29 พ.ค.56 นายเกียรติ สิทธีอมร ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ อภิปรายร่าง พ.ร.บ.งบประมาณปี 57 ว่า สภาพัฒน์ได้ปรับประมาณการคาดการณ์การเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจลดลง แต่ ร่างพ.ร.บ.ฉบับนี้ยังใช้ตัวเลขเดิม โดยที่รัฐบาลไม่มีการชี้แจงแนวทางแก้ปัญหาเศรษฐกิจที่ถดถอย โดยตัวเลขการส่งออกปรับลดลงจาก 11% เหลือ 7.6% และผ่านมากว่า 4 เดือนเพิ่มขึ้นแค่ 1.6%  จะไปถึงเป้า 11% ได้อย่างไร ซึ่งโกหกสีขาวมีได้เพียงครั้งเดียวหากมีอีกครั้งจะทำให้ประเทศหมดความน่าเชื่อถือ

ทั้งนี้ การส่งออกที่ถดถอย เป็นเพราะปัญหาจากนโยบายจำนำสินค้าเกษตรของรัฐบาล โดยขณะนี้เหลือข้าวในสต็อก 15-16 ล้านตัน หากทำต่อไปประเทศไทยจะพังอย่างแน่นอน ซึ่งที่ผ่านมา ธกส.ใช้งบไปกับการจำนำสินค้าเกษตรแล้วถึง 6.71 แสนล้านบาท ซึ่งอาจผิดเงื่อนไขที่ไทยในฐานะสมาชิกองค์การการค้าโลกเคยไปเซ็นลงนามไว้ ที่ผ่านมาสภาพัฒน์ฯ ได้ให้ข้อมูลว่าโครงการรับจำนำข้าจะขาดทุน 4 -5 แสนล้านบาทต่อปี และยังมีแนวโน้มจะทำต่อไป ดังนั้นจึงไม่สามารถเห็นด้วยกับ ร่างพ.ร.บ.ฉบับนี้ โดยการเอาเงินภาษีประชาชนไปจ่ายได้

รัฐบาลระบุว่ายังไม่สามารถสรุปความเสียหายจากโครงการรับจำนำข้าวได้ เพราะยังไม่มีการปิดบัญชีนั้น ขณะนี้ผู้ที่เป็นทำหน้าที่ประธานคณะกรรมการปิดบัญชีฯ ก็ถูกย้ายไปแล้ว ซึ่งมีการปิดบัญชีว่า ขาดทุนไปแล้ว 2.6 แสนล้านบาท แต่ยังไม่มีการเปิดเผยออกมา ทั้งที่ประธานคณะกรรมการฯ คนนี้ถือเป็นคนทำงานดี มีความรู้ความสามารถสังคมให้การยอมรับ แต่โครงการจำนำข้าวมีคนได้ประโยชน์ เพราะจากการอภิปรายไม่ไว้วางใจมีโรงสีกว่า 600โรง มีรายได้เพิ่มขึ้นหลายร้อยล้านบาท

"ขณะนี้สินค้าขายดีที่สุดคือ รถเฟอร์รารีและปอร์เช่ ซึ่งลูกหลานของโรงสีเป็นผู้ซื้อ ทั้งที่มาจากเงินภาษีประชาชน  คงต้องหวังพึ่ง ป.ป.ช. ให้เร่งตรวจสอบอย่างรวดเร็ว ก่อนที่ประเทศจะเสียหายมากกว่านี้"

นายเกียรติ กล่าวต่อไปว่า ปัญหาที่ทำให้สิ่งของมีราคาแพงขณะนี้ ส่วนหนึ่งเกิดจากปัญหานโยบายการกำกับพลังงาน จนทำให้ประชาชนเดือดร้อน แม้จะมีการเปลี่ยนรัฐมนตรี 3 คน แต่นโยบายเหมือนเดิม เพราะมีการผูกขาดธุรกิจพลังงานตั้งแต่ต้นทางถึงปลายทางของกลุ่มธุรกิจกลุ่มเดียว โดยผลกำไรตกไปอยู่กับผู้ถือหุ้น ทำให้ประชาชนต้องใช้จ่ายแพงกว่าที่จำเป็น โดยเฉพาะราคาน้ำมันที่ ปตท. ถือหุ้นใน 5 โรงกลั่นน้ำมัน

นอกจากนี้ ยังพบว่าบริษัท วอยซ์ ทีวี มีรายได้จากโฆณาของรัฐวิสาหกิจทั้ง 3 แห่ง รวมกัน 49 ล้านบาท เป็น ปตท. ที่เดียว 30 ล้านบาท ทั้งนี้ บริษัท วอยซ์ทีวี ใครเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ สามารถดูรายชื่อได้เลยเป็นคนตระกูลไหน ญาติใคร แล้วอย่างนี้ นายกฯจะมาขออนุมัติเห็นขอบ พ.ร.บ.งบประมาณประจำปี 2557 ได้อย่างไร และ ข้อมูลทางบัญชีของบริษัท ปตท. ยังมีการเบิกงบไปเลี้ยงรับรองอดีตเลขาธิการนายกฯ และในวันที่ 12 ก.ค.55 ยังพบว่า ปตท. มีการเบิกงบไปเลี้ยงอาหารรัฐมนตรี ทั้งกลางวัน และเย็น เป็นหลักแสนบาท