11 ก.ย.61 ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.ท.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงผลการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) สั่งการในที่ประชุม ครม.ให้แต่ละกระทรวงติดตามเร่งรัดกฎหมายที่ค้างคาอยู่
ทั้งนี้ นายวิษณุ เครืองาม รองนายกฯ รายงานว่า ขณะนี้มีกฎหมายอยู่ที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา จำนวน 80 ฉบับ อยู่ที่สภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) 40 ฉบับ ซึ่ง พล.อ.ประยุทธ์ เห็นว่าปี 62 จะมีการเลือกตั้ง และได้รัฐบาลใหม่ จึงอยากให้เร่งรัดกฎหมายที่รัฐบาลชุดนี้ต้องการผลักดัน เพราะหากออกกฎหมายไม่ทัน กฎหมายก็อาจจะตกไป
ด้าน นายดิสทัต โหตระกิตย์ เลขาธิการคณะกรรมการกฤษฎีกา กล่าวว่า ที่ประชุม ครม.สั่งการให้ทุกกระทรวงไปเร่งรัดกฎหมายที่ค้างอยู่ที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา ตนจึงถูกเร่งทุกเรื่อง เพราะเวลามันงวดเข้ามา แต่นายกฯ ไม่ได้เน้นย้ำกฎหมายฉบับใดเป็นพิเศษ
ส่วนความคืบหน้าการจัดทำร่าง พ.ร.บ.ว่าด้วยการรักษาความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์ พ.ศ. .... นั้น นายดิสทัต กล่าวว่า ขณะนี้ใกล้เสร็จแล้ว โดยเราไปดูหลักเกณฑ์ของต่างประเทศ อย่างเช่นประเทศสิงคโปร์ ที่คิดว่าสามารถนำมาใช้กับประเทศไทยได้ง่ายสุด แต่ยังมีข้อที่ต้องมาปรับให้เข้ากับประเทศไทย ซึ่งเหลือการประชุมอีก 2 ครั้ง จะเสร็จสิ้น ตนจึงขอให้ดำเนินการให้เร็ว เพราะเป็นเรื่องสำคัญ และพยายามจะให้เสร็จภายในเดือน ก.ย.นี้ ไม่เช่นนั้นเรื่องอื่นๆ ที่เกี่ยวกับรัฐบาลอิเล็กทรอนิกส์จะเดินหน้าไม่ได้
ผู้สื่อข่าวถามว่า จะมีการเพิ่มเนื้อหาเกี่ยวกับการหาเสียงเลือกตั้งทางโซเชียลมีเดียไปด้วยหรือไม่ นายดิสทัต กล่าวว่า รายละเอียดพวกนี้ต้องไปว่าในการพิจารณาของ สนช.เพราะตอนเสนอมายังสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกายังไม่มีเรื่องนี้
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี