เพื่อไทยโวชนะสงครามโดยไม่ต้องรบ ป้อง‘แม้ว’ดิ้นสู้เพราะห่วงบ้านเมือง
11 ส.ค.61 นายชวลิต วิชยสุทธิ์ อดีตรองเลขาธิการ พรรคเพื่อไทย(พท.) กล่าวถึงแนวทางการทำงานการเมืองของพรรคเพื่อไทย ว่า ใช้แนวทางสันติ ไม่ใช้ความรุนแรง โดยทั้ง พล.ต.ท.วิโรจน์ เปาอินทร์ รักษาการหัวหน้าพรรค และนายภูมิธรรม เวชยชัย รักษาการเลขาธิการพรรค ให้ความเห็นต่อสาธารณะเสมอมาว่า พท.ไม่เอาเผด็จการ ยึดมั่นแนวทางประชาธิปไตย โดยมีประชาชนเป็นศูนย์กลาง และมีส่วนร่วมในการกำหนดนโยบาย เพื่อแก้ไขปัญหาของประชาชนและประเทศชาติ การชนะศึกสงครามไม่จำเป็นที่จะต้องใช้ความรุนแรงไปสู้รบปรบมือ เพียงแต่ชี้ให้ประชาชนเห็นว่าอยู่ฝ่ายประชาธิปไตยชีวิตความเป็นอยู่ จะกินอิ่ม นอนอุ่น ศักดิ์ศรีประเทศได้รับการยอมรับ หากอยู่ฝ่ายเผด็จการหรือแนวร่วมหรือเป็นพันธมิตรกับเผด็จการ ชีวิตความเป็นอยู่และศักดิ์ศรีของประเทศก็จะเป็นอย่างที่ประชาชนส่วนใหญ่ได้รับอยู่ในขณะนี้
“ทำไม พท.มั่นใจว่าชนะศึกสงครามโดยไม่ต้องรบ ข้อมูลเชิงประจักษ์ คือ 4 ปีเศษที่ผ่านมา ภายใต้การเมือง การปกครองที่ไม่ปกติ และภายใต้การบริหารโดยคณะบุคคลที่ไม่ได้มาจากประชาชน เงินในกระเป๋าของประชาชนส่วนใหญ่ถดถอย แต่ที่เพิ่มขึ้นๆ คือ หนี้สินครัวเรือน จนประชาชนส่วนใหญ่เริ่มไม่มั่นใจในความมั่นคงทางเศรษฐกิจของตนเอง ครอบครัว และกิจการ เมื่อเศรษฐกิจถดถอย ฝืดเคือง ก็จะเกิดการเปรียบเทียบ ด้วยการหาสิ่งที่ดีกว่า โดยเฉพาะแนวทาง นโยบาย ที่จะทำให้ประชาชนอยู่ดี กินดี ซึ่งพรรคเพื่อไทยมีผลงานเป็นที่ประจักษ์ จึงเป็นเหตุผลว่า แม้จะถูกกระทำแล้ว ถูกกระทำอีก ทำไมประชาชนจึงเลือกพรรคเพื่อไทยมาเป็นที่ 1 ทุกครั้งนั่นคือ เหตุผลที่กล่าวว่า พท.ชนะศึกสงครามโดยไม่ต้องรบ” นายชวลิต กล่าว
นานชวลิต กล่าวอีกว่า ส่วนที่นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ให้ความเห็นกับผู้ไปเยี่ยมเยียนที่ฮ่องกงนั้น ถ้าสังเกตให้ลึก จะเห็นเจตนาของท่านชัดเจนว่า ต้องการที่จะเห็นประเทศไทยกลับมาเจริญรุ่งเรือง มีเกียรติยศ มีศักดิ์ศรีอีกครั้ง พวกเราเข้าใจดีว่านายทักษิณย่อมห่วงบ้านห่วงเมืองเป็นธรรมดา และในฐานะผู้ก่อตั้งพรรคไทยรักไทย ซึ่งถูกกระทำแล้ว กระทำอีกดังกล่าว ก็จำเป็นที่จะต้องให้กำลังใจ เพราะกระแสพลังดูด ตลอดจนการเอารัด เอาเปรียบทางการเมืองรุนแรงมาก การให้กำลังใจของผู้ใหญ่ซึ่งเป็นผู้ก่อตั้งพรรค ถือเป็นเรื่องสำคัญ โดยเฉพาะในสังคมไทยให้ความสำคัญกับความกตัญญูรู้คุณ
“ผมขอยืนยัน ในฐานะที่ทำงานอยู่ส่วนกลางของพรรคคนหนึ่ง การตัดสินใจทางการเมืองอยู่ที่หน้างาน คือ กรรมการบริหารพรรค ไม่มีใครมาครอบงำได้ เพราะผู้ที่จะต้องรับผิดชอบตามกฎหมาย คือ กรรมการบริหารพรรค วิญญูชนจะเห็นได้อย่างชัดเจนถึงแนวทางการทำงานการเมืองของ พท. ซึ่งทั้งหัวหน้าพรรค กับเลขาธิการพรรค ได้ยืนยันต่อสาธารณะมาตลอดถึงแนวทางการทำงานการเมืองของพรรคที่ยึดแนวทางสันติ การต่อสู้กับเผด็จการ อาจดูเหมือนกับการทำศึกสงคราม แต่เราไม่มีทางที่จะเอาอาวุธไปสู้รบปรบมือกับผู้ถืออาวุธได้ นอกจากใช้ปัญญาและแนวทางที่ถูกต้อง คือ แนวทางประชาธิปไตยที่มีประชาชนเป็นศูนย์กลางและมีส่วนร่วมในการกำหนดนโยบาย” นายชวลิต กล่าว
นายชวลิต กล่าวย้ำว่า ขอยืนยันในการทำงานการเมืองเพื่อบ้านเมืองของพรรคเพื่อไทยใช้แนวทางสันติแน่นอน และด้วยแนวทางนี้ตนมั่นใจว่าจะถูกใจประชาชน จนนำมาซึ่งชัยชนะอย่างถล่มทลายดังเช่นที่ นายทักษิณ ชินวัตร ให้กำลังใจมา
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี