คสช.ใช้มาตรฐานเดียวกัน
สะกิดสามมิตร
อย่าดูดเพลินจนล้ำเส้นกม.
ยืนยันทหารไม่ได้เกี่ยวข้อง
วิษณุแย้ม7รมต.ครองหุ้น
บอกถือมาก่อนไม่ผิดอะไร
เพื่อไทยยังงง‘สุภรณ์’เผ่น
“คสช.”ติดตาม “กลุ่มสามมิตร” ใช้พลังดูด สส. เตือนอย่าล้ำเส้นกม.ย้ำใช้มาตรฐานเดียวกันทุกกลุ่ม ไม่เลือกข้าง โต้กระแสข่าว ใช้ทหารร่วมดูดผู้แทน ชี้อยู่นอกเหนือภารกิจ ด้าน “วิษณุ” แจงคดีหุ้น 7 รมต.ผ่านฉลุย เหตุถือหุ้นมาก่อน-รธน.ไม่ห้ามให้มีต่อไป “พท.” ยังงง “แรมโบ้อีสาน” ตีจาก ทุกอย่างอยู่ที่ประชาชนจะตัดสิน
เมื่อวันที่ 20 กรกฎาคม พล.ต.ปิยพงศ์ กลิ่นพันธุ์ ผู้บัญชาการมณฑลทหารบกที่ 11 (มทบ.11) ในฐานะทีมโฆษกคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) กล่าวถึงกรณีการเคลื่อนไหวและปรากฎการณ์การพลัง ดูดสส.ของพรรคการเมือง ว่า การเคลื่อนไหวอะไรก็ตามที่ยังทำภายใต้กรอบกฎหมาย ทางคสช.เพียงแค่ติดตามดูความเคลื่อนไหวเท่านั้น ดังนั้นทุกคนต้องดำเนินการตามกรอบกฎหมายและอำนาจหน้าที่ ต่างคนต่างไม่ละเมิด ก้าวล่วงกัน ส่วนผู้บังคับใช้กฎหมายก็บังคับใช้อย่างถูกต้องเป็นธรรม ก็จะทำให้บ้านเมืองสงบสุขร่มเย็น การบริหารราชการแผ่นดินก็สามารถเดินต่อไปได้ตามกรอบโรดแมป เพื่อนำไปสู่ความมุ่งหมายร่วมกันของพี่น้องคนไทย คือ มีการเลือกตั้งช่วงต้นปี2562 ซึ่งทุกอย่างยังคงเป็นไปตามนี้
พล.ต.ปิยพงศ์ กล่าวต่อว่า ส่วนการเคลื่อนไหวของนักการเมืองที่ลงไปพบปะพูดคุยกับประชาชน และลงพื้นที่ต่างๆนั้น ขอย้ำว่าคสช.ติดตามการเคลื่อนไหวของพรรคการเมือง และกลุ่มการเมืองทุกกลุ่ม ซึ่งสถานการณ์การเมืองในปัจจุบันคสช.ประเมินว่ายังไม่มีอะไรเป็นพิเศษที่ต้องน่าวิตกและห่วงใย จนนำไปสู่ความไม่เรียบร้อย ของบ้านเมือง
ถ้าละเมิดก็ต้องตักเตือน
เมื่อถามว่า การที่กลุ่มสามมิตร ใช้พลัง ดูดส.ส.พรรคเพื่อไทย และแกนนำกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) ตามภูมิภาค ไม่ถือว่าขัดคำสั่งคสช. หรือไม่ พล.ต.ปิยพงศ์ กล่าวว่า อะไรก็ตาม ถ้าไม่ขัดกฎหมาย คสช.จะติดตามเฝ้าดูเท่านั้น และสามารถดำเนินการต่อไปได้ แต่ถ้ากิจกรรม หรือการดำเนินการทางการเมืองใดก็ตามที่เริ่มขัดกฎหมาย คสช.จะมีมาตรการแจ้ง ให้ทราบ จากนั้นก็ตักเตือน ห้ามปราม ระงับยับยั้ง ให้ต้องปฏิบัติตามกฎหมาย
ย้ำทหารไม่ได้เกี่ยวข้อง
ผู้สื่อข่าวถามอีกว่า การวิพากษ์วิจารณ์ว่ามีการใช้ทหารเข้าไปเกี่ยวข้องกับพลังดูด ส.ส. คสช. ติดตามการเคลื่อนไหวนี้ หรือไม่ พล.ต.ปิยพงศ์ กล่าวว่า ทหาร เป็นกลไกหนึ่งของรัฐบาล เราทำงานภายใต้อำนาจ หน้าที่ และภารกิจที่ผู้บังคับบัญชาสั่งการมา เราไม่สามารถทำอะไรที่นอกเหนือจากนี้ได้ นอกจากนี้สังคมจับตาอยู่ถ้า
ทำผิดกฎหมาย และกรอบอำนาจหน้าที่ ภารกิจ เราก็มีมาตรการลงโทษอย่างเข้มงวดอยู่แล้ว ทั้งทางวินัย และทางอาญา
วอนอย่าไปรบกวน’ย่าโม’
ด้านนายสมคิด เชื้อคง อดีตส.ส.อุบลราชธานี พรรคเพื่อไทย ให้สัมภาษณ์กรณีนายสุภรณ์ อัตถาวงศ์ หรือแรมโบ้อีสาน อดีตแกนนำ นปช. ขอถอนคำสาบานต่อหน้าคุณเท้าย่าโม เพื่อลงสนามการเมืองอีกครั้ง ว่า หากนายสุภรณ์จะทำการเมืองก็ไม่อยากให้รบกวนคุณย่าโม อย่าอาศัยสิ่งศักดิ์สิทธิ์เพื่อเปลี่ยนแปลงจุดยืนทางการเมือง
เพราะสุดท้ายสุดท้ายผู้ตัดสินก็คือพี่น้องประชาชนในเขตเลือกตั้งของนายสุภรณ์ หากไปแล้วก็ไม่ว่ากัน ตนขอให้โชคดี แต่ถึงขนาดถอนคำสาบานได้ มองว่าเป็นละครชีวิตไปเสียหน่อย
ประเด็นดังกล่าว นายก่อแก้ว พิกุลทอง แกนนำนปช. กล่าว ว่ารู้สึกแปลกใจที่นายสุภรณ์กลับหลังหัน 180 องศา เพื่อมาหนุน คสช.ให้อยู่สืบอำนาจเผด็จการต่อ ซึ่งสวนทางกับแนวทางเดิมอย่างยิ่ง แต่ก็เคารพในการตัดสินใจของเพื่อน ยังเป็นเพื่อนกัน แต่ในทางการเมืองถือว่าเราเป็นฝ่ายตรงข้ามกัน” นายก่อแก้ว กล่าว
‘วิษณุ’แจงคดีหุ้น7รมต.ผ่านฉลุย
เช้าวันเดียวกัน ที่สำนักงานคณะกรรมการป้องกันการทุจริตแห่งชาติ(ป.ป.ช.) นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ปาฐกถาพิเศษ เรื่อง“การตีความกฎหมายที่เกี่ยวกับการบังคับใช้กฎหมาย” ตอนหนึ่งว่า รัฐมนตรีอีก 7 คนถูกร้องเรียนว่าถือหุ้นกับบริษัทที่ได้สัมปทานกับรัฐ ซึ่งรัฐธรรมนูญเขียนว่ารัฐมนตรีจะถือหุ้นหรือมีหุ้นส่วนในบริษัทที่เป็นคู่สัมปทานกับรัฐทั้งทางตรงและทางอ้อมไม่ได้ รวมทั้งคู่สมรส และบุตรที่ยังไม่บรรลุนิติภาวะ หากมีจะต้องพ้นจากตำแหน่ง ซึ่งทั้ง 7 คนมีหุ้นจริง แต่มีหุ้นมาก่อนที่จะดำรงตำแหน่งรัฐมนตรี ซึ่งก่อนเข้าดำรงตำแหน่งไม่ได้มีการขายหุ้นดังกล่าวออกไป ขณะที่ สนช.ที่ถือหุ้นสัมปทานก็มีเป็นร้อยคน แต่ยังไม่มีใครร้อง ทั้งนี้เรื่องดังกล่าว กกต.พิจารณาหลายเดือน และมีข้อสรุปไม่นานมานี้แล้วว่ารัฐธรรมนูญไม่ได้ห้าม ซึ่งเป็นการตีความและวินิจฉัยว่าไม่ผิด
“โดย กกต.ใช้เหตุผลว่าเรื่องดังกล่าวเคยมีการวินิจฉัยโดยศาลรัฐธรรมนูญมาแล้วเมื่อ 5-6 ปีที่ผ่านมาซึ่งมีรายละเอียดในรัฐธรรมนูญเขียนเหมือนกัน ศาลรัฐธรรมนูญได้ตีความแล้วว่าไม่ผิด เพราะศาลเห็นว่า เรื่องใดที่รัฐธรรมนูญห้ามสำหรับการกระทำที่เกิดก่อนการมาดำรงตำแหน่ง แล้วพอมาดำรงตำแหน่งถึงยังมีต่อไปก็ไม่ได้ผิดอะไรเพราะยังมีมาก่อน ซึ่งหากรัฐธรรมนูญไม่ต้องการให้มีก็จะมีการระบุชัดเจนว่าห้ามมีหุ้นและยังคงถือหุ้นต่อ ดังนั้นคนที่มาเป็นรัฐมนตรี มาเป็น ส.ส.หากมีหุ้นลักษณะนี้ก่อนเข้ารับตำแหน่งอย่างไรก็ไม่ผิด”นายวิษณุกล่าว
ปปช.ยันไม่ช่วยนาฬิกา’บิ๊กป้อม’
นายวิทยา อาคมพิทักษ์ กรรมการ ป.ป.ช. กล่าวถึงความคืบหน้าการตรวจสอบนาฬิกาหรูของ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯและรมว.กลาโหม ว่าอยู่ในขั้นตอนการดำเนินการของคณะกรรมการหาข้อเท็จจริง ซึ่งด้ข้อมูลจากในประเทศครบถ้วนแล้ว เหลือเพียงข้อมูลที่จะต้องขอจากต่างประเทศ ซึ่งต้องใช้ความสัมพันธ์และกฎหมายระหว่างประเทศ ต้องใช้เวลาอีกเล็กน้อย
เมื่อถามว่าถ้าเรื่องนี้ยิ่งช้าออกไปจะไม่เป็นผลดีต่อ ป.ป.ช. นายวิทยา กล่าวว่า ต้องให้ความเป็นธรรมต่อทั้งสองฝ่าย เราอยากทำให้เสร็จ แต่ก็ต้องได้ข้อมูลที่ครบถ้วนสมบูรณ์ และพิจารณาตรงไปตรงมา ตัดสินบนข้อมูลตามข้อกฎหมาย
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี