปลี่ยนแปลงของโลกอยู่ตลอดเวลา และสร้างจิตสำนึกในการปฏิเสธไม่ยอมรับการทุจริตประพฤติมิชอบอย่างสิ้นเชิง
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี