14 ส.ค. 61 ที่รัฐสภา นายสมชาย แสวงการ เลขานุการคณะกรรมาธิการวิสามัญกิจการสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (วิปสนช.) กล่าวถึงการเสนอแก้ไข พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.)ว่า ขั้นตอนการแก้ไขขณะนี้เป็นการยื่นตามสิทธิของสมาชิก สนช. ตามรัฐธรรมนูญกำหนด เมื่อผู้เสนอรวบรวมรายชื่อแล้วก็ส่งให้สำนักงานเลขาธิการวุฒิสภา และไปรับฟังความคิดเห็นภายใน 15 วัน ยังไม่ได้บรรจุเข้าที่ประชุมวิป สนช. หรือประธาน สนช. บรรจุระเบียบวาระแต่อย่างใด และยังต้องรับฟังตามมาตรา 77 วรรคสอง ซึ่งขั้นตอนนี้จะครบในวันที่ 18 ส.ค.นี้ ทางสำนักงานเลขาธิการวุฒิสภาคงจะรายงานเบื้องต้นให้ตนทราบ ในฐานะเลขาฯวิป สนช. ถ้าการรับฟังความเห็นครบถ้วนทุกประเด็นแล้วจะพิจารณาอีกครั้งว่า ขั้นตอนต่อไปจะดำเนินการอย่างไร
เมื่อถามว่า จะมีการถอยการเสนอแก้กฎหมายดังกล่าวหรือไม่ นายสมชาย กล่าวว่า จะถอยหรือไม่เป็นเรื่องที่สภาต้องพิจารณาร่วมกัน สิ่งสำคัญคือ ต้องดูประโยชน์ของ พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วย กกต. ถ้าผู้เสนอเห็นว่ากฎหมายยังขาดความรัดกุมก็สามารถเสนอได้ สมาชิกอาจจะเห็นด้วยหรือเห็นต่างก็มาว่ากัน สนช. มีหน้าที่ชี้ขาดว่า จะรับหรือไม่รับ แต่ได้ให้คำแนะนำสมาชิกว่าถ้ากฎหมายผ่านการตรวจสอบแล้ว 1 - 2 สัปดาห์ วิป สนช. ก็คงจะคุยกัน และถามเหตุผลผู้เสนอว่า จะแก้ปัญหาอย่างที่เสนอหรือไม่
“ถ้าแก้ไขโดยง่ายวันหน้าก็อาจจะแก้ไขพ.ร.บ.สำคัญหลายเรื่อง และอาจเกิดปัญหาขึ้นได้ เช่นกฎหมาย ป.ป.ช. สมมติว่า มีคดีความอยู่ แล้วมีนักการเมืองไม่ดีติดคดีทุจริต จะแก้ไขกฎหมาย ป.ป.ช. อาศัยเสียงข้างมากอย่างเดียวแล้วคดีหลุดไปจะทำอย่างไร หรือพ.ร.บ.ว่าด้วยพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญ กำลังวินิจฉัยรัฐธรรมนูญ แก้ให้ศาลรัฐธรรมนูญหมดอำนาจจะทำอย่างไร หรือพ.ร.บ.ว่าด้วยคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ซึ่งนักการเมืองเป็นจำเลยหลายคดีเกี่ยวกับทุจริตไปแก้ให้หมดอำนาจจะทำอย่างไร เพราะฉะนั้นการแก้ไขกฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญต้องรอบคอบ ซึ่งที่ผ่านมาก็มีการเลียนแบบ และมีบทเรียนการแก้ไขรัฐธรรมนูญทำให้เกิดสภาผัวเมีย หรือการเลือกตั้งเปลี่ยนรูปแบบไป หรือแก้พ.ร.บ.กฎหมายนิรโทษกรรมสุดซอย เกิดวิกฤตขัดแย้ง เพราะฉะนั้นการแก้กฎหมายไม่ว่าจะเป็นพ.ร.บ.ธรรมดา หรือกฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญจำเป็นต้องฟังเสียงทุกส่วน ถ้าถามว่า กลัวนักการเมืองเลียนแบบไหม ผมคิดว่า การเมืองยุคหน้าก็ต้องมีวุฒิภาวะ การแก้อะไรถ้าเกิดปัญหาก็คงไม่ทำ ถ้าทำสังคมไม่ยอมรับก็กลับสู่วิกฤตดังเดิมอีก” นายสมชาย กล่าว
เมื่อถามว่า การแก้ไขกฎหมายดังกล่าวต้องใช้เวลานานอาจจะเลื่อนโรคแม็ปการเลือกตั้ง นายสมชาย กล่าวว่า ได้สอบถามผู้เสนอยืนยันว่าไม่ได้ต้องการขยับโรดแมป เพราะการเลือกตั้งก็ยังเป็นเดือน ก.พ. – พ.ค.62 ดังนั้น การแก้ พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วย กกต. จะไม่ทำให้การเลือกตั้งเลื่อนออกไปแน่นอน และ สนช. จะไม่ทำแบบนั้น
เมื่อถามว่า ขณะนี้การแสดงความเห็นผ่านเว็บไซต์ของ สนช. ปรากฏว่า เสียงไม่เห็นด้วยมีจำนวนมากกว่าค่อนข้างมาก นายสมชาย กล่าวว่า ไม่ใช่ความเห็นที่แท้จริงของชาวบ้านทั่วไปอย่างแน่นอน แต่เป็นกระบวนการที่สร้างขึ้นอย่างชัดเจน ตนได้สอบถามเจ้าหน้าที่พบว่า ภายใน 6 – 7 ชม. มีคนเข้ามากดไม่เห็นด้วย 7 – 8 หมื่นคน จึงเชื่อว่า มีการใช้เครื่องมือออโตเมติกในการกด
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี