28 พ.ค.56 นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร และหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ เปิดเผยถึงกรณีที่นายเจริญ จรรย์โกมล รองประธานสภาผู้แทนฯ เสนอให้นำร่าง พ.ร.บ.ปรองดองแห่งชาติของร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรีเป็นหลักแล้วนำร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรมของนายวรชัย เหมะ ส.ส.สมุทรปราการ พรรคเพื่อไทยมาพิจารณารวมว่า การจะนำร่างกฎหมายใดเป็นหลักในการพิจารณาเป็นเรื่องของที่ประชุมสภา จึงแปลกใจว่าทำไมนายเจริญจึงแสดงความเห็นในทำนองนี้ อย่างไรก็ตามสิ่งที่เกิดขึ้นสะท้อนว่า สิ่งที่ทำนายไว้ไม่ผิด ในที่สุดจะบอกว่ากฎหมายของร.ต.อ.เฉลิมไม่ใช่กฎหมายการเงิน เพื่อหลีกเลี่ยงไม่ให้ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรีเข้ามาเกี่ยวข้อง
“ต้องมีคำอธิบายเพราะบทบัญญัติที่เขียนไว้ในเรื่องผลกระทบที่เกิดขึ้นกับงานของ คตส.นั้น จะก่อให้เกิดสิทธิและผูกพันทรัพย์สินของรัฐ ยืนยันมาตลอดว่าสุดท้ายแล้วร่างของร.ต.อ.เฉลิมคือกฎหมายที่จะได้รับการผลักดันเนื่องจากตอบโจทย์ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ซึ่งในช่วงหลายปีที่ผ่านมาก็ชัดเจนว่า ตราบใดที่ยังไม่ตอบโจทย์ให้กับพ.ต.ท.ทักษิณ ความวุ่นวายก็ไม่จบ โดยส่วนตัวเห็นว่ามาตรา 4 ในร่างกฎหมายปรองดองของร.ต.อ.เฉลิมขัดรัฐธรรมนูญมาตรา 309 ดังนั้น เมื่อมีการพิจารณาในสภาก็ต้องดูว่าจะพิจารณาอย่างไร”
ผู้นำฝ่ายค้าน กล่าวว่า ตามขั้นตอนแล้วก็สามารถส่งให้ศาลรัฐธรรมนูญตีความได้ ยืนยันว่าพรรคไม่ได้เป็นผู้สร้างปัญหา แต่กฎหมายที่มีการเสนอมามีปัญหา ไม่เช่นนั้นก็ต้องให้ทุกคนยืนยันว่าหากมีการผ่านกฎหมายนี้แล้วจะไม่ก่อให้เกิดสิทธิใดๆ ตามมา เพื่อให้ผูกมัดให้ชัดเจน หากมีวิธีการแบบนี้ทางพรรคจึงจะยอมได้ว่าไม่เป็นกฎหมายการเงิน
อย่างไรก็ตามทุกอย่างต้องเข้าสู่การพิจารณาของสภาก่อน ซึ่งในเดือนสิงหาคมที่จะมีการเปิดประชุมสภา ก็เป็นห่วงว่าประเทศเสียโอกาสไปเรื่อย เพราะต้องมาเสียเวลากับเรื่องที่เป็นประโยชน์ของคนหยิบมือเดียว ในขณะที่ปัญหาของคนส่วนใหญ่ไม่ได้รับการแก้ไข
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี