กกต.เตรียมเอกสารแจงพรรคการเมือง28ก.ย.นี้ ระบุคุณสมบัติพรรคส่งสมัครเหลือแค่จ่ายทุนประเดิม1ล้าน-มีสมาชิก500คน-จัดประชุมใหญ่แก้ข้อบังคับแล้ว หวั่นสรรหาผู้สมัครไม่เป็นไปตามหลักเกณฑ์เอาผิดไม่ได้ ชี้รับสมาชิกใช้โซเชียลติดต่อได้แต่ห้ามพ่วงหาเสียง
21 ก.ย.61 นายแสวง บุญมี รองเลขาธิการคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ได้โพสต์เอกสารในเฟสบุ๊กส่วนตัว ถึงรายละเอียดของเอกสารบางส่วนที่จะใช้ประกอบการชี้แจงแนวทางการดำเนินกิจการของพรรคการเมือง ตามคำสั่งของหัวหน้า คสช.และเรื่องที่เกี่ยวข้องกับพรรคการเมือง ต่อผู้แทนพรรคการเมือง ในการประชุมวันที่ 28 ก.ย.61 โดยเป็นรายละเอียดการส่งผู้สมัครรับเลือกตั้งและหลักกฎหมายพรรคการเมืองในประเด็นที่สำคัญ ซึ่งมีเนื้อหาที่น่าสนใจ คือ พรรคการเมืองที่จะมีสิทธิส่งผู้สมัครรับเลือกตั้ง ตามคำสั่งหัวหน้า คสช.ที่ 13/2561 จะต้องมีคุณสมบัติ คือ 1.มีทุนประเดิมแล้ว 1 ล้านบาท 2.มีสมาชิกพรรค 500 คน ที่จ่ายค่าบำรุงพรรคปี 2561 แล้ว และ 3.มีการประชุมใหญ่ เพื่อแก้ไขเปลี่ยนแปลงข้อบังคับพรรค และเลือกหัวหน้าพรรค และกรรมการบริหารพรรค ตามที่ พ.ร.ป.ว่าด้วยพรรคการเมือง 2560 กำหนดและให้สอดคล้องกับ พ.ร.ป.ว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส.ที่จะมีผลใช้บังคับด้วย
ส่วนหัวหน้าสาขาพรรค และตัวแทนพรรคการเมืองประจำจังหวัด ซึ่งเดิมเป็นองค์ประกอบสำคัญของกระบวนการไพรมารีโหวต แต่เมื่อมีคำสั่งหัวหน้า คสช.ที่ 13/2561 กำหนดให้คณะกรรมการสรรหา ที่ประกอบไปด้วย กรรมการบริหารพรรค 4 คน และตัวแทนสมาชิกที่พรรคเลือก 7 คน รวม 11 คน ทำหน้าที่ในการคัดสรรผู้สมัคร หัวหน้าสาขา และตัวแทนพรรคการเมืองประจำจังหวัดจะทำหน้าที่เพียงการให้ความเห็นเกี่ยวกับการสรรหาผู้สมัครเท่านั้น โดยตามคำสั่งที่ 13/2561 กำหนดให้พรรคการเมืองต้องตั้งหัวหน้าสาขาให้แล้วเสร็จภายใน 1 ปี แต่ในส่วนของตัวแทนพรรคการเมืองประจำจังหวัด เอกสาร ระบุว่าจะแต่งตั้งได้เมื่อมีการแบ่งเขตเลือกตั้งแล้ว แต่คำสั่ง คสช.ไม่ได้ระบุเงื่อนเวลา การจัดตั้งตัวแทนพรรคการเมืองประจังหวัดว่าจะเสร็จสิ้นเมื่อใด ดังนั้น จึงขึ้นอยู่กับเหตุผลและความจำเห็นของแต่ละพรรคการเมือง
ทั้งนี้ เอกสารยังระบุข้อสังเกตว่า กรณีพบว่ากระบวนการสรรหาของคณะกรรมการสรรหา ไม่เป็นไปตามหลักเกณท์และวิธีการที่คณะกรรมการสรรหากำหนด ไม่มีบทบังคับเอาผิดและโทษโดยตรง แต่อาจจะเป็นความผิดตามมาตรา 22 ของ พ.ร.ป.ว่าด้วยพรรคการเมือง 2560 ที่กำหนดให้คณะกรรมการบริหารพรรค มีหน้าที่ควบคุม กำกับดูแล ไม่ให้สมาชิก กระทำการอันเป็นการฝ่าฝืนรัฐธรรมนูญกฎหมาย ข้อบังคับ รวมถึงระเบียบ ประกาศ และคำสั่งของ กกต.โดยเมื่อมี พ.ร.ฎ.ให้มีการเลือกตั้ง ส.ส.คณะกรรมการบริหารพรรคมีหน้าที่ควบคุม กำกับดูแลไม่ให้สมาชิก ผู้ดำรงตำแหน่งในพรรคกระทำการในลักษณะอาจทำให้การเลือกตั้งไม่เป็นไปโดยสุจริตไม่ชอบด้วยกฎหมาย ไม่ว่าโดยตรงหรือโดยอ้อม และถ้าความปรากฏต่อกรรมการบริหารพรรค หรือกรรมการบริหารพรรคได้รับแจ้งจากนายทะเบียนว่าสมาชิกมีการกระทำที่เป็นฝ่าฝืน สามารถสั่งให้สมาชิกยุติการกระทำนั้นถ้าพบว่ากรรมการบริหารพรรคไม่สั่งให้หยุดกระทำให้นายทะเบียนพรรคการเมืองเสนอต่อ กกต.พิจารณา มีคำสั่งให้กรรมการบริหารพรรคดารเมืองนั้นพ้นจากตำแหน่งทั้งคณะ และห้ามดำรงตำแหน่งใดในพรรค จนกว่าจะพ้นเวลา 20 ปี นับแต่วันที่พ้นจากตำแหน่ง
ส่วนการดำเนินกิจการทางการเมือง นอกจากที่มีการกำหนดไว้ 7 ข้อ ในคำสั่งหัวหน้า คสช.ที่ 13/2561 เอกสารระบุว่า จะต้องขออนุญาตจาก คสช.ตามประกาศข้อ 4 และ 5 ตามคำสั่งหัวหน้า คสช.ที่ 53/5260 ที่กำหนดว่าต้องมีการระบุประเภทกิจกรรม เวลา สถานที่ จำนวนผู้เข้าร่วม ผู้รับผิดชอบกิจกรรม โดยต้องยื่นคำขอผ่าน กกต.ไปยัง คสช.ขณะที่การรับสมาชิก ต้องเป็นตามข้อบังคับของแต่ละพรรคการเมือง ตามมาตรา 15 (9) ของ พ.ร.ป.ว่าด้วยพรรคการเมือง และต้องไม่ขัดต่อประกาศ คสช.ที่ 57/2557 และคำสั่ง คสช.ที่ 3/2558 ส่วนการติดต่อสื่อสารระหว่างพรรคการเมืองและสมาชิกโดยใช้สื่ออิเล็กทรอนิกส์ ตามคำสั่งหัวหน้า คสช.ที่ 13/2561
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี