‘ปลดล็อก’เดือนธันวาฯ
ลุยหาเสียง
เวลาเหลือเฟือกว่า70วัน
วิษณุชี้ช่องบิ๊กตู่เล่นการเมือง
คาด10-14ธันวาฯสมัคร‘สว.’
พท.ปูดอีกคืนเก้าอี้นายกอบจ.
แลกดูดสส.พร้อมเงิน10ล้าน
“บิ๊กตู่-ประวิตร-สมคิด” ดาหน้าโต้ปรับ “ครม.” ถามหาคนนั่งเขียนปล่อยข่าว ด้าน “วิษณุ” แจงมีเวลาหาเสียง70วัน คาดปลดล็อกธันวาฯ ชี้ช่องนายกฯลงเล่นการเมือง ‘กกต.’คาดรับสมัครสว.10-14ธันวาฯ‘พท.’ปูดคืนเก้าอี้’อบจ.’แลกดูดสส.พร้อมเงิน10ล้าน ‘ภูมิธรรม’โวหลังปลดล็อก7วัน ลงมติเลือกหน.พรรคทันที
เมื่อวันที่ 5กันยายน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) กล่าวก่อนร่วมปั่นจักรยานออกกำลังกายประจำสัปดาห์ถึงกระแสข่าวการปรับคณะรัฐมนตรี(ครม.) โดยกล่าวปฏิเสธเพียงสั้นๆ ด้วยน้ำเสียงดุดันว่า”ไม่มี”
ผู้สื่อข่าวพยายามถามย้ำอีกครั้งถึงความชัดเจนเรื่องปรับครม.พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า “ไม่มีๆ ใครไปปล่อยข่าว ไม่มีปรับจะถามทำไมอีกเล่า แหล่งข่าวในทำเนียบนั่งเทียนที่ไหนมา บอกมาสิใครเป็นคนให้ข่าว”
จากนั้น พล.อ.ประยุทธ์ จึงนำปั่นรถจักรยานรอบสนามในบ้านพิษณุโลก ตามนโยบายที่ให้ทุกหน่วยงานราชการ แบ่งเวลามาออกกำลังการทุกวันพุธ โดยนโยบายดังกล่าวเริ่มนำร่องเมื่อวันที่ 23พฤศจิกายน59และมีการปฏิบัติเรื่อยมา แต่งดบ้างบางสัปดาห์ที่นายกฯติดภารกิจ โดยมีการออกกำลังกายแล้วหลายประเภท อาทิ เต้นแอโรบิค ฟุตบอล วอลเล่บอล ตระกร้อ โดยในช่วงหลังการออกกำลังกายดังกล่าวเริ่มห่างหายไป ซึ่งครั้งล่าสุดคือเมื่อวันที่ 25เมษายน2561
บิ๊กป้อมยันนายกฯยังไม่ปรับครม.
ด้านพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม ก็กล่าวว่า” ไม่ทราบ ยังไม่เห็นนายกฯพูดคุยอะไร มีแต่สื่อมวลชนคิด ยืนยันไม่มี ตนคิดว่านายกฯคงไม่ปรับ นอกจากจะมีคนลาออกและก่อนจะเลือกตั้งใหม่ คิดว่านายกฯคงไม่ปรับ ถ้าไม่มีคนลาออก”
เมื่อถามอีกว่า การเลือกตั้งครั้งต่อไปยังจะอยู่ช่วยงานนายกฯต่อหรือไม่ พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า “แล้วนายกฯเขาได้หรือยัง ในอนาคตก็แล้วแต่นายกฯว่า เขาจะเอาหรือไม่” ส่วนถ้านายกฯอยากให้ช่วยต่อพร้อมหรือไม่ พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า “เขายังไม่พูด ผมจะไปบอกได้อย่างไร ทุกอย่างแล้วแต่นายกฯ”
‘สมคิด-สนธิรัตน์’โต้ข่าวปรับครม.
นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ปฏิเสธกระแสข่าวปรับครม.ในช่วงนี้ ว่า “เรื่องดังกล่าวไม่มี ข่าวปรับ ครม.ต่างๆที่ออกมาช่วงนี้น่าจะมาจากสื่อมวลชน”
เช่นเดียวกับ นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รมว.พาณิชย์ กล่าวยืนยันว่า เวลานี้ยังไม่มีการลาออกตามที่มีกระแสข่าวใด ๆ ทั้งสิ้น ส่วนอนาคตจะเป็นอย่างไร ยังไม่ขอพูด
‘วิษณุ’แจงมีเวลาหาเสียง70วัน
นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงการหารือร่วมพรรคการเมืองและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องครั้งที่2 ว่า ต้องรอให้ร่างพระราชบัญญัติประกอบรับธรรมนูญ(พรป.)ว่าด้วยการเลือกตั้งสส.และการได้มาซึ่งสว.โปรดเกล้าฯลงมาก่อน ถึงจะมีการประชุมได้ โดยไม่ต้องรอคำสั่ง มาตรา44 เพื่อคลายล็อกพรรคการเมือง แต่จะดีมากถ้ากฎหมายประกาศใช้แล้วมีคำสั่งคลายล็อก จากนั้นจึงประชุมกับพรรคการเมือง
ส่วนกรณีพรรคการเมืองตั้งข้อสงสัยว่า จะไม่มีเวลาเตรียมจัดทำนโยบายพรรค นายวิษณุ กล่าวว่า มีเหลือเฟือ เพราะเมื่อสิ้นสุด 90วัน คือประมาณเดือนธันวาคม ก็จะมีเวลามากพอสมควร กว่าจะไปถึงวันที่ 24กุมภาพันธ์62 ซึ่งเป็นวันที่กำหนดคร่าวๆว่าจะเป็นวันเลือกตั้ง ดังนั้นเวลากว่า 70วัน จึงถือว่าเหลือเฟือและอาจมากกว่าทุกครั้งที่ผ่านมาด้วยซ้ำ และคราวนี้ก็จะมีเวลาหาเสียงกันเต็มๆกว่า 60วัน เพราะครั้งนี้เป็นการเลือกตั้งใหญ่ หลังจากที่ไม่ได้เลือกตั้งกันมานาน มีพรรคการเมืองใหม่ๆ และนโยบายใหม่ๆ ต่างจากทุกครั้งที่ผ่านมา เมื่อยุบสภาก็จะให้เลือกตั้งภายใน 45หรือ60วัน แต่มีเวลาหาเสียงจริงไม่ถึง 40วัน’นายวิษณุ กล่าว
ชี้ช่องทางนายกฯเล่นการเมือง
เมื่อถามว่า สำหรับ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคสช.กฎหมายยังเปิดช่องให้เล่นการเมืองได้หรือไม่ นายวิษณุ กล่าวว่า พล.อ.ประยุทธ์และครม.ลงสมัครรับเลือกตั้งไม่ได้แน่ๆอยู่แล้ว หากจะเล่นการเมืองก็ต้องไปช่องทางอื่นที่รัฐธรรมนูญเปิดช่องไว้ เช่น อยู่ในบัญชีที่พรรคการเมืองเสนอให้เป็นนายกฯและผ่านการโหวตของสภา กระทั่งถึงทางตันก็จะมีช่องทางของนายกฯคนนอก พล.อ.ประยุทธ์และครม.ยังสามารถเป็นที่ปรึกษาพรรคการเมือง กรรมการบริหารพรรค หรือหัวหน้าพรรคได้
ปลดล็อกธค.หาเสียงได้เต็บสูบ
นายวิษณุ กล่าวถึงกรณีเคยบอกว่า จะห้ามใช้โซเชียลมีเดียของนักการเมือง พรรคการเมือง กลุ่มการเมือง เพื่อสื่อสารกับประชาชน ว่า ไม่ได้บอกว่าห้าม แต่บอกว่าจะออกคำสั่งให้พรรคการเมืองสามารถติดต่อกับสมาชิกทางโซเชียลมีเดียได้ แต่จะติดต่อกับประชาชนในเชิงหาเสียงไม่ได้ เพราะช่วงเวลา 90 วันหลังพรป.สส.และสว.ประกาศแล้วก็ยังหาเสียงไม่ได้ แต่เมื่อไหร่ที่คสช.ปลดล็อกให้ ซึ่งคาดว่าอย่างช้าก็ภายในเดือนธันวาคม ก็จะหาเสียงได้ ไม่ว่าจะเป็นการติดโปสเตอร์เสาไฟฟ้า ตั้งเวทีปราศรัย ยืมสนามหลวงขอเปิดเวทีก็ได้ เคาะประตูบ้านก็ได้ โดยทั้งหมดจะทำได้ในตอนนั้น เพราะฉะนั้นเวลานี้พรรคการเมือง สามารถโพสต์เฟสบุ๊กได้ แต่ต้องไม่ใช่เชิงการหาเสียง
กกต.คาดรับสมัครสว.10-14ธันวาคม
วันเดียวกัน พ.ต.อ.จรุงวิทย์ ภุมมา เลขาธิการกกต.กล่าวว่า การประชุมกกต.เมื่อวันที่ 4กันยายนที่ผ่านมา ที่ประชุมได้พิจารณาร่างระเบียบ กกต.ว่าด้วยการได้มาซึ่งสว.ที่มีประมาณ 160ข้อ เสร็จสิ้นในรอบแรกแล้ว และมีความเห็นให้มีการปรับแก้เกี่ยวกับการปฏิบัติในบางเรื่อง
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า คาดว่า วันที่ 30พฤศจิกายน พรฎ.ให้มีการเลือกส.ว.มีผลใช้บังคับ วันที่ 5 ธันวาคม กกต.ประกาศเกี่ยวกับวันเลือก วันรับสมัครและสถานที่เลือก ซึ่งระดับอำเภอภายใน 20วัน นับแต่วันสิ้นสุดระยะเวลารับสมัคร ระดับจังหวัดภายใน 7วัน นับแต่วันเลือกในระดับอำเภอและระดับประเทศภายใน 10วัน นับแต่วันเลือกในระดับจังหวัด เปิดรับสมัครสว.วันที่ 10-14ธันวาคม ซึ่งเปิดรับสมัครไม่เกิน 15วัน นับแต่วันที่มีพรฎ.และวันที่ 30ธันวาคม จะเลือกสว.ระดับอำเภอ วันที่ 6มกราคม62เลือกสว.ระดับจังหวัด วันที่ 16มกราคม เลือกสว.ระดับประเทศ วันที่ 17-21มกราคม กกต.รอไว้ 5วันตามที่กฎหมายกำหนด และวันที่ 22มกราคม กกต.แจ้งรายชื่อผู้ได้คะแนนสูงสุดลำดับที่ 1-10ของแต่ละกลุ่มแต่ละวิธีสมัครรวม 200 คนให้คสช.คัดเลือกเป็นสว.50คนและคัดเลือกอีก 50คน เป็นบัญชีสำรอง
‘ครป.’ค้านใช้ม.44แก้ไพรมารีโหวต
ด้าน นายพิชาย รัตนดิลก ณ ภูเก็ต รองคณบดีฝ่ายวิชาการคณะพัฒนาสังคมและสิ่งแวดล้อม สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์(นิด้า) ในฐานะประธานคณะกรรมการรณรงค์เพื่อประชาธิปไตย (ครป.) เปิดเผยว่า ครป.ออกแถลงการณ์คัดค้านการใช้อำนาจมาตรา44 ผ่อนคลายให้พรรคไม่ต้องทำไพรมารีโหวตที่บัญญัติไว้ใน พรป.ว่าด้วยพรรคการเมือง เพราะระบบไพรมารีโหวต หรือระบบเลือกตั้งขั้นต้น คือ ปฏิรูปการเมืองขั้นพื้นฐานที่จะพัฒนาให้พรรคการเมืองเป็นประชาธิปไตย โดยให้ประชาชนเป็นเจ้าของและมีส่วนร่วมอย่างแท้จริงและจะทำให้ประชาชนผู้เป็นสมาชิกพรรคนั้น ๆ มีสิทธิและหน้าที่ในการเลือกผู้สมัคร สส.ทั้งยังสามารถนำเสนอและพัฒนานโยบายพรรค จึงเป็นมาตรการป้องกันไม่ให้กลุ่มทุนและนักเลือกตั้งเข้ามาครอบงำพรรค จึงขอให้ทบทวนท่าทีดังกล่าว เพื่อป้องกันข้อครหาดูดสส.
แก้ครหาหวังดูดสส.หนุน’บิ๊กตู่’
‘เราขอเรียกร้องรัฐบาลให้ทบทวนท่าทีดังกล่าวโดยเร่งด่วน เพื่อป้องกันข้อสงสัยของสาธารณชนที่ว่า น่าจะมีการดูดนักการเมืองจำนวนหนึ่งมาตั้งพรรคเพื่อสนับสนุนการอยู่ในอำนาจต่อไปของรัฐบาลปัจจุบัน ด้วยการผ่อนคลายหลักเกณฑ์บางอย่างให้เอื้อต่อการได้มาซึ่งจำนวน สส.ที่จะสนับสนุนการอยู่ในอำนาจของตนและหากมีการดำเนินการเช่นนั้นจริง ย่อมเป็นภัยอันตรายต่อการพัฒนาประเทศและการปกครองในระบอบประชาธิปไตย” นายพิชาย กล่าว
พท.ปูดคืนเก้าอี้’อบจ.’แลกดูดสส.
ด้าน นายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด รักษาการรองโฆษกพรรคเพื่อไทย(พท.) กล่าวว่า ขณะนี้มีกระแสข่าวเจ้าหน้าที่รัฐด้านความมั่งคงระดับสูงเดินสายดูดนักการเมืองเข้ามาทำงานกับกลุ่มการเมืองที่สนับสนุนรัฐบาลคสช.ในการเลือกตั้งครั้งหน้า โดยไปพบนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด(อบจ.)ที่ถูกมาตรา44 สั่งระงับปฏิบัติราชการเพื่อจูงใจว่า หากนายกอบจ.ที่ถูกแขวนสามารถดูดอดีตส.ส.ของพรรคพรรคเพื่อไทยในพื้นที่ภาคอีสาน เช่น จ.นครพนม มาอยู่กับพรรคที่สนับสนุนรัฐบาล คสช.ได้ จะปลดล็อกให้กลับมาปฏิบัติหน้าที่นายก อบจ.ในการประกาศปลดล็อกครั้งหน้าหรือไม่ รวมถึงจะมอบหมายให้เป็นแกนหลักในการบริหารจัดการเลือกตั้งในจังหวัด พร้อมมอบให้ดูแลงบประมาณ สัญญาว่าจะแบ่งเขตเลือกตั้งให้ได้เปรียบที่สุด ปิดประตูแพ้ได้เลย รวมถึงเสนอเงินย้ายพรรคให้อดีตสส.งวดแรกรายละ10ล้านบาทหรือไม่
โวหลังปลดล็อก7วันได้หน.พรรค
นายภูมิธรรม เวชยชัย รักษาการเลขาธิการพรรคเพื่อไทย(พท.) ให้สัมภาษณ์ถึงกระแสข่าวปล่อยชื่อหัวหน้าพรรค พท.ออกมาบ่อยครั้งในช่วงนี้ ว่า เรื่องหัวหน้าพรรค เลขาธิการพรรค หรือกรรมการบริหารพรรคตำแหน่งต่างๆต้องมีการเลือกตั้งใหม่ ซึ่งเราพร้อมที่จะดำเนินการทันทีที่ได้มีการคลายล็อก สมมติว่าหากกฎหมายจะลงมาอย่างช้า คือวันที่ 13กันยายนนี้ ก็มีเวลาไม่เกินสิ้นเดือน 7-10วัน ที่จะทำให้เสร็จ ดังนั้น สิ่งที่พรรคพท.จะดำเนินการคือ คลายล็อกเมื่อไหร่ เราจะให้สมาชิกมีโอกาสตัดสินใจเลือกผู้นำพรรค
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี