นัดเลือกปธ.31กค.
เลขาวุฒิฯเชิญ5เสือกกต.ประชุม
เพื่อไทยเย้ยพลังดูดแผ่ว
วางแผนทำศึกเลือกตั้ง
บอกทีมอีสานเริ่มลงตัว
เลขาธิการวุฒิสภา ร่อนสารถึง 5 เสือ กกต.ประชุมเลือกประธานในวันที่ 31 กรกฎาคมนี้ ด้านเพื่อไทย เย้ยแผนดูดของ คสช.แผ่วแล้ว ชู 4 ตัวเต็งนำทัพเพื่อไทยทำสงครามเลือกตั้ง
เมื่อวันที่ 14 กรกฎาคม นายนัฑ ผาสุข เลขาธิการวุฒิสภากล่าวถึงขั้นตอนการเลือกประธานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) เพื่อนำไปสู่การทูลเกล้าฯ ทั้ง 5 กกต. ว่า ได้ส่งหนังสือนัดไปยัง บุคคลที่สมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) ลงมติเห็นชอบให้ดำรงตำแหน่งเป็นกกต.ทั้ง 5 รายแล้ว โดยกำหนดให้ผู้ได้รับการเห็นชอบดำเนินการต่างๆที่อาจเป็นการขัดต่อลักษณะต้องห้ามตามพ.ร.ป.ว่าด้วยพรรคการเมืองให้เรียบร้อย เช่น การลาออกจากตำแหน่งผู้พิพากษาหรือข้าราชการระดับสูงที่ต้องได้รับการโปรดเกล้าฯให้พ้นจากตำแหน่ง ซึ่งต้องนำหลักฐานมาแสดงต่อตนและนายพรเพชร วิชิตชลชัย ประธานสนช. ภายใน 15 วัน ซึ่งจะครบกำหนดวันที่ 26 ก.ค.นี้
นายนัฑ กล่าวว่า ตนได้นัดหมายให้กกต.ทั้ง 5 คน ร่วมกันประชุมเพื่อเลือกบุคคลให้ดำรงตำแหน่งเป็นประธานกกต.ในวันที่ 31 ก.ค. เวลา 14.00 น. ที่อาคารรัฐสภา2 นอกจากนี้ยังได้นัดหมาย พ.ต.อ.จรุงวิทย์ ภุมมา เลขาธิการกกต.มาร่วมประชุม เพื่อชี้แจงและหารือแนวทางการทำงานร่วมกับประธานและกกต.ชุดใหม่ทั้ง 5 คน ด้วย จากนั้นนายพรเพชรก็จะนำรายชื่อประธานและกกต.ทั้ง 5 คน ขึ้นทูลเกล้าฯต่อไป
“ส่วนการสรรหากกต.อีก 2 คนที่ยังขาดอยู่นั้น ผมจะทำการนัดหมายคณะกรรมการสรรหาอีกครั้งหลัง จากวันที่ 31 ก.ค. ซึ่งจะใช้เวลาการสรรหาอีก 2 คน ไม่เกิน 90 วัน” เลขาฯวุฒิกล่าว
เพื่อไทยพร้อมทำศึกเลือกตั้ง
ผู้สือข่าวรายงานว่า ช่วงกลางสัปดาห์ที่ผ่านมา อดีต ส.ส.อีสาน ภาคกลาง พรรคเพื่อไทยหลายคน อาทิ นายเกรียง กัลป์ตินันท์ , นายสมคิด เชื้อคง อดีต ส.ส.อุบลราชธานี , นายวรชัย เหมะ อดีต ส.ส.สมุทรปราการ , นายเจริญ จรรโกมลย์ อดีตรองประธานสภาฯ และอดีต ส.ส.ชัยภูมิ , นายไชยา พรหมา อดีต ส.ส.หนองบัวลำภู , นายพิชัย นริพทะพันธ์ อดีต รมว.พลังงาน และนายประยุทธ์ ศิริพาณิชย์ ประธาน ส.ส.ภาคอีสาน และอดีต ส.ส.มหาสารคาม ได้นัดรับประทานอาหารที่ย่านเมืองทองธานี โดยมีการหารือประเด็นการเมืองหลายประเด็นทั้งเรื่องในพรรคและนอกพรรค
นายสมคิด เชื้อคง อดีต ส.ส.อุบลราชธานี พรรคเพื่อไทย ยอมรับว่า มีการนัดหารือกันในกลุ่ม ส.ส.ที่สนิทสนมกัน พูดคุยกันเรื่องไพรมารีโหวต เรื่องผู้นำพรรค เรื่องผู้ว่าฯ กทม. เรื่องอดีต ส.ส.ในพื้นที่ ใครจะอยู่ ใครจะไปบ้าง ส่วนใหญ่เป็นการพูดคุยแลกเปลี่ยนถึงความพร้อมมองไปถึงหลังปลดล็อกนักการเมือง พรรคการเมือง จะต้องทำอะไรบ้าง โดยเฉพาะประเด็นหัวหน้าพรรค ที่สมาชิกต่างอยากให้เกิดความชัดเจน ถ้าเลือกโดยเร็วก็ดี จะได้มีหัว แต่ในวงไม่ได้มีการระบุถึงใครเป็นพิเศษ หรือระบุว่าใครเหมาะสม ความเห็นส่วนตัวมองว่า บุคคลที่เหมาะสมมีหลายท่าน อาทิ คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธ์ , นายจาตุรนต์ ฉายแสง , นายพงศ์เทพ เทพกาญจนา รวมถึงนายภูมิธรรม เวชยชัย ที่ทำงานกับพรรคมานาน ก็มีความเหมาะสม แต่ผลจะเป็นอย่างไรคงแล้วแต่กรรมการบริหาร และสมาชิกพรรคเลือก
บอกกระแสดูดไม่ครึกโครม
“กระแสข่าวการดูดนั้น ก็ยังมี เท่าที่รู้มา ยังมีการส่งเจ้าหน้าที่ เพื่อนฝูง หรือคนที่สนิทสนมรู้จักส.ส.มาชักชวนให้ไปอยู่กับอีกฝ่าย แต่ไม่คึกโครม เพราะมีบทเรียน โดยพูดกันว่า ออกไปเถอะ ยังไงเพื่อไทยก็สลายอยู่แล้ว เขาต้องทำให้สลาย การเลือกตั้ง หน่วยงานต่างๆ ในจังหวัด อำเภอ จะดูแลช่วยเหลือเต็มที่ในการทำงานการเมือง ซึ่งคนที่มาพูดคุยต่างย้ำเรื่องการจะย่อยสลายพรรคเพื่อไทย ทำให้เล็กลง มีการใช้อำนาจรัฐมาล่อให้ไปอยู่อีกฝ่าย การดูด ยังทำอย่างต่อเนื่อง เพียงแต่อาจจะเปลี่ยนวิธีไปบ้าง เชื่อว่าจะยังมีไปจนถึงใกล้วันรับสมัครรับเลือกตั้ง พวกเราต่างอยากให้มีการปลดล็อกการเมืองโดยเร็ว จะได้เตรียมตัวกันในการเดินไปสู่สงครามการเลือกตั้ง” นายสมคิด กล่าว
นายสมคิด กล่าวอีกว่า นายประยุทธ์ ศิริพาณิชย์ ยังได้สะท้อนออกมาว่า ก่อนหน้ามีความพยายามจากบางฝ่ายมาดึงอดีต ส.ส.ในพื้นที่ไป พวกที่จะออกไป ยังเป็นรายชื่อเก่าๆ ที่เคยมีข่าวออกมา แต่ตอนนี้เริ่มนิ่งแล้ว ส่วน จ.อุบลราชธานี ก็อาจมีบางพวกที่เป็นข่าวน่าจะไป ถึงขนาดจะพากันไปต้อนรับนายกรัฐมนตรีฯ ที่จะลงพื้นที่ไปประชุม ครม.สัญจร ในช่วงปลายเดือนนี้ แต่ตนไม่มีใครมาชักชวนให้ไปร่วมงานพรรคอื่น
นอกจากนี้ ยังมีการหารือไปถึงการเตรียมความพร้อมในการเลือกตั้งผู้ว่า กทม.แม้จะยังไม่รู้จะเกิดเมื่อใด ผู้สมัครในพรรคจะเป็นใคร แต่ส่วนตัวเห็นว่าการบัญชาการ ดูภาพรวมคุณหญิงสุดารัตน์เหมาะสมที่จะมาทำหน้าที่ตรงนี้ เพราะท่านมีประสบการณ์
เมื่อถามถึงความกังวล หลังมีกระแสข่าวออกมา จะมีการเช็กบิลอดีต ส.ส.เพื่อไทย ที่เข้าชื่อเสนอร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรม ฉบับสุดซอยในเร็ววัน นายสมคิด กล่าวว่า ไม่กังวล ขอให้ว่ากันไปตามกระบวนการ ไม่กังวล ในวงไม่ได้หารือกันเรื่องนี้ ก็ขอให้ว่ากันไปตามข้อเท็จจริง เราไม่กังวล
ห่วงคลิปแม้วถึงขั้นยุบพรรค
เมื่อถามอีกว่า ยังมีเรื่องประเด็นคลิปนายทักษิณ ที่เข้าข่ายคนนอกมาสั่งการเรื่องในพรรค ที่ กกต.ก็สอบสวนอยู่เช่นกัน และมีการมองกัน โยงกันถึงขั้นไปถึงการยุบพรรค นายสมคิด กล่าวว่า ถ้าจะโยงไปถึงการยุบพรรคมันก็ทำได้ แต่ทำแล้วจะถูกมองว่าเป็นการกลั่นแกล้งทางการเมืองหรือไม่ แล้วกับอีกฝ่ายดูดกันโครมๆ คลิปท่านทักษิณ ท่านก็พูดอวยพรกันปกติ เรายังคิดว่าไม่เป็นเรื่อง ถ้าจะยุบพรรคก็ต้องทำพรรคใหม่ แต่คิดว่าคงไม่น่า ส่วนเรื่องนี้ฝ่ายกฎหมายได้หารือในแนวทางใดไว้บ้างหรือไม่นั้น ตนไม่ทราบ เข้าใจว่าถ้าจะดูคงเป็นในส่วนคนเกี่ยวข้องด้านกฎหมายดู เช่น นายชูศักดิ์ ศิรินิล และนายนพดล ปัทมะ
เบื่อฟังเรื่องดูดนักการเมือง
นายศุภชัย ใจสมุทร รองเลขาธิการพรรคพรรคภูมิใจไทย (ภท.) กล่าวถึงความพร้อมของพรรคหากมีการปลดล็อคทางการเมือง และเดินหน้าเข้าสู้โรดแม็พในช่วงต้นปี 62 ว่าในส่วนของพรรคภูมิใจไทยเองถือว่าเหลือเวลาอีกไม่มากที่จะถึงวันเลือกตั้ง ซึ่งทางพรรคได้เตรียมความพร้อมมาอย่างตลอดต่อเนื่อง หากปลดล็อกทางการเมืองก็จะลุยได้เลยทันที ส่วนนโยบายของพรรคเรายังยึดประชาชนเป็นหลักสำคัญ พรรคต้องการที่จะแก้ปัญหาให้กับประชาชนทั้งในระยะเร่งด่วน และแก้ปัญหาในระยะยาว โดยเราเอาสภาพปัญหาเป็นตัวตั้งจากการพบปะกับพี่น้องประชาชนทั่วทุกภาค ถ้าหากนโยบายของเรานำไปสู่การปฏิบัติก็เชื่อว่าจะสามารถแก้ปัญหาได้จริง ยกตัวอย่างคือเรื่องการแก้ปัญหาราคาสินค้าเกษตรตกต่ำ ทั้ง ข้าว ยางพารา ปาล์มน้ำมัน ที่ผ่านมามันไม่ได้แก้แบบองค์รวม ดังนั้น จึงอยากฝากพี่น้องประชาชนว่า เมื่อถึงเวลาเดินเข้าคูหา ต้องให้ 1 คะแนนเสียงที่ท่านมีอยู่ ทำให้มันคุ้มค่าที่สุด เพราะเรามีบัตรเพียง 1 ใบ นั่นคืออำนาจที่ประชาชนมี อย่าให้เสียของ
เมื่อถามถึง พลังดูดจากลุ่มสามมิตร ที่เดินหน้าดูด อดีตส.ส. จากพรรคการเมืองต่างๆ ในขณะนี้ รองเลขาธิการพรรคภูมิใจไทย กล่าวว่า ตอนนี้พี่น้องประชาชนเบื่อจะฟังข่าวเรื่องพลังดูดทางการเมืองแล้ว และส่วนตัวก็เห็นว่าใครจะย้ายไปไหนก็เป็นสิทธิของท่าน แต่ท้ายที่สุดประชาชนจะเป็นผู้กำหนดว่าใครจะได้เป็นผู้แทนราษฎร เพราะฉะนั้น อย่าไปให้ความสำคัญมากนัก เพราะอาจเป็นแค่การปั่นราคาสร้างมูลค่าให้กับตัวเองมากกว่า
“ วันนี้เราต้องใช้กลไกการเลือกตั้งแก้ปัญหา รีบเลือกนายกรัฐมนตรีเพื่อให้การเมืองเข้าสู่การเมืองปกติ หลังจากนี้ก็ว่ากันไปตามระบอบรัฐสภา อย่าลากการเมืองออกไปข้างถนนอีกเหมือนที่ผ่านๆมา” นายศุภชัย กล่าว
นพดล ค้าน ยกเลิกสภาเขต กทม.
นายนพดล ปัทมะ แกนนำพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า ที่มีการเปิดรับฟังความเห็นประกอบการแก้กฎหมายที่จะไม่ให้ คนกรุงเทพฯเลือกสมาชิกสภาเขตหรือ สข. อีกต่อไป แต่จะให้มาจากการแต่งตั้งนั้น ตนไม่เห็นด้วยกับข้อเสนอนี้ เนื่องจากเป็นการสวนกระแสการกระจายอำนาจให้คนกรุงเทพฯมีสิทธิเลือกตัวแทนของตนไปดูแลงานในเขตต่างๆทั้ง 50 เขต สข. ที่ประชาชนเลือกน่าจะตอบสนองต่อความต้องการของประชาชนในเขตมากกว่าการได้รับการแต่งตั้ง อีกทั้งยังเป็นปากเป็นเสียงให้คนในชุมชนและหมู่บ้านต่างๆ
“การให้ประชาชนเลือกเอง คิดเองไม่ดีกว่าหรือ อีกทั้งสภาเขตเป็นเวทีฝึกฝนประชาธิปไตยแบบมีส่วนร่วมในระดับพื้นที่ด้วย คำถามที่ผู้เสนอแก้กฎหมายต้องตอบคือที่ผ่านมาหลายสิบปีการมีสข. มีปัญหาอะไร เป็นอุปสรรคในการทำงานอย่างไร ท่านยังเชื่อในการตัดสินใจของคนกรุงเทพหลายล้านคนหรือจะเชื่อในคนที่จะแต่งตั้งไม่กี่คน และถามว่าคนที่ประชาชนเลือกจะช่วยตรวจสอบการทำงานของเขต การใช้งบประมาณ ดีกว่าการแต่งตั้งหรือไม่”นายนพดล กล่าว
นายนพดล กล่าวว่า นอกจากไม่ควรยกเลิกสภาเขตแล้ว มีประเด็นว่าควรให้คนกรุงเทพเลือกผู้บริหารในเขตพื้นที่ของตนหรือไม่ เพราะคนที่ประชาชนเลือกด้วยตนเองน่าจะตอบสนองการแก้ไขปัญหาในเขตได้ดีกว่า ซึ่งในเรื่องนี้มีการพูดคุยเบื้องต้นในพรรคเพื่อไทย ถ้าได้ข้อสรุปอย่างไรคงจะได้รับฟังความเห็นจากชาวกรุงเทพฯต่อไปเมื่อสามารถทำได้ตามกฎหมายเนื่องจากปัญหาของคนกรุงเทพฯต้องแก้โดยคนกรุงเทพฯและต้องรับฟังความเห็นอย่างกว้างขวาง
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี