จ่อเปิดประชุมพรรคคึกคัก
พร้อมเลือกตั้ง
จี้คสช.คลายล็อกเพิ่มเติม
ปลาไหลอ้างปลดปล่อยจิ๊บจ๊อย
‘พท.-ปชป.’ยืนยันไม่มีปัญหา
มาร์คปัดข่าวเมินจูบปากทหาร
ทุกพรรคการเมืองกระดี๊กระด๊า รับศึกเลือกตั้ง หลังคสช.คลายล็อก ให้ทำกิจกรรมได้ “เพื่อไทย”จัดทัพเตรียมประชุมใหญ่ เลือกแม่ทัพนำศึกคนใหม่ ขณะ “ประชาธิปัตย์”
นัดประชุม 17ก.ย.ขณะเดียวกันยังปฏิเสธข่าวหัวหน้าพรรคไม่ขอจูบปากกับทหารหลังเลือกตั้ง ด้านชาติพัฒนาประกาศชัด เมินยุบรวบกับพลังประชารัฐ ลั่นอยู่ครบปักหลักสู้โคราช
ภายหลังจากคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.)ใช้อำนาจมาตรา 44 ออกประกาศ คำสั่งคสช.ที่13/2561เพื่อคลายล็อกให้พรรคการเมืองสามารถทำกิจกรรมได้ ยกเว้นการหาเสียงเลือกตั้งนั้น ส่งผลให้ทุกพรรคการเมืองออกมาขนานรับเพื่อขับเคลื่อนเตรียมพร้อมของพรรคเพื่อเข้าสู่การเลือกตั้งตามโรดแมป
เมื่อวันที่ 15 กันยายน นายภูมิธรรม เวชยชัย รักษาการเลขาธิการพรรคเพื่อไทย (พท.)กล่าวว่าเรื่องนี้ พท. เตรียมที่จะจัดให้มีการประชุมใหญ่เพื่อรับรองข้อบังคับพรรคใหม่ เลือกกรรมการบริหารชุดใหม่และเลือกกรรมการสรรหาผู้สมัครรับเลือกตั้งตามที่กำหนดในคำสั่งหัวหน้า คสช.ที่13/2561 เบื้องต้นจะได้หารือกรรมการบริหารพรรค เพื่อพิจารณาคำสั่งคลายล็อกให้พรรคการเมืองสามารถดำเนินการประชุมและเตรียมการในการจัดการประชุมใหญ่พรรคเพื่อไทยตามเงื่อนไขที่กำหนดในคำสั่งโดยคำสั่งหัวหน้าคสช.ที่13/2561ระบุให้ดำเนินการให้แล้วเสร็จภายใน 90 วัน
พท.จัดทัพเตรียมจัดประชุมใหญ่
“สิ่งที่ต้องหารือเป็นเรื่องสำคัญคือจะกำหนดองค์ประกอบขององค์ประชุมใหญ่อย่างไรเนื่องจากคำสั่งที่13/2561กำหนดให้มีองค์ประชุมไม่น้อยกว่า250คน มีกรรมการบริหารและสมาชิก โดยไม่ต้องมีสาขา เนื่องจากสาขาถูกยุบไปแล้วคงต้องมากำหนดว่าจะมีตัวแทนสมาชิกเข้าร่วมประชุมอย่างไร นอกจากนั้น คงต้องหารือว่าจะกำหนดวันประชุมใหญ่ เมื่อใดเนื่องจากจะต้องแจ้ง กกต.ก่อนการประชุมใหญ่ไม่น้อยกว่า5วัน”รักษาการเลขาธิการพรรคเพื่อไทย ย้ำ
ทั้งนี้ นายภูมิธรรม ยังกล่าวถึงการคลายล็อกครั้งนี้ว่ารัฐบาลไม่ได้ตั้งใจจะเปิดเงื่อนไขกติกาอย่างเต็มที่ ให้แก่พรรคการเมือง การจะอ้างว่าเพื่อความสงบเรียบร้อยก็เป็นการกล่าวอ้างซ้ำซากมานานมากแล้ว ไม่มีเหตุผลใดในทางการเมืองที่จะคลายล็อกแบบปล่อยทีละส่วนเพื่อหวังจะทำหน้าที่คุมเกมทั้งหมดเช่นนี้ นอกจากยังคงมีความกลัวอยู่ ซึ่งไม่ทราบรัฐบาลกลัวอะไร
‘มาร์ค’นัดถกกกบห.ปชป.17กย.
ด้าน นายองอาจ คล้ามไพบูลย์ รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) กล่าวว่าภายหลังมีคำสั่งดังกล่าวนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะหัวหน้าพรรค เรียกประชุมกรรมการบริหารพรรคในวันที่ 17กันยายนนี้เพื่อหารือถึงการแก้ไขข้อบังคับพรรค สิ่งที่คสช.คลายล็อคออกมา พรรคพร้อมดำเนินการตามนั้นอยู่แล้ว
ส่วนกระแสการเปลี่ยนหัวหน้าพรรค ที่หลายฝ่ายมองว่ากำลังเผชิญทั้งศึกภายในและศึกการเลือกตั้งในอนาคตนั้น ส่วนตัวไม่ได้มองว่าเป็นศึกภายในพรรค แต่การเลือกแข่งขันเป็นหัวหน้าพรรคเป็นกระบวนการปกติของระบอบประชาธิปไตย
“ ปชป.แสดงให้สังคมเห็นมาตลอดว่าเป็นพรรคที่ไม่มีใครเป็นเจ้าของ แต่เป็นพรรคของประชาชนและสมาชิกพรรคทุกคนซึ่งกระบวนการประชาธิปไตย ทำให้พรรคสามารถยืนหยัดอยู่ได้ทุกวันนี้จึงต้องดำรงความเป็นประชาธิปไตยภายในพรรคต่อไป”นายองอาจย้ำและว่าส่วนการทำไพมารีโหวตนั้นที่ผ่านมาพรรคประชาธิปัตย์ทำมากกว่าที่มีการกำหนดไว้อยู่แล้วทุกครั้งที่จะมีการเลือกตั้งสาขาพรรคก็นัดประชุมสมาชิกและเสนอชื่อบุคคลที่มีความเหมาะสมให้พรรคพิจารณาเหมือนการทำไพมารีกลายๆ
ปชป.แบ่ง2กลุ่มชิง หน.ใหม่
ผู้สื่อข่าวรายงานความเคลื่อนไหวภายใน ปชป.ด้วยว่า ได้แบ่งออกเป็น 2 กลุ่มใหญ่ กลุ่มหนึ่งต้องการสนับสนุนเปิดโอกาสให้คนใหม่ได้ขึ้นมา เป็นผู้นำทัพเลือกตั้ง และอีกกลุ่มหนึ่ง ยังคงสนับสนุน นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะเป็นหัวหน้าพรรคต่อไปเนื่องจากเกรงว่าหากนายอภิสิทธิ์ไม่ได้ไปต่อ จะทำให้ตัวเองเสียประโยชน์เช่นอาจไม่ได้ลงสมัคร ส.ส.ในครั้งหน้านี้ ในขณะนี้มีความพยายามเดินเกมปล่อยข่าวดิสเครดิตอ้างว่าคสช.จะเข้ามาฮุบพรรคเพื่อให้พรรคเป็นหนึ่งในพรรคร่วมรัฐบาลโดยอาศัยผู้สมัครหน้าใหม่เป็นนอมินีให้
‘มาร์ค’ ปรับทัพ สู้ศึกเลือกตั้ง
ผู้สื่อข่าวรายงานอีกว่าขณะนี้นายอภิสิทธิ์ได้ตั้งคณะทำงานขึ้นมา1ชุด โดยดึงคนรุ่นใหม่ เพื่อปรับทัพสู้ศึกเลือกตั้งครั้งที่จะถึง อาทิน.ส.รัชดา ธนาดิเรก อดีต ส.ส.กทม.นายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ อดีต ส.ส.กทม.นายพริษฐ์ วัชรสินธุหรือ’ไอติม’หลานชายนายอภิสิทธิ์ เป็นต้น มาทำงานด้านการประชาสัมพันธ์นโยบายของพรรคในโลกออนไลน์ อยู่ระหว่างการเตรียมข้อมูลซึ่งมีผู้ใหญ่ในพรรคบางคนได้ทาบทามให้นายเอกนัฏ เป็นโฆษกพรรคในเบื้องต้น เพราะมีความเหมาะสม อีกทั้งยังบอกด้วยว่าหากนายอภิสิทธิ์เอ่ยปากก็ขออย่าได้ปฏิเสธในเรื่องนี้
ไฟเขียวไม่รังเกียจทหาร
นอกจากนี้ยังมีการวิเคราะห์ถึงจุดยืนของนายอภิสิทธิ์ด้วยว่านายอภิสิทธิ์ไม่ได้ปฏิเสธทหารแต่ประการใดเพราะถ้าสังเกตให้ดีนายอภิสิทธิ์บอกแค่เพียงว่าผู้สมควรได้จัดตั้งรัฐบาล ต้องเป็นของพรรคที่รวบรวมเสียงได้เกินครึ่งหนึ่งของสภาผู้แทนราษฎร และแม้ ส.ว.250 คน จะมีอำนาจตามรัฐธรรมนูญเลือก นายกรัฐมนตรี ก็ตาม แต่ต้องเคารพเจตนารมณ์ของประชาชนที่แสดงออกผ่านการเลือกตั้งเท่านั้น หากพรรคพลังประชารัฐ ลงเลือกตั้งและได้เสียง ส.ส.ก็มีความเป็นไปได้ที่จะมีประชาธิปัตย์และพรรคขนาดกลางเป็นพรรคร่วมรัฐบาลเพราะถือว่าเป็นไปตามอุดมการณ์ของระบอบประชาธิปไตย เป็นหลักที่พรรคยึดมาโดยตลอด
‘เสี่ยตือ’เหน็บคลายล็อกยังไม่สุด
ด้านนายสมศักดิ์ ปริศนานันทกุล ที่ปรึกษาพรรคชาติไทยพัฒนา (ชทพ.) กล่าวว่าเท่าที่อ่านคำสั่ง คสช.เรื่องคลายล็อคแล้ว แล้วเหมือนยังไม่สุด เพราะบรรยากาศทางการเมืองในวันนี้เมื่อประกาศพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ(พ.ร.ป.)ว่าด้วยการเลือกตั้งเลือกตั้งส.ส.และพ.ร.ป.ได้มาซึ่งส.ว.ลงมาแล้ว ทำให้บรรยากาศในเรื่องความเชื่อมั่นของการเลือกตั้งมีสูงมาก สะท้อนให้เห็นว่าประชาชนมีความเชื่อมั่น และฝากความหวังไว้กับการเลือกตั้ง จึงควรที่จะทำให้บรรยากาศการเลือกตั้งคืนสู่ภาวะปกติ
“วันนี้การที่ยังไม่ปลดล็อกแต่คลายล็อกเพียงบางส่วนนั้น ทำให้เกิดมีความรู้สึกว่าอาจจะใช่หรือไม่ใช่ ซึ่งไม่ได้เกิดผลดีต่อรัฐบาลเลย จึงอยากให้รัฐบาลเชื่อมั่นศักยภาพของตัวเองและคสช.เพราะเกือบ 5ปี ทุกอย่างอยู่ภายใต้สถานการณ์ที่รัฐบาลและคสช.ควบคุมได้ทั้งหมดแล้วควรจะมีความเชื่อมั่นและไว้วางใจประชาชนด้วยทำให้เป็นประชาธิปไตยตามที่ทุกคนต้องการอยากจะเห็น”อดีตรองประธานรัฐสภา ย้ำ
ชี้ต้องปลดล็อกสร้างปชต.แท้จริง
นายสมศักดิ์ยังระบุว่าการคลายล็อกเป็นเพียงส่วนหนึ่งที่ทำให้สถานการณ์ไม่ตึงเครียดจนเกินไป ทำให้บางอย่างสามารถทำได้ แต่ก็ทำไม่ได้หมด คือไม่สุด จึงดูเหมือนกับว่าจะกึ่งเชื่อ กึ่งไม่เชื่อว่าจะมีการเลือกตั้งจริงในวันที่ 24 ก.พ.2562เพราะการที่ไม่ปลดล็อกไปให้สุดนั้นเหมือนกับยังกั๊กๆอะไรอยู่ จึงอาจทำให้เกิดเปลี่ยนแปลงได้ ถ้านับเวลาตามโรดแม็พแล้วจะต้องไปสิ้นสุดในเดือนพ.ค.2562ทำให้การทำงานทางการเมืองของพรรคการเมือง คงไม่สามารถทำได้เต็มที่ อีกทั้ง การจะทำให้ประชาชนเชื่อมั่นได้คือต้องปลดล็อก ทำให้เกิดความรู้สึกว่าเป็นบรรยากาศของความประชาธิปไตยอย่างแท้จริง ปล่อยให้ทุกอย่างเป็นไปตามปกติ เป็นไปตามครรลอง เชื่อว่าถ้าเช่นนั้นจะทำให้ประชาชนเกิดความมั่นใจอย่างแน่นอน
นอกจากนี้ ยังขอฝาก คสช.รัฐบาลว่าหลายพรรคการเมืองอยากเห็นบรรยากาศการเลือกตั้งคืนสู่สภาวะปกติและเป็นไปตามธรรมชาติ ในเมื่อการเลือกตั้งเห็นอนาคตแล้ว ก็ควรจะปล่อยให้ไปกันอย่างเต็มที่ ขอให้เชื่อมั่นประชาชนว่าไม่มีใครอยากจะฉุดรั้ง ประเทศให้ ถอยหลังกลับไปสู่สภาวะเดิมอีก มีแต่จะช่วยกันผลักให้ก้าวรุดไปข้างหน้า
ภูมิใจไทยนัดประชุมกกบห.24ก.ย.
ในขณะที่นายศุภชัย ใจสมุทร รองเลขาธิการพรรคภูมิใจไทย(ภท.) กล่าวว่า ทางคณะทำงานฝ่ายกฎหมายพรรคจะมีการประชุมในวันที่ 17 ก.ย.นี้ และจะมีการประชุมคณะกรรมการบริหารพรรคในวันที่ 24 ก.ย.นี้ เพื่อพิจารณาดำเนินการตามคำสั่ง คสช ที่ 13/2561 ที่อนุญาตให้ดำเนินการ เพื่อเตรียมเสนอต่อที่ประชุมใหญ่ ซึ่งจะมีขึ้นน่าจะช่วงต้นเดือน ต.ค.61 เพื่อให้การดำเนินการนั้นมีผลบังคับตามกฎหมายต่อไป
นายศุภชัย กล่าวถึงการคำสั่งคลายล็อกให้พรรคการเมืองแต่ยังห้ามหาเสียงว่า พรรคภูมิใจไทย ไม่คิดว่าคำสั่งดังกล่าวจะเป็นปัญหา หรืออุปสรรคในการทำงานของพรรค สิ่งที่ภูมิใจไทยทำคือการติดต่อประสานงานกับสมาชิกพรรค ซึ่งไม่มีผลกระทบต่อความมั่นคง หรือก่อให้เกิดความวุ่นวายในทางการเมือง
และคิดว่าแต่ละฝ่ายต้องยอมรับสถานการณ์ในขณะนี้ว่า เป็นช่วงเปลี่ยนผ่านจากการถูกยึดอำนาจ เข้าสู่โหมดการเลือกตั้งในระบอบประชาธิปไตย เมื่อ คสช.คลายล็อกให้ก็เป็นไปตามที่พรรคการเมืองส่วนใหญ่เรียกร้อง อย่าไปคาดหวังว่าจะได้เต็มที่ หากติดขัด หรือ มีอุปสรรคอะไรก็สามารถประสานและแจ้งต่อคณะกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.)หรือ คสช.ได้อยู่แล้ว
ชพน.ยันไม่ยุบรวม’พลังประชารัฐ’
วันเดียวกัน ที่สำนักงานพรรคชาติพัฒนา(ชพน.)สาขาจังหวัดนครราชสีมา เลขที่ 2222/2 ถนนมิตรภาพ อ.เมือง จ.นครราชสีมา นายแพทย์วรรณรัตน์ ชาญนุกูล หัวหน้าพรรคฯ พร้อม คณะาร่วมแถลงชี้แจงข้อเท็จจริงหลังมีกระแสข่าวจะยุบพรรคชาติพัฒนาไปรวมกับพรรคพลังประชารัฐ และมีกระแสข่าว นายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ ประธานที่ปรึกษา ชพน.จะย้ายสังกัดพรรคพลังประชารัฐ และกลุ่มสามมิตร ตามที่นายภิรมย์ พลวิเศษ แกนนำกลุ่มสามมิตรกล่าวอ้างโดยพร้อมยืนยันที่ยังสังกัดพรรคชาติพัฒนาเหมือนเดิม
นพ.วรรณรัตน์แถลงข่าวว่าในนามพรรคชาติพัฒนา ขอขอบคุณหัวหน้า คสช.ได้ช่วยผ่อนคลายสภาวะอึมครึมทางการเมือง ถือเป็นการส่งสัญญาณที่ดีให้แก่คนทั้งประเทศและต่างประเทศได้ทราบว่านับจากนี้ต่อไปบ้านเมืองเรากำลังเข้าสู่บรรยากาศการเลือกตั้งตามวิถีทางประชาธิปไตยที่เราจะได้มีรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งของประชาชนต่อไป เพื่อขับเคลื่อนประเทศไทย และแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจ
“พรรคชาติพัฒนา มีความมั่นใจพร้อมเข้าสู่สนามเลือกตั้งสิ่งแรกที่ต้องดำเนินการคือจัดประชุมขอมติเลือกกรรมการบริหารพรรคชุดใหม่ ให้ครบทั้ง 4 ภาค และแก้ไขกฎข้อบังคับบางอย่าง เพื่อให้สอดคล้องกับการเลือกตั้งส.ส.ที่จะมีขึ้นในปี 2562 แต่ต้องขออนุญาต คสช.และกกต.ก่อนคาดอย่างเร็วจะสามารถดำเนินการได้ในห้วงเวลาอีกประมาณ 2 อาทิตย์ เมื่อได้กรรมการบริหารพรรคแล้ว จะหาสมาชิกสังกัดพรรคเพิ่มเติมให้จากนั้นมีการสรรหาผู้สมัครส.ส.แต่ละเขตและบัญชีรายชื่อ”นพ.วรรณรัตน์ กล่าวและจะใช้พื้นที่โคราชเป็นฐานเสียงในการเลือกตั้ง
พลังประชารัฐชิงเปิดตัวก่อน29กย.
ด้านนายชวน ชูจันทร์ ผู้ยื่นขอจดจัดตั้งพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.)กล่าวถึงข้อห่วงใยของคณะกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.)ต่อกรณีที่พรรคยื่นจดจัดตั้งพรรคการเมือง หากหลังวันที่27ก.ย.นี้ อาจสุ่มเสี่ยงต่อการส่งผู้สมัครลงรับเลือกตั้งไม่ได้ เนื่องจากผู้สมัครขาดคุณสมบัติเพราะเป็นสมาชิกพรรคไม่ครบ 90 วันว่า จากกรณีนี้จึงได้มอบหมายให้ฝ่ายกฎหมายทบทวนวันจัดประชุมใหม่อีกครั้งให้เร็วขึ้นจากเดิมที่กำหนดไว้วันที่ 29 ก.ย.นี้ ที่อิมแพคเมืองทองธานี แต่ยังไม่ได้กำหนดวันว่าจะเป็นวันใด
ส่วนกระแสข่าวที่ นายอุตตม สาวนายน รมว.อุตสากรรม และนายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รมว.พาณิชย์จะมาร่วมทำงานการเมืองในนามของพรรคพลังประชารัฐนั้นนายชวนกล่าวว่าถึงขณะนี้ยังไม่มีความชัดเจน แม้ตามกฎหมายจะอนุญาตให้ทำงานได้ทั้งงานพรรคการเมืองและงานในตำแหน่งรัฐมนตรีคิดว่าน่าจะมีปัญหาตามมามากจึงขึ้นอยู่กับรัฐมนตรีทั้ง 2 คนว่าจะเลือกอย่างไร หากเลือกงานในตำแหน่งรัฐมนตรีอย่างเดียว ในส่วนของพรรคก็มีบุคลากรพร้อมที่จะทำหน้าที่ได้อยู่แล้ว ขณะเดียวกันทางกลุ่มสามมิตรก็ยังไม่ได้ยืนยันชัดเจนว่าจะเข้ามาทำงานการเมืองร่วมกันหรือไม่
พลังพลเมืองไทยตั้งสาขาสกลนคร
ที่จ.สกนลนคร นายเอกพร รักความสุข เลขาธิการพรรคพลังพลเมืองไทยเปิดเผยว่าได้มีการหารือของคณะกรรมการเตรียมการเลือกตั้งภาคอีสานตอนบน ของพรรคพลังพลเมืองไทย กับผู้เสนอตัวสมัครส.ส.ในนามพรรคพลังพลเมืองไทย จ.สกลนคร ทั้ง 6 เขตเลือกตั้ง โดยเป็นการดำเนินการ ตามคำสั่ง คสช.ที่ 13/2561ซึ่งเปิดโอกาสให้พรรคการเมืองสามารถหาสมาชิกพรรค และตั้งสาขาพรรคได้ โดย จ.สกลนคร มีความพร้อมในการจัดตั้งสาขาพรรคและมีความเห็นมอบให้ นายสมยศ ศรีสอาด นายกเทศมนตรี เทศบาลพรรณนานคร เป็นผู้เตรียมการจัดตั้งสาขาพรรค นับว่าเป็นความก้าวหน้าของพรรคพลังพลเมืองไทย ที่รวดเร็วและมีความพร้อม ในการเลือกตั้งในวันที่ 24 ก.พ.2562
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี