"ประจิน"พอใจโครงการกาฬสินธุ์แฮปปี้เนสโมเดล ยุทธศาสตร์แก้จนกาฬสินธุ์เหตุผลชัดเจน พร้อมสนับสนุนให้จังหวัดกาฬสินธุ์ ปราบยาบ้า และพัฒนาระบบชลประทานให้เกิดการกักน้ำให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด มั่นใจลดปัญหาอุทกภัยและสามารถเพิ่มผลผลิตในช่วงฤดูแล้ง
5 ส.ค.61 ที่ห้องประชุมโสมพะมิตร ชั้น 4 ศาลากลาง จ.กาฬสินธุ์ พล.อ.อ.ประจิน จั่นตอง รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม พร้อมคณะ เดินทางมามอบนโยบายและติดตามผลการแก้ไขปัญหาความยากจนให้กับประชาชน จ.กาฬสินธุ์ ภายใต้กรอบแนวคิด คนกาฬสินธุไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง โดยมี นายไกรสร กองฉลาด ผู้ว่าราชการ จ.กาฬสินธุ์ , นายเธียรชัย อัจฉริยพันธุ์ รอง ผวจ.กาฬสินธุ์ , นายสนั่น พงษ์อักษร รอง ผวจ.กาฬสินธุ์ , พล.ต.ต.มนตรี จรัลพงศ์ ผบก.ภ.จว.กาฬสินธุ์ , พ.อ.มานพ ไขขุนทด รอง ผอ.รมน.กาฬสินธุ์ , พ.อ.สมบัติ จินดาศรี รอง ผบ.กกล.รส.จ.กส.และหัวหน้าส่วนราชการทุกหน่วยงานรายงานผลการดำเนินการ โดยได้เยี่ยมชมนิทรรศการผลการดำเนินโครงการคนกาฬสินธุ์ ไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง ในรอบ 7 เดือนที่ผ่านมา ซึ่งสามารถเพิ่มผลิตภัณฑ์มวลรวมจังหวัดได้ร้อยละ 4.36 เป็นเงิน 2,180 ล้านบาท จากค่าเป้าหมายที่ 3,500 ล้าน บาทหรือ ร้อยละ 7 จากนั้นได้เยี่ยมชมศูนย์ปฏิบัติการยกระดับคุณภาพคนจนขั้นพื้นฐาน
โดยการติดตามครั้งนี้นอกจากการติดตามปัญหาหนี้นอกระบบ จ.กาฬสินธุ์ ได้เสนอปัญหาที่เป็นอุปสรรคในการดำเนินงานในระยะยาว ได้แก่การประสบภัยธรรมชาติ ภัยจากศัตรูพืช ผลผลิตเฉลี่ยต่ำกว่าต้นทุน โดยเฉพาะปัญหาการบริหารจัดการน้ำของเขื่อนลำปาวที่ยังไม่เต็มประสิทธิภาพ โดยได้นำเสนอแผนงานโครงการ เพิ่มพื้นที่ชลประทานในโครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาลำปาวต่อรองนายกรัฐมนตรี เพื่อเพิ่มพื้นที่ชลประทานอีก 5 หมื่นไร่ ในเขต อ.ยางตลาด และ อ.กมลาไสย ซึ่งเป็นรูปแบบการส่งน้ำและการสำรองน้ำเป็นงบประมาณ 5,785 ล้านบาท ซึ่งจะสามารถแก้ไขปัญหาภัยแล้ง และการป้องกันปัญหาอุทกภัยในระยะยาวและยังสามารถสร้างอาชีพให้กับประชาชนได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ ขณะที่หอการค้า จ.กาฬสินธุ์ สนับสนุนให้มีการเพิ่มพื้นที่และจัดทำโซนนิ่งกุ้งก้ามกราม ให้มีการบริหารจัดการน้ำและการส่งและระบายน้ำเพิ่มประสิทธิภาพ
พล.อ.อ.ประจิน กล่าวว่า จากการติดตามผลนโยบายแก้จน ของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ซึ่ง จ.กาฬสินธุ์ ได้ดำเนินโครงการกาฬสินธุ์แฮปปี้เนสโมเดล ซึ่งเป็นการทำงานแบบบูรณาการ 9 ด้าน ให้แก้ไขความยากจนให้ประชาชน ในรอบ 7 เดือน สามารถสร้างรายได้ให้ประชาชนเพิ่มขึ้นและเชื่อว่าภายใน 1 ปี จะทำให้ประชาชนจ.กาฬสินธุ์ มีรายได้ต่อหัวมากถึง 75,000 บาทต่อปี แต่สิ่งที่เป็นห่วง เมื่อการทำงานเป็นตัวชี้ปัญหา ผู้ว่าราชการ จ.กาฬสินธุ์ ยังได้นำยุทธการฟ้าแดดสงยาง ปราบปรามยาเสพติดมาใช้ และทำให้ทราบว่าปัญหาความยากจนยังก่อเกิดให้มีการแพร่ระบาดของยาเสพติด (ยาบ้า) ปัญหานี้ได้รับรายงานจากทางผู้ว่าราชการจังหวัดอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้เห็นผลสัมฤทธิ์เพิ่มขึ้นจะให้กระทรวงยุติธรรมเข้ามาร่วมบูรณาการในทุกภาคส่วน เพื่อร่วมสานต่อแนวทางการทำงานให้เกิดความชัดเจนมากยิ่งขึ้น
"ผมเชื่อว่าปัญหายาเสพติดมีทุกพื้นที่ แต่การที่จะมีผู้ว่าราชการจังหวัดที่นำปัญหานี้มาเสนอและแก้ไขจนเห็นเป็นรูปธรรมเป็นเรื่องที่หาได้ยาก ผมขอเป็นกำลังใจและพร้อมที่จะสนับสนุนในทุกมิติในการทำงานเพื่อปราบปรามยาเสพติด" พล.อ.อ.ประจิน กล่าว
พล.อ.อ.ประจิน กล่าวต่อว่า ส่วนเรื่องการนำเสนอเพื่อของบประมาณในแก้ไขระบบน้ำเพื่อการใช้น้ำจากเขื่อนลำปาวอย่างเต็มประสิทธิภาพนั้น ถือเป็นสิ่งที่ดี เพราะจะทำให้ประชาชนในพื้นที่ชลประทานเขื่อนลำปาว สามารถใช้น้ำเพื่อทำการเกษตรได้อย่างเต็มที่ ถือว่า จ.กาฬสินธุ์ ได้มองเห็นสภาพปัญหาได้ชัดเจน เรื่องนี้จะให้คณะทำงานลงพื้นที่เข้ามาติดตามวิธีการแก้ไขปัญหาเพื่อทำการจัดระบบน้ำ เพราะต้องยอมรับว่าพื้นที่ชลประทานเขื่อนลำปาว ไม่ใช่เขื่อนที่ผลิตกระแสไฟฟ้า แต่มีปริมาณน้ำที่มากในทุกปี และต้องปล่อยน้ำไปตามแหล่งน้ำธรรมชาติ พอถึงหน้าแล้งพื้นที่ชลประทานเองก็จะมีความแห้งแล้ง การกักเก็บน้ำในรูปแบบแก้มลิง ซึ่งทาง จ.กาฬสินธุ์ เสนอ จึงถือเป็นเป้าหมายที่ชัดเจน ที่หากมีการกักเก็บน้ำเอาไว้ ก็จะลดปัญหาน้ำท่วมรวมถึงภาวะภัยแล้ง และเกษตรกรเองก็ยังสามารถนำน้ำที่กักเก็บในพื้นที่ราบลุ่มชลประทานมาใช้ทางการเกษตรที่จะเกิดประโยชน์สูงสุดด้วย
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี