นปช.รุมแฉขวัญชัย

ร้องไห้ในคุก

วรชัย-นิสิตลุยขุด

เชื่อมีไอ้โม่งไขลาน

เสงี่ยมยุแกนนำอุดร

สาวไส้ธิดากับพวก

เมื่อวันที่ 22 กุมภาพันธ์ นายวรชัย เหมะ สส.สมุทรปราการ พรรคเพื่อไทย และแกนนำเสื้อแดงแนวร่วมประชาชนเพื่อประชาธิปไตย (นปช.) ให้สัมภาษณ์ตอบโต้นายขวัญชัย ไพรพนา ประธานชมรมคนรักอุดร หลังทางนายขวัญชัย

ออกมากระชากหน้ากากแกนนำเสื้อแดงกลุ่มของนางธิดา ถาวรเศรษฐ์ ประธานนปช.อย่างถึงพริกถึงขิง

“การพูดของนายขวัญชัย ในตอนนี้เหมือนคนฟิวส์ขาดไปแล้ว หากเป็นคนมีอุดมการณ์ เป็นนักต่อสู้มีความคิดจริงคงไม่พูดลักษณะอย่างนี้ เราเป็นมิตรที่ร่วมอุดมการณ์ต่อสู้กันมา ถึงมีความคิดต่าง แต่ในฐานะมิตรก็ไม่ควรพูดอะไรที่รุนแรงขนาดนี้ การต่อสู้คนเสื้อแดงเป็นองคาพยพ ไม่มีใครคนใดคนหนึ่งเป็นเจ้าของ ไม่มีใครใหญ่กว่าใคร บางคนพี่น้องประชาชนให้การยอมรับเพราะเขาเห็นว่านำการต่อสู้ได้ แต่หากคนไหนใช้ท่วงทำนองแบบนี้ อนาคตการเมืองคงอยู่ที่ประชาชนตัดสินว่ารับได้หรือไม่”นายนิสิตระบุ

และว่าองค์กรของเสื้อแดงไม่ใช่ของใครคนใดคนหนึ่ง ไปพูดถึงนางธิดา เรื่องไม่ให้ขึ้นเวทีที่โบนันซ่า ซึ่งเรื่องไม่เกี่ยวกันเลย การจะขึ้นได้อยู่ที่คนจัดคิวให้ใครพูดเวลาไหน เรื่องนิดเดียวไปพูดแบบนี้ถือว่าไม่ให้เกียรติกัน ไม่ใช่จะใหญ่มาจากไหน มาถึงปุ๊บจะขึ้นเวทีทันทีและที่บอกจะเปิดโปงแกนนำนปช.เรียงตัว ก็ต้องแยกกันเรื่องส่วนตัวกับเรื่องส่วนรวม บอกจะไม่ร่วมสังฆกรรมกับนปช.ส่วนกลาง ก็ไม่เป็นอะไร จะสู้คนเดียวได้ให้รู้ไปสิ ผมก็ได้รับฟังจากพี่น้องประชาชนมาเยอะถึงเรื่องส่วนตัว แต่ไม่อยากพูด อยากให้นึกถึงขบวนการ คิดถึงเรื่องส่วนตัวเป็นตัวตั้ง

ย้อน”ขวัญชัย”ไปส่องกระจก

นายวรชัยยังตอบโต้ประเด็นที่ถูกกล่าวถึงว่าแกนนำนปช.หลายคนมีผลประโยชน์แอบแฝงว่า ส่วนตัวมีผลประโยชน์อะไร ใครมีผลประโยชน์อะไร หากมีก็แฉมาได้ ไม่เป็นอะไร การเคลื่อนไหวขบวนการประชาธิปไตยไม่มี บางคนอาจจะมี แต่ไม่ใช่พวกเรา พวกแกนนำนปช. แต่คนพูดระวัง ไปทำอะไรไว้ ก่อนที่จะออกมาว่าอะไร ควรดูตัวเองก่อน

ข้องใจใครหนุนหลังขวัญชัย

ด้านนายนิสิต สินธุไพร ผอ.โรงเรียน นปช.แดงทั้งแผ่นดิน กล่าวว่า นายขวัญชัย คงเข้าใจผิดอะไรบ้างอย่าง และไม่สนับสนุนการออกกฎหมายนิรโทษกรรม แต่กลุ่มนปช.ส่วนกลางเห็นด้วย ทั้งๆ ที่เรื่องนี้เป็นหนึ่งในปฏิญญาโบนันซ่าของคนเสื้อแดงที่ประกาศในการชุมนุมเมื่อปี2555 ทั้งการสนับสนุนให้ส.ส.รัฐบาลโหวตร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญในวาระ3 ให้รัฐบาลประกาศรับรองเขตอำนาจศาลอาญาระหว่างประเทศ เช่นเดียวกับเรื่องการให้ออกกฎหมายนิรโทษกรรม

“ชมรมคนรักอุดรฯ ก็เป็นแนวร่วมนปช. ไม่ใช่กลุ่มหลัก แม้จะมีความคิดเห็นแตกต่างกันแต่ไม่นำไปสู่ความแตกแยก และกำลังของนายขวัญชัยก็มีไม่มาก ที่ผ่านมาโฆษณาเกินจริง แนวร่วมที่อ้างว่าพามาชุมนุมก็ไม่ใช่ แต่เป็นเพราะเขาเห็นด้วยกับแนวทางของนปช. จึงเดินทางมาชุมนุม ไม่ใช่เพราะนายขวัญชัยพามา”นายนิสิตระบุ

แฉนอนร้องไห้ในเรือนจำ

ผู้สื่อข่าวถามว่า ประเมินว่าอะไรเป็นสาเหตุที่นายขวัญชัยไม่พอใจต่อการเคลื่อนไหวของแกนนำ นปช. นายนิสิต กล่าวว่า นายขวัญชัยตั้งแต่ออกจากเรือนจำมีเรื่องคัดค้านแนวทางของนปช.หลายเรื่อง ตั้งแต่คัดค้านไม่ให้แกนนำเสื้อแดงเป็นรัฐมนตรี ไม่ให้แกนนำรับตำแหน่งทางการเมือง ต่อมาก็ไม่เห็นด้วยกับการชุมนุมของนปช.ที่โบนันซ่าเมื่อปี2555 ประกาศจะไม่นำมวลชนเข้าร่วม บอกมีคนมาไม่เกิน2หมื่น สุดท้ายก็มาเข้าร่วมและมีมวลชนเข้าร่วมนับแสนคน สิ่งนี้คือพฤติกรรมของเขา ซึ่งพวกเราก็เฝ้ามองกันอยู่

ส่วนกรณีที่นายขวัญชัย กล่าวอ้างทำนองว่าแกนนำนปช.หลายคนน่าจะมีผลประโยชน์นั้น นายนิสิตกล่าวว่า การพยายามทำลายแนวร่วม กล่าวหาแกนนำเป็นพวกพรรคประชาธิปัตย์ เป็นกลุ่มพันธมิตรฯ ทั้งๆ ที่ไม่ใช่ ต่อมากล่าวหาเรื่องแกนนำมีผลประโยชน์ นั้นยิ่งหนักเลย เราเคลื่อนไหวในนาม นปช.จะมีผลประโยชน์อะไร ตนก็ยังงงอยู่ ถ้าบอกว่าพวกเรามีก็เอาออกมาบอกเลยว่าคืออะไร อย่ามาทำลายกันเองโดยไม่มีข้อมูล บางทีอาจพูดไปด้วยอารมณ์โมโห ใจร้อน ตอนอยู่ในเรือนจำก็ร้องห่มร้องไห้ กลัวไม่ได้ออกจากคุก พวกเราต้องปลอบประโลมกัน แต่พอออกมาก็เป็นอย่างนี้ ก็ไม่เข้าใจ คิดว่า นายขวัญชัย น่าจะถูกคอนโทรลเบื้องหลัง แต่ไม่รู้เป็นใครเท่านั้นเอง

คุมย้ายนายตำรวจอีสาน

ขณะเดียวกันมีความเคลื่อนไหวที่น่าสนใจในโลกออนไลน์ โดยเฉพาะในเว็บไซต์ยูทูป โดย1788pumin เป็นผู้โพสต์’ขวัญชัยเส้นใหญ่ย้ายผู้การอีสานได้’ความยาว2.25นาที โดยข้อความ เนื้อหาส่วนใหญ่ ปรากฎว่า บุคคลหน้าละม้ายคล้าย นายขวัญชัย พูดจาในโต๊ะประชุมร่วมกับคนอื่นลักษณะว่า ให้การช่วยเหลือนายตำรวจทั้งยศผู้กำกับ ผู้การ หลายคนในหลายจังหวัดในอีสาน พร้อมกับกล่าวอ้างว่ามีพวกเป็นนายตำรวจใหญ่ในภาคอีสาน แถมยังมีส่วนในการย้ายให้นายตำรวจยศสูงๆให้ไปอยู่ในโรงพักหลายแห่งในภาคอีสาน บางตอนยังมีการกล่าวอ้างว่านายตำรวจยศสูงหากต้องการจะย้ายต้องมาให้เป็นคนเซ็นรับรองก่อนที่จะส่งไปให้คนดูไบดู บางจังหวัดหากจะปรับเปลี่ยนต้องมาขอก่อนอีกด้วย นอกจากนี้บางตอนยังระบุอีกว่านายตำรวจยศสูงบางจังหวัดเป็นเด็กของแกนนำนปช.ชื่อดังบางคนอีกด้วย

จากเรื่องดังกล่าวมีกระแสข่าวแพร่สะพัดในคนเสื้อแดงว่า อาจเป็นเกมใต้ดินเอาคืนหลังจากที่นายขวัญชัย ออกมาโจมตีแกนนำนปช.ส่วนกลางหลายคนอย่างรุนแรง ช่วงก่อนหน้า

เสงี่ยมหนุนขวัญชัยชนแหลก

ในขณะที่ พ.ต.ต.เสงี่ยม สําราญรัตน์ ที่ปรึกษาสำนักนายกรัฐมนตรี และแกนนำกลุ่มเสื้อแดง ให้สนับสนุนนายขวัญชัย ไพรพนา แกนนำแดงอีสาน ที่ออกมาโจมตีนางธิดา ถาวรเศรษฐ ประธาน นปช. ว่าเป็นเผด็จการ

“เรื่องนี้เป็นการชิงการนำมวลชนของทั้งสองฝ่าย ซึ่งนางธิดา เป็นเผด็จการจริง นปช.เป็นองค์กรใหญ่ ที่ต้องเคลื่อนไหวอย่างเป็นอิสระแต่นางธิดาไม่มีการจัดระบบการจัดการในองค์กรหลายอย่าง ซึ่งเมื่อมวลชนได้รับความเดือดร้อนก็ไม่มีการเข้าไปดูแล”พ.ต.ต.เสงี่ยมระบุ

และยืนยันว่าไม่เคลื่อนไหวร่วมกับนางธิดาเช่นเดียวกับนายขวัญชัย แต่เชื่อว่าหากมีการเคลื่อนไหวครั้งใหญ่เกี่ยวกับเรื่องของประชาธิปัตย์และอุดมการณ์ ก็อาจจะสามารถร่วมกันได้ ส่วนที่นายขวัญชัยออกมาโจมตีเรื่องต่างๆเกี่ยวกับนางธิดานั้น ยืนยันว่า นางธิดา เป็นอย่างนั้นจริงๆ ซึ่งตนรู้มานานแล้ว และรู้จักนางธิดาเป็นอย่างดี แต่ไม่อยากพูดอะไรมาก

เสนอณัฐวุฒินั่งประธานนปช.

“สำหรับตำแหน่งประธาน นปช.ผมเห็นว่าให้นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ หรือนายจตุพรพรหมพันธ์ เป็นก็ได้ “พ.ต.ต.เสงียบ ทั้งยังเห็นว่านายจตุพร ยังมีโอกาสเป็นรัฐมนตรีดูแลกระทรวงมหาดไทย

แกนนำเสื้อแดงผู้นี้ ยังได้เรียกร้องให้ ส.ส.เสื้อแดง ใช้ตำแหน่งประกันตัวคนเสื้อแดงที่ถูกในเรือนจำ เพราะเนื่องจากคนเสื้อแดงจะได้ร่วมต่อสู้เคลื่อนไหวแบบ 2 ขา และคนเสื้อแดงให้การสนับสนุนพรรคเพื่อไทยมาโดยตลอด จนทำให้พรรคเพื่อไทยได้เข้ามาเป็นรัฐบาล แต่หาก ส.ส.ในพรรคไม่เห็นด้วย ก็ต้องมีเหตุผลที่คนเสื้อแดงรับฟังได้ ยืนยันว่าจะไม่กดดันมติของพรรค แต่หากไม่เห็นชอบตามที่ตนเรียกร้อง ตนก็จะไปปราศรัยที่หน้ารัฐสภา แต่จะไม่นำมวลชนไปกดดัน

ทั้งนี้ ตนได้ยื่นหนังสื่อต่อ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ผ่านนายสุพร อัตถาวงศ์ รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง เพื่อให้นายกฯได้รับทราบเรื่องดังกล่าวแล้ว จากนั้นเวลา 09.00น.วันที่ 26ก.พ.จะนะเรื่องดังกล่าวเสนอต่อที่ประชุมพรรคเพื่อไทยและเวลา 10.00 น.วันที่ 27 ก.พ. ก็จะนำไปยืนต่อนายสมศักดิ์ เกียรติสุรนนท์ ประธานรัฐสภาด้วยเช่นกัน

วุฒิสภาสัมนากม.นิรโทษ

เช้าวันเดียวกัน ที่ห้องรับรอง 1-2 อาคารรัฐสภา 2 คณะอนุกรรมาธิการการตรวจสอบข้อเท็จจริงและติดตามความคืบหน้าทางคดีของผู้ที่เสียชีวิตในเหตุการณ์การชุมนุมทางการเมือง ในกรรมการสิทธิมนุษยชน สิทธิเสรีภาพและการคุ้มครองผู้บริโภค วุฒิสภา ที่มีนายตวง อันทะไชย ส.ว.สรรหา เป็นประธานกมธ.จัดเสวนา เรื่อง “นิรโทษกรรม..ทำไม..เพื่อใคร?” มีสมาชิกวุฒิสภา ประชาชน สื่อมวลชน เข้าร่วมฟังการเสวนา กว่า 150 คน

พธม.ไม่ล้างผิดให้คนโกง

นายปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ โฆษกพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย (พธม.) กล่าวว่า จุดยืนของ พธม. ไม่เห็นด้วยล้างผิดอาญา หรือทุจริตคอรัปชั่นทุกกรณี หากพธม.ทำผิดอาญา พร้อมรับการกระทำเพื่อรักษาหลักนิติรัฐต่อไป สำหรับจุดยืนส่วนตัว เห็นว่าต้องยึดหลักของ คอป. ที่ระบุไว้ว่าผู้กระทำความผิดต้องรับผิดชอบทางกฎหมาย โดยรับผิดชอบทางอาญา และเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม ตามกฎหมาย ส่วนตัวเชื่อว่าความสันติภาพและสงบสุขจะไม่เกิดขึ้นหากผู้กระทำผิดไม่เข้าสู่กระบวนการยุติธรรม

พร้อมกันนี้ขอเรียกร้องไปยังกลุ่มนปช. ให้ต้องตอบให้ได้ว่าที่ต้องการนิรโทษกรรม เพราะไม่ได้ทำผิดแต่ถูกกลั่นแกล้ง หรือ ทำผิดจริงแต่อยากได้การนิรโทษกรรม ซึ่งหากเป็นประเด็นหลัง ตนก็ห่วงว่าจะมีการนำไปสู่ความเป็นอภิสิทธิชน และทำให้กระบวนการยุติธรรมมีปัญหา ประชาชนไม่เชื่อใจ เพราะเป็นการใช้อำนาจรัฐที่ให้คุณให้โทษกับบุคคลใดก็ได้

นิรโทษแล้วยังต้องตีความ

ด้านนายบรรเจิด สิงคะเนติ คณบดีคณะนิติศาสตร์ สถาบันบัณฑิตพัฒนาบริหารศาสตร์ (นิด้า) ฐานะนักวิชาการกลุ่มสยามประชาภิวัฒน์ กล่าวว่า ในเนื้อหาของร่างกฎหมายนิรโทษกรรมที่นำเสนอ โดยเฉพาะ ร่างกฎหมายนิรโทษกรรมของ คอ.นธ. ตนมีข้อสังเกตโดยเปรียบเทียบกับการออกกฎหมายนิรโทษกรรมให้กับผู้ที่ชุมนุมทางการเมืองในลักษณะดังกล่าวที่ผ่านมานั้น พบว่าสิ่งที่สำคัญ คือช่วงเวลา ดังนั้นร่างกฎหมายนิรโทษกรรมของ คอ.นธ.ที่ให้ห้วงเวลา 5 ปี นับตั้งแต่ 19 ก.ย. 49 – 10 พ.ค. 54 ถือว่ายาวนาน และเหตุการณ์ที่ผ่านมานั้นมีความซับซ้อน ยุ่งยาก อีกทั้งเป็นกาต่อสู้ของกลุ่มการเมืองที่เสียประโยชน์ และเสียอำนาจในรัฐบาล และมีประชาชนเข้ามาเกี่ยวข้อง ส่วนประเด็นที่ระบุว่าใครบ้างจะได้รับการนิรโทษกรรม ฉบับของคอ.นธ. เชื่อว่าจะนำไปสู่ปัญหาที่ทำให้เกิดการตีความ เพราะช่วงเวลา 5 ปี ใครเป็นผู้ใช้ เป็นผู้กระทำ แล้วการกระทำใดที่จะไดรับรับการนิรโทษกรรม สำหรับรูปแบบการเขียนกฎหมายนิรโทษกรรม ในรูปแบบพระราชกำหนด เชื่อว่าไม่เข้าเงื่อนไขของการออก พ.ร.ก. ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 184

เชื่อมีคนค้าน กม.นิรโทษ

นายชำนิ ศักดิเศรษฐ ส.ส. บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่ามีความพยายามเสนอเงื่อนไขใหม่เพื่อสร้างปรองดอง ตนยอมรับข้อเสนอของคอป. ที่ต้องค้นหาความจริง และมีการดำเนินการตามกระบวนการยุติธรรม การชดเชยเยียวยา และการนิรโทษกรรม ตนในฐานะอดีตกมธ.ฯ ปรองดอง สภาฯ มองว่าเหตุที่นิรโทษกรรมขณะนี้ทำไม่ได้ เพราะเป็นการเสนอกฎหมายนิรโทษกรรมแบบเหมาเข่ง ทั้งนี้จากประวัติศาสตร์ การออกกฎหมายนิรโทษกรรม 20 ฉบับที่ผ่านมา เป็นการทำเพื่อยุติขัดแย้ง โดยใช้หลักนิติธรรม อีกทั้งร่างพ.ร.บ.ปรองดอง ที่เสนอมารนั้นยังคงค้างอยู่ในสภา ซึ่งพวกตนก็เคยบอกให้ถอนออกไป แล้วแก้ไขใหม่ โดยไม่ให้มีเงื่อนไข และสร้างประโยชน์กับทุกฝ่าย แต่รัฐบาลก็ยังไม่ดำเนินการ

ในส่วนร่างกฎหมายนิรโทษกรรมของ คอ.นธ.ที่เตรียมเสนอเข้าสภานั้น นายชำนิ กล่าวว่าเมื่อนำเข้ามาพิจารณา เชื่อว่าจะเกิดความเคลื่อนไหวต่อต้านแน่ๆ และกลายเป็นความขัดแย้งในสภาอีกรอบ เพราะฉบับของ คอ.นธ.นั้น เป็นการนิรโทษกรรมแบบเหมาเข่ง อีกทั้งยังถือเป็นการจับมวลชนเป็นตัวประกันดังนั้นตนจึงเห็นว่าควรนำร่างกฎหมายดังกล่างกลับไปปรับปรุงใหม่