ทุจริตโครงการบ่อบำบัดน้ำเสียคลองด่าน ศาลฎีกาสั่งจำคุกจำเลย3-6ปี ทั้ง"วัฒนา อัศวเหม"-6ผู้บริหารวิจิตรภัณฑ์ก่อสร้าง-บริษัทเกตเวย์ดิเวล-ปาล์มบีชฯปรับ4บริษัท ยกฟ้อง "สังวรณ์ ลิปตพัลลภ"กรรมการบริษัทประยูรวิศว์การช่าง กับพวกรวม5คน
13 ก.ค.61 ห้องพิจารณา 407 ศาลแขวงดุสิต ซ.สีคาม ถ.นครไชยศรี ศาลได้อ่านคำพิพากษาศาลฎีกา คดีหมายเลขดำ 254/2547 ที่กรมควบคุมมลพิษ (คพ.) กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เป็นโจทก์ ยื่นฟ้อง 1.กิจการร่วมค้า เอ็นวีพีเอสเคจี หรือ NVPSKG (ศาลมีคำสั่งไม่รับฟ้องตั้งแต่ชั้นไต่สวนมูลฟ้องโจทก์) 2.บริษัท วิจิตรภัณฑ์ก่อสร้าง 3.นายพิษณุ ชวนะนันท์ กรรมการบริษัท วิจิตรภัณฑ์ก่อสร้าง 4.บริษัท ประยูรวิศว์การช่าง 5.นายสังวรณ์ ลิปตพัลลภ กรรมการบริษัท ประยูรวิศว์การช่าง 6.บริษัท สี่แสงการโยธา (1979) 7.นายสิโรจน์ วงศ์สิโรจน์กุล กรรมการบริษัท สี่แสงการโยธา
8.บริษัท กรุงธนเอนยิเนียร์ 9.นายนิพนธ์ โกศัยพลกุล กรรมการบริษัท กรุงธนเอนยิเนียร์ 10.บริษัท เกตเวย์ดิเวลลอปเมนท์ 11.นายรอยอิศราพร ชุตาภา กรรมการบริษัท เกตเวย์ดิเวลลอปเมนท์ 12.บริษัท คลองด่านมารีน แอนด์ ฟิชเชอรี่ 13.นายชาลี ชุตาภา กรรมการบริษัท คลองด่านมารีนฯ 14.นายประพาส ตีระสงกรานต์ กรรมการบริษัท คลองด่านมารีนฯ 15.นายชยณัฐ โอสถานุเคราะห์ กรรมการบริษัท คลองด่านมารีนฯ 16.บริษัท ปาล์ม บีช ดิเวลลอปเมนท์ 17.นางบุญศรี ปิ่นขยัน กรรมการบริษัท ปาล์ม บีชฯ 18.นายกว๊อกวา โอเยง สัญชาติฮ่องกง ในฐานะผู้แทนบริษัท ปาล์ม บีชฯ และ 19.นายวัฒนา อัศวเหม อดีต รมช.มหาดไทย (หนีคดีตั้งแต่ปี 2552 ซึ่งศาลออกหมายจับไว้อยู่แล้ว) เป็นจำเลยที่ 1 - 19 ในความผิดฐานฉ้อโกงการจัดซื้อที่ดิน อ.คลองด่าน จ.สมุทรปราการ เนื้อที่รวม 1,900 ไร่ มูลค่า 1.9 พันล้านบาท เพื่อก่อสร้างบ่อบำบัดน้ำเสียคลองด่าน แต่ที่ดินนั้นกลับเป็นกลุ่มบริษัทจัดหามาแล้ว ที่ดินนั้นเป็นคลอง ถนนสาธารณะ และป่าชายเลน และฉ้อโกงสัญญาก่อสร้างฯ มูลค่าประมาณ 2.3 หมื่นล้านบาท คดีนี้จำเลยทั้งหมดให้การปฏิเสธ โดยคดีนี้ศาลแขวงดุสิต พิพากษาให้จำคุกพวกจำเลย และสั่งปรับบริษัทฯ ซึ่งเป็นนิติบุคคล
ต่อมาพวกจำเลยยื่นอุทธรณ์ และศาลอุทธรณ์พิเคราะห์แล้วเห็นว่า พวกจำเลยไม่มีความผิด จึงพิพากษากลับ ให้ยกฟ้องพวกจำเลยทั้งหมด
กรมควบคุมมลพิษ โจทก์ ยื่นฎีกา ขอให้พิพากษาลงโทษพวกจำเลยด้วย
ศาลฎีกา ตรวจสำนวนประชุมปรึกษาหารือแล้วเห็นว่า มีพวกจำเลยบางส่วนกระทำผิด และมีพวกจำเลยไม่ได้กระทำผิด
ศาลฎีกาจึงพิพากษาแก้ให้จำคุก นายพิษณุ ชวนะนันท์ กรรมการบริษัทวิจิตรภัณฑ์ก่อสร้าง จำเลยที่ 3 และนายรอยอิศราพร ชุตาภา กรรมการบริษัทเกตเวย์ดิเวลลอปเมนท์ จำเลยที่ 11 คนละ 6 ปี ฐานร่วมกันฉ้อโกงการซื้อทีดิน 1.9 พันล้านบาท และฉ้อโกงสัญญาจ้างก่อสร้างโครงการก่อสร้างบ่อบำบัดน้ำเสีย อ.คลองด่าน จ.สมุทรปราการ มูลค่า 2.3 หมื่นล้านบาท และจำคุกคนละ 3 ปี ตามศาลชั้นต้นกรณีฉ้อโกงการจัดซื้อที่ดิน รวม 7 คนคือ นายชาลี ชุตาภา กรรมการบริษัทคลองด่านมารีนฯ จำเลยที่ 13 , นายประพาส ตีระสงกรานต์ กรรมการบริษัทคลองด่านมารีนฯ ที่ 14 , นายชยณัฐ โอสถานุเคราะห์ กรรมการบริษัทคลองด่านมารีนฯ ที่ 15 , นางบุญศรี ปิ่นขยัน กรรมการบริษัท ปาล์ม บีชฯ ที่ 17 และนายวัฒนา อัศวเหม อดีต รมช.มหาดไทยที่ 19 (หนีคดีตั้งแต่ปี 2552 ซึ่งศาลออกหมายจับไว้อยู่แล้ว)
นอกจากนี้ ศาลฎีกายังสั่งปรับบริษัทวิจิตรภัณฑ์ก่อสร้าง ที่ 2 , บริษัทเกตเวย์ดิเวลลอปเมนท์ ที่ 10 รายละ 12,000 บาท ที่ร่วมกันฉ้อโกงการซื้อที่ดิน และฉ้อโกงสัญญาจ้างก่อสร้างงาน และบริษัท คลองด่านมารีน แอนด์ ฟิชเชอรี่ ที่ 12 และบริษัท ปาล์ม บีช ดิเวลลอปเมนท์ ที่ 16 รายละ 6,000 บาท ที่ร่วมกันฉ้อโกงการซื้อที่ดินด้วย
อย่างไรก็ดี สำหรับจำเลยที่ออกหมายจับไปแล้ว ให้ติดตามตัวมารับโทษตามคำพิพากษาต่อไป
ขณะที่วันนี้ ศาลก็ให้ออกหมายจับ นายสิโรจน์ วงศ์สิโรจน์กุล กรรมการบริษัทสี่แสงการโยธา จำเลยที่ 7 ด้วยที่ไม่มาศาลตามนัดซึ่งศาลไม่เชื่อว่าป่วยจนมาศาลไม่ได้ และ นายกว๊อกวา โอเยง สัญชาติฮ่องกง ในฐานะผู้แทนบริษัท ปาล์ม บีชฯ จำเลยที่ 18 ซึ่งได้รับหมายศาลโดยชอบแล้วไม่มาศาล ซึ่งทั้งสองคนนี้ก็ต้องให้ออกหมายจับครบ 1 เดือน แล้วถ้ายังไม่ได้ตัวมาศาล ก็จะอ่านคำพิพากษาลับหลังจำเลยในส่วนของ 2 คนนี้ ซึ่งศาลยังไม่ได้กำหนดวันนัด
ทั้งนี้ ในส่วนบริษัทประยูรวิศว์การช่าง ที่ 4 นายสังวรณ์ ลิปตพัลลภ กรรมการบริษัทประยูรวิศว์การช่าง ที่ 5 นายสิโรจน์ วงศ์สิโรจน์กุล กรรมการบริษัทสี่แสงการโยธา ที่ 7 บริษัท กรุงธนเอนยิเนียร์ ที่ 8 และนายนิพนธ์ โกศัยพลกุล กรรมการบริษัทกรุงธนเอนยิเนียร์ ที่ 9 ศาลฎีกาพิพากษายกฟ้อง ฐานฉ้อโกงสัญญาจ้างงาน และฉ้อโกงการซื้อขายที่ดิน เพราะไม่ได้รับเงินไปกับไม่มีพฤติการณ์ที่เกี่ยวข้องในการกระทำผิด
ภายหลังอ่านคำพิพากษาเสร็จสิ้นกว่า 2 ชั่วโมง เมื่อเวลา 15.30 น.เศษ บรรดาญาติจำเลยกว่า 10 คน ได้เตรียมอาหารกล่องสำหรับอาหารมื้อเย็น และยารักษาโรคประจำตัวของจำเลยที่ศาลฎีกาสั่งจำคุกเตรียมไว้ให้กับเจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ เพื่อนำไปให้จำเลยที่ต้องถูกคุมขังในเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ และทัณฑสถานหญิงกลางต่อไป
ด้าน นายณกฤช เศวตนันทน์ ทนายความ ของกรมควบคุมมลพิษ กล่าวว่า นับว่าเป็นความสำเร็จในการดำเนินคดีที่ยื่นฟ้องตั้งแต่ปี 47 กระทั่งศาลฎีกาพิพากษาลงโทษจำเลยบางส่วน และยกฟ้องบางส่วนในวันนี้ สำหรับความผิดทางแพ่งฐานกระทำละเมิด กรมควบคุมมลพิษจะดำเนินการฟ้องร้องเรียกค่าเสียหาย จำนวน 23,000 ล้านบาทต่อไป
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี