จัดบวงสรวงแบบชาวเหนือ
ทําบุญถ้ำหลวง
ร่วมอุทิศส่วนกุศลจ่าแซม
เล็งยกเป็นอุทยานแห่งชาติ
‘หมอภาคย์’เยี่ยม13หมูป่า
มั่นใจเติบโตขึ้นเป็น‘คนดี’
ทำคุณประโยชน์ให้ประเทศ
เชียงรายจัดพิธีทำบุญใหญ่ถ้ำหลวงแบบชาวเหนือ พร้อมอุทิศส่วนกุศลให้ “จ่าแซม” ขณะที่ “หมอภาคย์” เข้าเยี่ยม 13 ชีวิตทีมหมูป่า มั่นใจว่าเด็กๆ จะเติบโตขึ้นเป็นบุคลากรที่ยอดเยี่ยม ทำคุณประโยชน์และชื่อเสียงให้กับประเทศไทย อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติฯ เผยมีแผนพัฒนาพื้นที่แล้ว และกำลังจะทำประชาพิจารณ์เพื่อยกระดับเป็นอุทยานแห่งชาติ
เมื่อวันที่ 16 กรกฎาคม ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่บริเวณด้านหน้าถ้ำหลวง วนอุทยานถ้ำหลวง-ขุนน้ำนางนอน ต.โป่งผา อ.แม่สาย จ.เชียงรายครูบาแสงหล้า เจ้าอาวาสวัดสายเมือง จ.ท่าขี้เหล็ก ประเทศเมียนมา พระรัตนมุณี รองเจ้าคณะ จ.เชียงราย นำคณะสงฆ์ทั้งฝั่งไทยและเมียนมา ร่วมประกอบพิธีบวงสรวงเจริญพระพุทธมนต์ถ้ำหลวง เพื่อความเป็นสิริมงคลภายหลังจากเสร็จสิ้นภารกิจช่วยเหลือทีมหมูป่าอะคาเดมี แม่สาย จนปลอดภัยทั้ง 13 คน
ผู้ว่าฯเชียงราย-พะเยาร่วมพิธี
สำหรับในพิธีครั้งนี้ นายประจญ ปรัชญ์สกุล ผู้ว่าราชการ จ.เชียงราย นายณรงค์ศักดิ์ โอสถธนากร ผู้ว่าราชการ จ.พะเยา ในฐานะอดีตผู้บัญชาการศูนย์อำนวยการร่วมค้นหาผู้สูญหาย ในเขตวนอุทยานถ้ำหลวง–ขุนน้ำนางนอน จ.เชียงราย(ศอร.) นำส่วนราชการ กลุ่มพลังมวลชนร่วมประกอบพิธี โดยเริ่มตั้งแต่เวลา 09.09 น. มีพิธีขึ้นท้าวทั้งสี่ ประธานในพิธีจุดเทียนสักการะและประกอบพิธีตามขั้นตอน ในเวลา 09.39 น. ทำการบวงสรวง ประธานในพิธีจุดธูปเทียนบูชาเครื่องบวงสรวง เจ้าหน้าที่กล่าวโองการและประธานในพิธีพร้อมด้วยผู้ร่วมพิธีร่วมปักธูป จากนั้นในเวลา 10.09 น. มีพิธีเจริญพระพุทธมนต์และสวดมาติกาบังสุกุล โดยประธานจุดธูปเทียนบูชาพระรัตนตรัย อาราธนาศีล ประธานสงฆ์ให้ศีล เจ้าหน้าที่ลาดภูษาโยง
อุทิศส่วนกุศลให้“จ่าแซม”
ต่อมา ประธานในพิธีทอดผ้าบังสุกุล เพื่ออุทิศส่วนบุญส่วนกุศลไปยัง นาวาตรีสมาน กุนัน หรือจ่าแซม นักทำลายใต้น้ำจู่โจมนอกราชการ กองทัพเรือ ที่เสียชีวิตจากปฏิบัติการช่วยเหลือทีมหมูป่า เมื่อวันที่ 5 กรกฎาคม ก่อนที่พระสงฆ์จะพิจารณาผ้าบังสุกุล และชักผ้าบังสุกุล เมื่อเสร็จพิธีแล้วมีการถวายภัตตาหารจตุปัจจัยไทยธรรม พระสงฆ์อนุโมทนาและประธานกรวดน้ำรับพรเป็นอันเสร็จพิธีในช่วงเช้า
ส่วนช่วงบ่าย ในเวลา 15.00 น. ได้มีพิธีสวดถอน และพิธีปิดถ้ำ ซึ่งพิธีสวดถอนจัดขึ้นตามความเชื่อของคนไทยภาคเหนือ
ชาวบ้านนำของมาแก้บนหน้าถ้ำ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่บริเวณหน้าถ้ำพบว่าได้มีกลุ่มชาวบ้านจำนวนมากเดินทางมาจากที่ต่างๆ ทั้งไทยและเมียนมา นำดอกไม้ธูปเทียน นำขนมและผลไม้ไปวางถวายบริเวณทางเข้าถ้ำเพื่อบูชาสิ่งศักดิ์สิทธิ์โดยเฉพาะเจ้าแม่ดอยนางนอน
นางเจ หอม ตัวแทนกลุ่มแม่บ้านท่าขี้เหล็ก “ตา หวา จู” ได้นำกลุ่มแม่บ้านใน จ.ท่าขี้เหล็ก ประเทศเมียนมา ประมาณ 30 คน นำขนมและผลไม้ไปวางถวายไว้หน้าถ้ำโดยระบุว่าหลังจากเกิดเหตุใหม่ราววันที่ 24 มิถุนายน พวกซึ่งตนต่างมีบุตรในวัยเดียวกับที่ติดอยู่ในถ้ำ ต่างรู้สึกเป็นห่วงเด็กๆ อย่างมาก จึงได้เดินทางไปอธิษฐานจิตที่หน้าถ้ำขอให้พบเจอเด็กๆ ทั้งหมดโดยเร็ว หากพบก็จะนำขนมและผลไม้ไปวางถวายเพื่อแก้บนดังกล่าว พวกตนรู้สึกดีใจอย่างมากที่เจ้าหน้าที่สามารถพบตัวทั้ง 13 คน และเมื่อช่วยออกมาได้ พวกตนจึงนำสิ่งของมาบวงสรวงเพราะเชื่อว่าเจ้าแม่ดอยนางนอนได้ช่วยเหลือเอาไว้จริงดังกล่าว
“หมอภาคย์”เข้าเยี่ยม13หมูป่า
วันเดียวกัน “ภาคย์ โลหารชุน” หรือ พ.ท.นพ.ภาคย์ โลหารชุน ผู้บังคับกองพันเสนารักษ์ที่ 3 ค่ายสุรธรรมพิทักษ์ จ.นครราชสีมา หนึ่งในผู้ร่วมปฏิบัติภารกิจช่วยเหลือนักฟุตบอลเยาวชนและโค้ชทีมฟุตบอลหมูป่าอะคาเดมี ได้โพสต์ภาพขณะเข้าเยี่ยมและสวมกอดทุกคนในทีมหมูป่า อะคาเดมี และโค้ชรวม 13 ชีวิต ผ่านทางเฟซบุ๊ค ซึ่งทุกคนมีสีหน้าที่ยิ้มแย้ม แต่ยังคงรักษาตัวที่ รพ.เชียงรายประชานุเคราะห์ จ.เชียงราย
โดย หมอภาคย์ ได้โพสต์ข้อความว่า “เจอกันที่โคราชนะ สิ่งที่ผมประทับใจเด็กๆ ทีมหมูป่า - ความสดใสซื่อเดียงสา มองโลกในแง่ดี มีขวัญ กำลังใจดีเยี่ยม แม้จะอยู่ในสถาพแวดล้อม/สถาณการณ์วิกฤต ทุกวันเด็กๆ จะไปขุดโพรงหาทางออกโดยใช้เศษหิน (ได้ลึกถึง 5 เมตรเลย) ทั้งๆ ที่ไม่ได้กินข้าวกัน
- มีวินัย...รวมรวมเศษขยะ หลังกินแต่ละมื้อ ทิ้งลงถุงดำ โค้ชเอกสอนเด็กๆ เสมอว่าไม่ให้เก็บสิ่งของจากในถ้ำเอากลับไปเป็นของตนเอง...ซึ่งเด็กๆ ทุกคนก็เชื่อฟังและปฏิบัติตามเป็นอย่างดี
มั่นใจเติบโตเป็นบุคลากรที่ดี
-โค้ชเอก จิตใจดีงาม เป็นผู้เสียสละอย่างแท้จริง ผมแอบสังเกตตั้งแต่วันแรก เอกจะให้เด็กๆ อิ่มก่อนโดยแบ่งอาหารในส่วนของตนให้เด็กๆ
ผมมั่นใจในการดูแลเอาใจใส่เด็กๆ อย่างดีก่อนที่ทีมจะมาพบเด็กๆ เพราะสุขภาพกาย&ใจ ของเด็กๆทุกๆ คน ดีกว่าที่ผมคาดการณ์ไว้มากทีเดียว เด็กๆ ทีมหมูป่าทุกคนทราบถึงความเสียสละของทุกคนในการค้นหาพวกเค้าและผมมีความมั่นใจว่าเด็กๆหมูป่าจะเติบโตเป็นบุคลากรที่ยอดเยี่ยมของประเทศ ทำคุณประโยชน์ และชื่อเสียงให้ประเทศไทยในอนาคตต่อไป”
เผยมีแผนพัฒนาถ้ำหลวงแล้ว
ด้าน นายธัญญา เนติธรรมกุล อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช กล่าวถึงแผนการพัฒนาและฟื้นฟูวนอุทยานถ้ำหลวง–ขุนน้ำนางนอน จ.เชียงราย ว่า ขณะนี้มีแผนพัฒนาพื้นที่ทั้งฉบับร่าง ซึ่งมีทั้งระยะเร่งด่วน และระยะยาวแล้ว แต่รอให้ พล.อ.สุรศักดิ์ กาญจนรัตน์ รมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม พิจารณาตรวจสอบความสมบูรณ์ และให้คำแนะนำอีกครั้ง โดยจะมีการหารือในเร็วๆ นี้
เตรียมยกระดับเป็นอุทยานแห่งชาติ
เมื่อถามถึงการยกระดับวนอุทยานถ้ำหลวง-ขุนน้ำนางนอน เป็นอุทยานแห่งชาตินั้น นายธัญญา กล่าวว่า เป็นความต้องการของประชาชน และหลายภาคส่วน อยากให้มีการยกระดับ แต่การจะประกาศเป็นอุทยานแห่งชาตินั้น ต้องได้รับการเห็นชอบจากประชาชนในพื้นที่ และภาคส่วนที่เกี่ยวข้องด้วย ขณะนี้เราให้เจ้าหน้าที่ในพื้นที่ทำการสำรวจ เพื่อจะไปทำประชาพิจารณ์กับพี่น้องประชาชน ทั้งนี้ เมื่อถูกประกาศเป็นอุทยานแห่งชาติแล้วจำนวนเจ้าหน้าที่ดูแลความปลอดภัยจะเพิ่มมากขึ้น ซึ่งต้องดูแลหลายๆ สิ่งด้วยกัน อย่างไรก็ตาม ตนเพิ่งกลับมาจากการลงพื้นที่ พบว่ามีหลายจุดได้รับความเสียหายเยอะ
รอ รมต.สรุปแผนพัฒนาพื้นที่
เมื่อถามว่า จะออกแผนพัฒนาพื้นที่ได้เร็วที่สุดวันไหน นายธัญญา กล่าวว่า ต้องทำให้เร็วที่สุด รอให้รัฐมนตรีพิจารณาก่อนว่าแผนเร่งด่วนและแผนระยะยาวมีการดำเนินการครบถ้วนหรือไม่ หรือถ้ามีข้อสั่งการเพิ่มเติมจะเอามาใส่ในแผนได้ ถ้าผ่านจะดำเนินการต่อได้เลย ขณะนี้ตนได้เร่งให้เจ้าหน้าที่เร่งทำเอกสารประเมินราคา ปร.4 และ ปร.5 เพราะเกี่ยวกับเรื่องงบประมาณ ส่วนการที่มีสื่อไปลงข่าวจำนวนเงินในการดำเนินการนั้น ตนว่าไม่ใช่ เพราะแบบประเมินยังไม่ออกมาเลย
เตรียมจัดงานเลี้ยงขอบคุณ
ขณะที่ พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย กล่าวถึงการเตรียมการจัดงานเลี้ยงขอบคุณเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องในภารกิจช่วยเหลือโค้ชและนักฟุตบอลเยาวชนทีมหมูป่าอะคาเดมี ว่า จะมีการพูดคุยระดับผู้ปฏิบัติการว่าจัดงานอย่างไรจึงจะดีที่สุด โดยสถานที่จัดงานนั้นมีหลายส่วน ไม่ว่าจะเป็น กทม. แต่หากอยู่ห่างไกลอาจต้องกระจายไปที่อื่นด้วย เช่นที่ จ.เชียงราย เพราะมีประชาชนไปร่วมภารกิจช่วยเหลือเป็นจำนวนมาก จึงอาจไปจัดงานที่นั่นด้วย อย่างไรก็ตาม ต้องเสนอต่อ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) พิจารณาอีกครั้ง
ชื่นชมพลังจิตอาสา
พล.อ.อนุพงษ์ กล่าวว่า กรณีมีจิตอาสาเข้าไปช่วยเหลือฟื้นฟูพื้นที่ถ้ำหลวง ถือเป็นสิ่งที่ดีมากที่ทุกคนมาช่วยกันฟื้นฟู เพราะบริเวณนั้นมีคนเข้าไปอยู่เกือบครึ่งเดือน จึงต้องมาฟื้นฟูให้อยู่สภาพเดิม ในส่วนของราชการโดยเฉพาะกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.) คงต้องมาพิจารณาว่าจะพัฒนาพื้นที่อย่างไรในอนาคต เพราะพื้นที่ดังกล่าวน่าจะเป็นพื้นที่ประวัติศาสตร์ได้
เมื่อถามว่า กระทรวงมหาดไทยได้มีการถอดบทเรียนกรณีดังกล่าวอย่างไรบ้าง พล.อ.อนุพงษ์ กล่าวว่า ครั้งนี้ถือว่าหลายหน่วยงานได้มาบูรณาการร่วมกัน โดยจะต้องทำเป็นแผนเอาไว้ว่าต้องทำอะไรบ้าง เพื่อเป็นแบบให้พื้นที่อื่นนำไปศึกษาหากจำเป็นต้องใช้ กรณีเหตุการณ์ที่ถ้ำหลวง ยังไม่เคยเกิดขึ้นในประเทศไทย เราจึงจะถอดบทเรียนและให้ท้องถิ่นนำไปพิจารณาเพื่อประยุกต์ใช้ โดยเฉพาะ ทส.คงจะนำไปเป็นมาตรการกำกับดูแลถ้ำต่างๆ อีกจำนวนมาก
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี