‘วิษณุ’ท้าวัดใจการเมือง
หาเสียง150วัน
แลกเลื่อนเลือกตั้ง5พค.62
อ้างให้เวลา70วันเหลือเฟือ
ตอกยุคยิ่งลักษณ์แค่49วัน
‘บิ๊กตู่’ย้ำรัชกาลนี้ต้องสงบ
อย่าให้เกิดการประท้วงอีก
แรมโบ้ขู่ฟ้องพวกเก็บบัตร
“บิ๊กตู่”เยือนลพบุรี ย้ำไปได้ทุกตารางนิ้วไม่เลือกที่รักมักที่ชัง ยิ่งเกลียดยิ่งต้องไป อัดจำนำข้าวผลาญงบฯ แบกภาระ 4 ปี หนี้ 5 แสนล้าน ย้ำบ้านเมืองรัชกาลนี้ต้องสงบที่สุด อย่าให้เกิดการประท้วง “บิ๊กป้อม” ยันหาเสียง 70 วัน เหลือเฟือ ด้าน “วิษณุ” สุดเขี้ยวท้าวัดใจพรรคการเมืองพร้อมยืดเวลาหาเสียงเป็น 150วันแต่ต้องแลกกับเลื่อนเลือกตั้งไป5พ.ค.62 ‘แรมโบ้’จ่อฟ้องกลับเก็บบัตรตุนเสียงล่วงหน้า
เมื่อเวลา 08.00น.วันที่ 7กันยายน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.)พร้อมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ลงตรวจราชการที่ จ.ลพบุรี มีข้าราชการ ประชาชนและนักเรียนสวมชุดไทยประมาณ 1พันคน รอให้การต้อนรับ
โดยนายกฯกล่าวว่า ตนมาติดตามงาน ติดตามปัญหาประชาชน ไม่ได้มาทำงานการเมือง วันหน้าประเทศต้องเดินหน้าสู่ประชาธิปไตย แต่ขอให้เป็นประชาธิปไตยที่ลดความขัดแย้ง รบกันไปมาไม่เกิดประโยชน์ ที่ผ่านมาปะเทศไทยติดกับดักประชาธิปไตยและกับดักรายได้ปานกลางทำให้ไปไหนไม่ได้ เสียเวลามากว่า10ปีที่มีความขัดแย้ง รัฐบาลนี้จึงต้องไปทุกที่ทุกตารางนิ้ว แม้จะเกลียดก็จะไปให้เกลียด ไม่ได้มาให้รัก หากจะเกลียดก็เป็นเรื่องของประชาชน ยิ่งเกลียดก็จะรักให้มากขึ้น เพราะแสดงว่าเขายังไม่รัก เป็นเพราะเราไม่ได้ทำอะไรให้ หรือยังไม่เป็นธรรม ดังนั้นอย่าเลือกที่รักมักที่ชัง ทุกรัฐบาลต้องคิดแบบนี้
‘บิ๊กตู่’ขอชาวลพบุรีทำปท.ดีขึ้น
“ผมไม่ได้มาหาเสียงแต่มาพูดเพื่อให้เห็นว่ารัฐบาลมีเจตนารมณ์มุ่งมั่นอะไร การเมืองต้องไม่ทำให้ประเทศถอยหลังอีกต่อไปสัญญากับผมได้หรือไม่ ใครคิดว่าจะทำให้การเมืองดีขึ้น ได้รัฐบาลมีธรรมาภิบาลดีขึ้นเลือกตั้งได้คนดีขึ้นประชาธิปไตยต้องทำให้คนทั้งประเทศ ไม่ใช่เสียงที่เลือกเรามาเท่านั้นมาแบ่งแยกภาคเหนือ ภาคใต้ ตะวันออกและตะวันตก ไม่ได้อีกแล้ว’พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว
โวยชดใช้หนี้จำนำข้าว5แสนล้าน
จากนั้น นายกฯได้เยี่ยมชมนิทรรศการแสดงผลงานรัฐบาล สินค้าเกษตรและสินค้าแปรรูปจังหวัด ปรากฎว่าเมื่อถึงจุดการแก้ไขปัญหาหนี้นอกระบบสำหรับผู้มีรายได้น้อย นายกฯจึงถามว่าอยากให้ช่วยอะไรไหม ชาวบ้านบอกว่าอยากให้ช่วยพยุงราคาข้าว นายกฯกล่าวว่า จะพยุงอย่างไร ตอนนี้รัฐบาลยังใช้หนี้ 5 แสนล้านให้กับโครงการรับจำนำข้าวและข้าวต้องมีราคากลางจะให้ 15,000บาท ทุกประเภทไม่ได้ อย่าให้ใครมาบอกว่าจะให้ราคาข้าว 15,000-20,000มันผิดกฎหมาย ที่ผ่านมารัฐบาลต้องแบกให้มาเท่าไร ใช้หนี้มา 4 ปีแล้ว จากที่ผลาญมาจากรอบที่แล้วก่อนไปเยี่ยมชมโครงการบำรุงรักษาและอนุรักษ์ต้นจัน โดยมีประชาชนขอถ่ายเซลฟี่และมีเด็กนักเรียนอนุบาลแต่งชุดไทยชูป้าย»ลุงตู่สู้สู้ ลุงตู่หล่อ หนูรักลุงตู่’
ยุค’ร.10’ต้องสงบที่สุด-มุ่งสู่ลต.
เวลา 12.00น.ที่เทศบาลตำบลเขาพระงาม จ.ลพบุรี พล.อ.ประยุทธ์ พร้อมคณะ เข้าเยี่ยมชมโครงการบ้านสุขภาวะผู้ป่วยเรื้อรังและผู้สูงอายุ โดยช่วงหนึ่งนายกฯได้ทักทายกลุ่มกำนันผู้ใหญ่บ้านที่มารอต้อนรับพร้อมประชาชน 200คนว่า เราเคยเจอกันหรือเปล่า สงสัยเวลาไปประชุมสงสัยฉันอาจเคยเจอหน้าพวกเธอ หรือไม่ก็เห็นหน้าตอนประท้วง อย่ามีอีกนะ’รัชกาลนี้ต้องเป็นรัชกาลที่สงบที่สุดเข้าใจไหม เราเปลี่ยนรัชกาล บ้านเมืองเราวันนี้ดีหมดข้างนอกและข้างในดีหมด ฉะนั้นการเลือกตั้งต้องไปสู่ความสงบ อย่าเกิดการประท้วงขึ้นอีกเลย อย่าให้ไปเจอหน้ากันที่กรุงเทพฯที่หน้าทำเนียบรัฐบาล จำหน้าได้หมดแล้ว’
อย่ารับเงินซื้อเสียง-เจอถอนทุน
นายกฯกล่าวอีกว่า การเลือกตั้งต้องให้ได้รัฐบาลที่มีธรรมาภิบาล ถ้าเลือกตั้งแบบเดิมก็กลับมาที่เก่า ต้องให้มีการเปลี่ยนแปลง อย่าไปเห็นแก่เล็กๆน้อยๆ บางทีเขาเอาเงินมาแจก 100บาท มันซื้อเราได้เหรอ เงิน 100-500บาท ซื้อเราได้เหรอ สิทธิของเราถ้าเราจะเลือกใคร พอใจอย่างไรท่านก็เลือกไป จะเลือกด้วยคน เลือกด้วยพรรค แต่ถ้าเลือกไอ้คนให้ตังค์ วันหน้ามันก็เอาเงินคืนใช่ไหม มีใครให้อะไรฟรีๆอย่าไปรับ สัญญานะ ไม่ใช่พอวันหน้ามีรัฐบาลใหม่เข้ามาบอกให้เล่นงานรัฐบาลเก่า สัญญานะก่อนเดินทางกลับกทม.
บิ๊กป้อมชี้หาเสียง70วันเหลือเฟือ
พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณรองนายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม ให้สัมภาษณ์พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีมอบหมายให้พล.อ.ประวิตร เรียกคนไม่มีผมที่ออกมาวิพากษ์วิจารณ์เรื่องเศรษฐกิจและจีดีพีของประเทศมาพูดคุย ว่า “ก็เรียกมาอีกสิ ชอบอยากให้เรียกก็เรียก นักการเมืองก็พูดไปเรื่อย”
ผู้สื่อข่าวถามว่าพรรคการเมืองวิจารณ์ว่าเวลา70วัน ในการหาเสียงน้อยเกินไป รองนายกฯกล่าวว่า ของเดิมใช้แค่40กว่าวันเท่านั้น น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ยังใช้เวลาแค่49วัน
วิษณุท้ายืดให้150วันแลกเลื่อนเลือกตั้ง
ด้าน นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีพรรคการเมืองออกมาระบุกรอบเวลาหาเสียง 60-70วัน อาจไม่เพียงพอ ว่า ถ้าไม่พออย่างนั้นเอา 150วัน แล้วไปเลือกตั้งวันที่ 5พฤษภาคม2562 จะเอาอย่างนั้นหรือ วันนี้มันยังไม่ได้กำหนดอะไรทั้งนั้น ที่พูดๆมาเป็นการยกตัวอย่าง ก่อนหน้านี้ก็เคยยกตัวอย่างสมัย ม.ร.ว.คึกฤทธิ์ ปราโมช ที่ใช้เวลาเพียง 20วัน เพื่อให้รู้ว่าการหาเสียงสั้นๆ นั้นเคยมีและสื่อบางฉบับระบุว่าการหาเสียงระยะสั้นเป็นเรื่องดี เพราะถ้าหาเสียงยาวจะใช้งบประมาณมาก
“แต่ผมเคยพูดแล้วว่าสั้นไปก็ไม่ดี ยาวไปก็ไม่ดี จึงบอกครั้งนี้อย่างน้อยมีช่วงหาเสียง 60วัน โดยนับจากเมื่อมีการปลดล็อกเดือนธันวาคม61 จนถึงวันที่ 24กุมภาพันธ์62 หากไม่ชอบวันที่ 24กุมภาพันธ์62 แล้วเลื่อนออกไปยังสามารถทำได้”นายวิษณุ กล่าวย้ำ
คสช.แฉทุกพรรคมีการเคลื่อนไหว
พล.อ.เฉลิมชัย สิทธิสาท ผู้บัญชาการทหารบก ในฐานะเลขาธิการคสช.กล่าวถึงกลุ่มสามมิตรที่ยังไม่จดจัดตั้งเป็นพรรคการเมือง แต่เคลื่อนไหวทางการเมือง ว่า ขณะนี้มีความเคลื่อนไหวของทุกกลุ่มและทุกพรรคการเมือง เพียงแต่จะอยู่ในรูปแบบใด อาจเป็นการพบปะสอบถามปัญหาชาวบ้านหรือจัดสัมมนา จึงตัดสินลำบากว่าเป็นการเคลื่อนไหวทางการเมืองที่ชัดเจนหรือไม่อย่างไร แต่หากผิดกฎหมายชัดเจน กรรมการการเลือกตั้ง(กกต.) จะเข้ามาช่วยดูและที่ผ่านมายังไม่เคยไปกดกันหรือใช้อำนาจกับกลุ่มใด
เล็งลดบทบาททหารช่วงหาเสียง
เมื่อถามว่า คสช.จะเข้าไปดูแลกลุ่มการเมืองที่ยังไม่ได้จดตั้งเป็นพรรคการเมืองอย่างไร ผบ.ทบ.กล่าวว่า ได้พูดคุย ขอร้องกันแล้วเรื่องการเคลื่อนไหวที่อาจนำไปสู่ความขัดแย้งในวันข้างหน้า อะไรที่ไม่สมควรจะทำให้เกิดความได้เปรียบหรือเสียเปรียบ หรือเกิดความร้าวฉานต้องระมัดระวัง ไม่ให้เกิดผลกระทบที่รุนแรงสำหรับบทบาทของกองกำลังรักษาความสงบเรียบร้อย(กกล.รส.) ในช่วงหาเสียงเลือกตั้งต้นปี 2562 โดยปกติแล้วเป็นการดูแลของกกต.หากจะให้เจ้าหน้าที่เข้าช่วยเหลืออย่างไรต้องพูดคุยกัน ตนต้องการลดบทบาททหารที่ไปช่วย เดี๋ยวจะถูกกล่าวหาว่าไปหาเสียง ไปข่มขู่ ก็ต้องระมัดระวัง
‘สมศักดิ์’ยอมรับจ่อซบ’พปชร.’
นายสมศักดิ์ เทพสุทิน แกนนำกลุ่มสามมิตร กล่าวถึงกรณีที่คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) อนุญาตให้พรรคพลังประชารัฐ(พปชร.) จัดประชุมใหญ่ในวันที่ 15กันยายน โดยกลุ่มสามมิตรจะไปสังกัดพรรคพปชร.หรือไม่ว่า การที่กลุ่มสามมิตรจะไปร่วมพรรคการเมืองใดนั้นขณะนี้เรายังไม่ได้ตกลงกัน เราต้องคุยกันอย่างละเอียดภายในกลุ่มก่อน ขอย้ำว่า เราจะไม่ตั้งพรรคการเมืองเองแน่นอน ทั้งนี้ พรรคพปชร.ถือเป็นตัวเลือกอับดับแรกที่น่าสนใจ หากกลุ่มสามมิตรไปสังกัดพรรคการเมืองแล้ว การเคลื่อนไหวคงจะยากขึ้น แต่เราจะพยายามลงพื้นที่เพื่อรับฟังปัญหาประชาชนให้ได้มากที่สุด
‘ชวน’แจงไม่มีประชุมพรรค15กย.
นายชวน ชูจันทร์ ผู้ร่วมจดจัดตั้งพรรคพลังประชารัฐ(พปชร.) กล่าวถึงกระแสข่าวที่ พปชร.จะประชุมพรรคในวันที่ 15กันยายนว่า ไม่เป็นความจริง เพราะ พปชร.ยังไม่ได้รับหนังสือรับรองจากกกต.ให้สามารถจัดประชุมได้ ยคาดว่ายังติดปัญหาเกี่ยวกับคุณสมบัติสมาชิก ซึ่งการตรวจสอบอาจไม่ผ่านเกณฑ์คุณสมบัติบ้าง จึงต้องรอกกต.ตรวจสอบให้แล้วเสร็จ ก่อนจะมีหนังสือรับรองอนุญาตให้จัดประชุมได้ ยืนยันว่า ไม่ใช่การยื้อเวลาเพื่อรอความชัดเจนจากรัฐมนตรีในรัฐบาล อย่างนายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์รมว.พาณิชย์ ที่มีข่าวว่าจะเป็นหัวหน้าพรรคและนายอุตตม สาวนายนรมว.อุตสาหกรรม ที่มีข่าวจะเป็นเลขาพรรค รวมถึงกลุ่มสามมิตรด้วย เพราะที่แล้วมาไม่เคยติดต่อคนของรัฐบาลและกลุ่มสามมิตรเลย
‘แรมโบ้’แจ้งความเก็บบัตรหาเสียง
ที่ศูนย์ประสานงาน นายสุภรณ์อัตถาวงศ์ หรือแรมโบ้อีสาน“คนบ้านเรา”เลขที่32/3 หมู่3 ต.แชะ อ.ครบุรี จ.นครราชสีมา มีชาวบ้าน อ.ครบุรีและอ.เสิงสาง ประมาณ 500คน มามอบดอกไม้ให้กำลังใจนายสุภรณ์หลังเกิดปัญหานายสุภรณ์เข้าร้องเรียนกกต.นครราชสีมา ว่ามีว่าที่ผู้สมัคร สส.นครราชสีมาพรรคหนึ่ง ว่าจ้างให้ชาวบ้านอ.ครบุรีและอ.เสิงสาง ออกเก็บบัตรประชาชนเพื่อเตรียมสมัครเข้าเป็นสมาชิกพรรค ซึ่งเข้าข่ายผิดกฎหมายเลือกตั้ง คล้ายการซื้อเสียงล่วงหน้า จนเป็นเหตุให้พรรคการเมืองดังกล่าวและผู้ที่ถูกกล่าวพาดพิง เตรียมฟ้องร้องนายสุภรณ์ ฐานหมิ่นประมาทและแจ้งความเท็จส่วนการที่ทางพรรคที่ถูกกล่าวถึงจะแจ้งความตนนั้นถือเป็นสิทธิที่ทำได้ ตนมั่นใจว่าสิ่งที่ทำลงไปถูกต้องแล้ว
‘ภายใน 1-2วันนี้ ผมจะเข้าแจ้งความกับตำรวจ สภ.ครบุรีและสภ.เสิงสาง เพื่อให้ดำเนินคดีกับผู้ที่ว่าจ้างให้คนไปเก็บบัตรประชาชนในเขต อ.ครบุรีและอ.เสิงสาง ไปสมัครเป็นสมาชิกพรรคการเมือง ในข้อหาทำผิด พรบ.ประกอบการเลือกตั้งและฝ่าฝืนคำสั่ง คสช.ซึ่งผมจะนำหลักฐานไปยื่นให้กกต.เพื่อประกอบการสืบสวนต่อไปพฤติกรรมเก็บบัตรประชาชนครั้งนี้เป็นการบังคับข่มขืนใจให้ชาวบ้านสมัครเป็นสมาชิกพรรคการเมืองโดยไม่ได้เกิดจากความศรัทธาของของชาวบ้าน’นายสุภรณ์กล่าว
‘กกต.’ลั่นดำเนินคดีเท่าเทียมกัน
ด้าน พ.ต.อ.จรุงวิทย์ ภุมมา เลขาธิการสำนักงานกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) กล่าวถึงการเคลื่อนไหวของกลุ่มสามมิตรที่มีการขึ้นรถแห่ผู้สมัครที่ จ.ชัยภูมิว่า สำนักงาน กกต.ต้องติดตามความเคลื่อนไหว ถ้าผิดกฎหมายความมั่นคงก็จะประสานไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพราะในขณะนี้ คสช.ยังไม่ปลดล็อก ยืนยันว่า กกต.จะดำเนินคดีอย่างเท่าเทียมกัน
ทบ.จ่อย้ายบางหน่วยไปอยู่ตจว.
วันเดียวกัน พล.อ.เฉลิมชัย สิทธิสาท ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) กล่าวถึงกรณีมีเอกสารราชการแจ้งการย้ายหน่วยทหารออกนอกพื้นที่ กทม.ว่า ที่ผ่านมาได้ตั้งคณะกรรมการอำนวยการขับเคลื่อนการดำเนินงานกองทัพบก เพื่อรองรับยุทธศาสตร์ชาติฯ มี พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ เสนาธิการทหารบกเป็นประธาน มีคณะทำงานดำเนินการ 3เรื่อง คือ 1.การจัดทำโครงสร้างกองทัพให้สอดคล้องกับสถานการณ์ในอนาคต หน่วยใดมีความจำเป็นน้อยลง จะยุบหรือปรับเปลี่ยนและหน่วยใดจำเป็นต้องเพิ่มเติมขึ้นมาใหม่ หรือมียุทโธปกรณ์สมัยใหม่เข้ามาก็พิจารณาดำเนินการ2.กำลังพลทำอย่างไรถึงจะลดลงได้ เพราะเราใช้งบประมาณด้านกำลังพลประมาณ40%-50% เรื่องที่3.คือการจัดระเบียบที่ตั้งหน่วยทหารให้สอดคล้องกับภารกิจที่ได้รับในกลุ่มเดียวกันและจะมีการย้ายหน่วยบางหน่วยไปภายนอกเพื่อลดความคับคั่งในพื้นที่ ซึ่งที่ผ่านมามีหน่วยมีรถยานเกราะรถถัง เมื่อจะฝึกต้องขนย้ายไปข้างนอกเช่น จ.สระบุรี ซึ่งไม่สะดวก
ผุดสวนสาธารณะ-ลดแออัดกทม.
‘ตรงนี้เป็นจุดเริ่มต้น ถือเป็นแผนระยะยาว ซึ่งทั้งหมดขึ้นอยู่การอนุมัติให้ดำเนินการได้ รวมถึงงบประมาณที่จะใช้ ซึ่งเรามีการแบ่งเป็นเฟสทั้ง 3เรื่อง ส่วนของกองบัญชาการกองทัพบก ยังไม่ได้คิดว่าจะทำอะไรก็เป็นที่ของกองทัพบกอยู่แล้ว ก็ดูความเหมาะสมแต่ละพื้นที่ บางพื้นที่อาจสร้างที่พัก ปัจจุบันกำลังพลที่มีที่พักอยู่ในกรุงเทพฯก็จะมีปัญหา หรือบางที่อาจใช้เป็นพื้นที่ที่อยู่กันอย่างแออัด เช่นกองบัญชาการกองทัพบก ค่อนข้างแน่น ก็อาจมีบางหน่วยไปอยู่ข้างนอก หรือหน่วยตรงพื้นที่ใดที่ไม่มีความจำเป็นอาจทำเป็นปอดของกรุงเทพฯเป็นสวนสาธารณะ คณะกรรมการฯจะไปหารือกันเพื่อประโยชน์ส่วนรวม”
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี