21 ก.ย.61 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พรรคเพื่อไทย ได้เผยแพร่ร่างข้อบังคับพรรค โดยเนื้อหาสำคัญมีทั้งคำประกาศเจตนารมณ์ , คำประกาศอุดมการณ์ และคำประกาศนโยบาย ที่จะกำหนดแนวทางพรรคในอนาคต รวมไปถึงการกำหนดโครงสร้างการบริหารจัดการพรรครูปแบบใหม่ โดยมีรายละเอียดดังนี้
ร่างข้อบังคับพรรคเพื่อไทย พ.ศ.2561
คำประกาศเจตนารมณ์
ข้อบังคับพรรคเพื่อไทย ฉบับนี้ เป็นผลมาจากการรัฐประหาร เมื่อวันที่ ๒๒ พฤษภาคม ๒๕๕๗ซึ่งได้มีการยกเลิกรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ.๒๕๕๐ ต่อมา เมื่อวันที่ ๖ เมษายน ๒๕๖๐ และวันที่ ๘ ตุลาคม ๒๕๖๐ ได้มีการประกาศใช้รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ๒๕๖๐ และพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง พ.ศ.๒๕๖๐ ตามลำดับผลจากกรณีดังกล่าว ทำให้พรรคเพื่อไทย มีความจำเป็นต้องยกเลิกข้อบังคับพรรคเพื่อไทย พ.ศ.๒๕๕๑ ซึ่งมีผลใช้บังคับอยู่ในขณะนั้น และตราข้อบังคับฉบับนี้ขึ้นใช้บังคับแทน เพื่ออนุวัต ให้เป็นไปตามบทบัญญัติของรัฐธรรมนูญและพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ พ.ศ.๒๕๖๐ ข้อบังคับฉบับนี้จึงตราขึ้นบนพื้นฐานและบริบทของการที่จำเป็นต้องทำให้เป็นไปตามบทบัญญัติของกฎหมาย แม้กฎหมายดังกล่าวจะมิได้มีที่มาโดยแนวทางประชาธิปไตยก็ตาม
เนื่องจากสถานการณ์ที่เป็นอยู่ในปัจจุบัน พรรคการเมืองมีข้อจำกัดในการดำเนินกิจกรรมทางการเมือง ประชาชนถูกจำกัดสิทธิเสรีภาพในการแสดงออก พรรคการเมืองและประชาชนขาดโอกาสในการมีส่วนร่วมทางการเมืองที่จะแก้ไขปัญหาต่างๆ ให้บรรลุผลตามที่ตั้งใจได้ พรรคเพื่อไทยจึงขอประกาศว่า พรรคมีความมุ่งมั่นที่จะดำเนินการฟื้นฟูประเทศในทุกด้าน ให้ประชาชนมีศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ มีสิทธิ เสรีภาพ และความเสมอภาคอย่างแท้จริงนำประเทศไปสู่ความเป็นประชาธิปไตย ปัญหาความยากจน ความเหลื่อมล้ำ และปัญหาเศรษฐกิจของประเทศจะต้องได้รับการแก้ไขอย่างเร่งด่วน กฎหมายและกระบวนการยุติธรรมต้องเป็นไปตามมาตรฐานสากล และหลักนิติธรรม การบริหารราชการแผ่นดินและการปฏิบัติหน้าที่ราชการต้องเป็นไปอย่างโปร่งใสมีธรรมาภิบาล ประเทศมีความรักความสามัคคี ซึ่งการบรรลุผลสัมฤทธิ์ตามเจตนารมณ์ดังกล่าว ต้องอาศัยความร่วมมือของประชาชน ในทุกภาคส่วนและมวลสมาชิกทุกท่านที่จะต้องสร้างเจตนารมณ์ร่วมกัน เพื่อนำพาประเทศไปสู่เป้าหมายดังกล่าว และร่วมกันป้องกัน และต่อต้านการรัฐประหาร
พรรคเพื่อไทยจึงขอให้สมาชิกพรรคทุกคนได้ร่วมแรงร่วมใจที่จะปฏิบัติหน้าที่ร่วมกันเพื่อให้เกิดผลสัมฤทธิ์ตามเจตนารมณ์ของพรรคอันจะนำมาซึ่งประโยชน์และความผาสุกของประชาชนและประเทศชาติสืบไป
คำประกาศอุดมการณ์
(๑) ยึดมั่นในการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข
(๒) ยึดถือว่าประชาชนเป็นเจ้าของอำนาจอธิปไตย มุ่งมั่นในการสร้างประชาธิปไตยที่แท้จริง ต่อต้านเผด็จการทุกรูปแบบ
(๓) ยึดมั่นในการพัฒนาที่ยั่งยืน ระบบเศรษฐกิจแบบเสรี เป็นธรรม และเป็นประโยชน์ต่อคนส่วนใหญ่ ขจัดการผูกขาด สร้างความรุ่งเรือง และความมั่นคงทางเศรษฐกิจ เพิ่มพูนความสามารถในการแข่งขันของประเทศ
(๔) ขจัดความยากจน ลดความเหลื่อมล้ำ สร้างความเสมอภาค และความเป็นธรรมทางเศรษฐกิจ การเมือง สังคม และความมั่นคงของมนุษย์ ยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชน
(๕) มุ่งพัฒนาพรรคให้เป็นสถาบันการเมืองของประชาชนอย่างแท้จริง
(๖) มุ่งมั่นสร้างระบบการเมืองของประเทศให้เป็นการเมืองของประชาชน เป็นรัฐประชาชน มิใช่รัฐราชการ สร้างเสริมให้ประชาชนชาวไทยมีความรู้ความเข้าใจในการอยู่ร่วมกันบนอุดมการณ์ และวัฒนธรรมประชาธิปไตย
(๗) ยึดมั่นในการดำเนินการทางการเมืองด้วยความซื่อสัตย์สุจริต มีธรรมาภิบาล ป้องกันการทุจริตประพฤติมิชอบทุกรูปแบบ
(๘) มุ่งสร้างความสามัคคีปรองดอง เคารพศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ สิทธิเสรีภาพ ความเสมอภาคของบุคคล ยึดมั่นในสันติวิธี หลักสิทธิมนุษยชน และหลักนิติธรรม
(๙) สร้างประเทศไทยให้มีบทบาทโดดเด่นและสร้างสรรค์ในเวทีโลก เคารพกฎหมาย และพันธะกรณีระหว่างประเทศ สร้างสันติภาพ ความเข้าใจ ความเมตตาปรารถนาดีต่อกัน โดยไม่มีการแบ่งแยกเชื้อชาติ ศาสนา
คำประกาศนโยบาย
ในบริบทของโลกที่มีความเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วในทุกมติ ทั้งด้านด้านเทคโนโลยี และความก้าวหน้าของนวัตกรรม ภูมิรัฐศาสตร์ของโลก เศรษฐกิจ การค้าและการเมืองระหว่างประเทศ รวมทั้งการเปลี่ยนแปลงทางภูมิอากาศของโลก ซึ่งประเทศไทยต้องปรับตัวให้ทันการเปลี่ยนแปลงดังกล่าว ที่ผ่านมาประเทศได้เผชิญกับความท้าทายภายในประเทศในหลายๆ ด้าน ทั้งด้านการเมือง เศรษฐกิจและสังคม การพัฒนาประชาธิปไตยไม่ต่อเนื่อง มีการรัฐประหารหลายครั้งการเมืองขาดเสถียรภาพ มีปัญหาการทุจริตและประพฤติมิชอบในภาครัฐการบริหารงาน ขาดประสิทธิภาพระบบราชการมีขนาดใหญ่และขาดความคล่องตัว สัดส่วนงบประมาณส่วนใหญ่ยังเป็นงบประจำ จนทำให้เหลืองบเพื่อการพัฒนาน้อย การจัดสรรงบประมาณไม่สอดคล้องกับความจำเป็นของประเทศ การบริหารงานภาครัฐยังเป็นแบบรวมศูนย์และขาดการกระจายอำนาจ มีกฎหมายล้าหลังจำนวนมาก การบังคับใช้กฎหมายไม่เป็นไปตามหลักนิติธรรม ยังมีการละเมิดสิทธิมนุษยชน เศรษฐกิจยังไม่เติบโตเต็มศักยภาพ มีความเหลื่อมล้ำทางเศรษฐกิจและสังคม การกระจายรายได้ยังไม่ทั่วถึงและเป็นธรรม รายได้ต่อหัวประชากรยังต่ำ ประเทศยังมีปัญหาเรื่องความยากจน ประชาชนจำนวนมากยังเข้าไม่ถึงโอกาสทางสังคม ความรู้ ทุนและที่ดินทำกิน ความเจริญยังกระจุกตัวในเมืองใหญ่ ขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศยังอยู่ในอันดับที่ไม่น่าพอใจ โครงสร้างพื้นฐานยังไม่สมบูรณ์ต้นทุนในการคมนาคมขนส่งและโลจิสติกส์ยังสูงกว่าหลายประเทศ พลังงานส่วนใหญ่ยังต้องนำเข้า มีต้นทุนที่สูง และยังขาดประสิทธิผลในการใช้ คุณภาพและความเหลื่อมล้ำทางการศึกษายังเป็นปัญหา นอกจากนั้นสังคมไทยยังมีปัญหาเรื่องคุณธรรมและจริยธรรม สิ่งแวดล้อมและทรัพยากรธรรมชาติถูกทำลายจนลดน้อยลง โดยเฉพาะทรัพยากรป่าไม้ มีปัญหาในการจัดการทรัพยากรน้ำอย่างเป็นระบบ น้ำท่วมน้ำแล้งยังคงเป็นปัญหาซ้ำซาก ยาเสพติดยังเป็นภัยคุกคามสังคม
ในบริบททางเศรษฐกิจนั้น พลวัตรของโลกส่งผลให้ประเทศไทยจำต้องปรับตัวเพื่อการดำรงอยู่อย่างมีศักดิ์ศรีและมีบทบาทที่สร้างสรรค์บนเวทีโลก ประเทศไทยมีระบบเศรษฐกิจ ที่เชื่อมโยงกับเศรษฐกิจโลก ดังนั้น การทำให้ประเทศมีภูมิคุ้มกันต่อการเปลี่ยนแปลงของเศรษฐกิจโลกจำเป็นต้องมีการพัฒนาและยกระดับระบบเศรษฐกิจภายในประเทศให้มีความเข้มแข็งและมั่นคง และสร้างความเชื่อมั่นให้เกิดขึ้นในระบบเศรษฐกิจ รวมทั้งต้องยกระดับความสามารถ ในการแข่งขัน พัฒนาด้านนวัตกรรมและการมียุทธศาสตร์การพัฒนาที่มีวิสัยทัศน์ของภาครัฐ โดยเฉพาะบทบาทภาครัฐที่มีลักษณะเป็นผู้สนับสนุนและผู้สร้างสภาวะที่เอื้อให้ภาคเอกชน เป็นหลักในการพัฒนา
พรรคเพื่อไทยเห็นว่าในการสร้างเศรษฐกิจให้เข้มแข็งมั่นคงและกระจายความมั่งคั่งให้ทั่วถึง และเป็นธรรมนั้น เศรษฐกิจฐานรากเป็นหัวใจสำคัญต่อการสร้างความเข้มแข็งให้กับเศรษฐกิจภายในประเทศ พรรคเพื่อไทยมุ่งมั่นที่จะขับเคลื่อนเศรษฐกิจฐานรากอย่างเหมาะสม และมีประสิทธิภาพ ลดความเหลื่อมล้ำและกระจายทรัพยากรและอำนาจอย่างเหมาะสม โดยให้ประชาชนมีส่วนร่วมในการพัฒนาตนเองและท้องถิ่นของตนมากขึ้น ส่งเสริมให้เกิดการแข่งขันอย่างเสรีและเป็นธรรม โดยป้องกันการผูกขาดของผู้ประกอบการรายใหญ่
พรรคเพื่อไทยมุ่งสร้างประเทศให้พร้อมรองรับเทคโนโลยีสมัยใหม่ในทุกมิติ การเข้าสู่ภาวะสังคมสูงวัย ประกอบกับกับอัตราการเกิดที่มีแนวโน้มต่ำลงจะสร้างปัญหาให้ภาคการผลิตของประเทศในอนาคต การส่งเสริมการผลิตแรงงานที่สอดคล้องกับความต้องการของภาคการผลิตจึงเป็นสิ่งที่สำคัญ และยังต้องส่งเสริมการใช้เทคโนโลยีดิจิทัลและโครงสร้างเศรษฐกิจใหม่ที่ใช้เทคโนโลยี ในการขับเคลื่อนเพื่อทดแทนปัญหาการขาดแคลนแรงงาน
พรรคเพื่อไทยปรารถนาที่จะเห็นประเทศไทยมีการพัฒนาประชาธิปไตยอย่างต่อเนื่อง การเมืองมีเสถียรภาพ ประชาชนมีส่วนร่วมทางการเมือง ประเทศยึดมั่นในหลักนิติรัฐ นิติธรรม และสิทธิมนุษยชน การบริหารงานภาครัฐมีธรรมาภิบาลและประสิทธิภาพ ประเทศมีความสามารถในการแข่งขันเพิ่มขึ้นในทุกมิติ เศรษฐกิจเติบโตอย่างยั่งยืนและมั่นคงต่อเนื่อง มีการกระจายรายได้และความเจริญอย่างทั่วถึงและเป็นธรรม ประชาชนมีรายได้เพียงพอในการดำรงชีพประเทศ มีทรัพยากรธรรมชาติที่สมบูรณ์และมีสิ่งแวดล้อมที่ดี มีความปรองดองสมานฉันท์ของคนในชาติ สังคมเข้มแข็ง มีความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน ประชาชนมีชีวิตที่มั่นคง สามารถเข้าถึงการศึกษาคุณภาพระดับโลกได้ตลอดชีวิต ประชาชนมีทักษะและสมรรถนะที่จำเป็นในศตวรรษที่ ๒๑ ได้รับบริการและดูแลจากภาครัฐที่มีประสิทธิภาพ เท่าเทียมและเป็นธรรมประชาชนมีงานทำ ดำรงชีวิตอย่างมีศักดิ์ศรีและทำมาหาเลี้ยงชีพด้วยความสะดวกตามกฎหมายมีสิทธิเสรีภาพ มีความเสมอภาค มีคุณภาพชีวิตและสุขภาวะที่ดีและมีความสุข ประเทศมีวัฒนธรรมประเพณีที่ดีงาม มีศักดิ์ศรีและโดดเด่นในเวทีโลก อีกทั้งมีความสัมพันธ์ที่ดีกับประเทศเพื่อนบ้านและมิตรประเทศอื่นๆ
พรรคเพื่อไทยยึดมั่นในอุดมการณ์และหวังในผลสัมฤทธิ์ของนโยบาย เพื่อหวังให้นโยบายต่างๆ ของพรรคได้ส่งผลต่อการแก้ปัญหาของประเทศและประชาชนอย่างเป็นรูปธรรม
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี