หลังจากกลุ่มพนักงานสำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) เปิดหนส้านต่อต้าน นายวรวัจน์ เอื้ออภิญญกุล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวิทยาศาสตร์ในกรณี ที่พนักงาน อ้างว่า บริหารงานไม่ชอบธรรม ไร้ธรรมภิบาล และขาดจริยธรรม นั้น ล่าสุด เฟซบุ๊ค Fresco Ciclope ระบุว่า นักวิจัย คณาจารย์ นักวิทยาศาสตร์ทั้งรุ่นเล็ก รุ่นใหญ่ ได้รวมตัวกันจัดทำ WRISTBAND (สายรัดข้อมือ) "FIGHT FOR SCIENCE" โดยมีวัตถุประสงค์ที่ชัดเจนคือ จะนำไปเป็นกองทุน เพื่อใช้ในการต่อสู้กับรัฐมนตรี และนโยบายอันไร้ธรรมาภิบาลของรัฐบาล และพวกพ้องที่มีต่อ สวทช. พร้อมระบุว่า เบื้องต้น ทำจำนวนจำกัดเพียง 1,000 ชิ้น จำหน่ายในราคา 50 บาท/ชิ้น รวมถึงบอกสถานที่ และขั้นตอนการสั่งซื้อ
Fresco Ciclope ระบุไว้ว่า
ด่วนมากค่ะ! จาก สวทช. ขอประกาศข่าวให้เพื่อนๆ พี่น้องชาววิทยาศาตร์ รวมถึงผู้ที่รักและอยากสนับสนุนวงการวิทยาศาสตร์ไทยให้พ้นจากความสกปรกของนักการเมือง ได้ช่วยกันผนึกกำลังช่วยเหลือวงการวิทยาศาสตร์ของไทยนะคะ
เราเป็นหนึ่งในตัวแทนของ สวทช. (สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ) ขอประกาศข่าวให้เพื่อนๆ ได้ทราบว่า ในวันพรุ่งนี้ (พฤหัสที่ 6 มิถุนายน 2556) ทางนักวิจัย คณาจารย์ นักวิทยาศาสตร์ทั้งรุ่นเล็ก รุ่นใหญ่ ได้รวมตัวกันจัดทำและจัดจำหน่าย WRISTBAND (สายรัดข้อมือ) "FIGHT FOR SCIENCE" ซึ่งในเบื้องต้น ทำมาจำนวนจำกัดค่ะ เพียง 1000 ชิ้น จำหน่ายในราคา 50 บาท/ชิ้น เท่านั้นค่ะ หน้าตา wristband ตามรูปเลยค่ะ เงินทุกบาททุกสตางค์ของทุกท่านที่ช่วยเหลือในครั้งนี้หลังหักค่าใช้จ่าย จะนำไปเป็นกองทุน เพื่อใช้ในการต่อสู้กับรัฐมนตรี และนโยบายอันไร้ธรรมาภิบาลของรัฐบาลและพวกพ้องที่มีต่อ สวทช. ค่ะ ...(พรุ่งนี้เราก้อจะไปช่วยเค้ายืนขายด้วยค่ะ จำหน่ายใน สวทช. เลยค่ะ) ถ้ารักเรา รักวิทยาศาสตร์ รักประเทศชาติ มองไปไกลถึงอนาคตของเด็กไทย ด๊อกเตอร์เก่งๆของไทย เรานิ่งเฉยกันเห็นทีจะไม่ได้นะคะ
WRISTBAND (สายรัดข้อมือ) "FIGHT FOR SCIENCE
เพื่อนๆ พี่ๆ น้องๆ คนไหน สนใจ สามารถสั่งซื้อได้โดยตรงที่เราค่ะ ส่ง inbox message มาสั่งได้เลยว่าต้องการสั่งซื้อจำนวนเท่าไหร่ ใครโอนเงินมาแล้ว แจ้งชื่อ นามสกุล ที่อยู่มาด้วยค่ะ (สามารถมารับของได้ด้วยตัวเองที่ BTS จตุจักร หรือ เมเจอร์รัชโยธินค่ะ) หรือถ้าใครอยากให้จัดสงไปรษณีย์ไปให้ รบกวนโอนเงินเพิ่มอีก 20 บาทเป็นค่าจัดส่งพัสดุตามที่ไปรษณีย์ชาร์ตจริงด้วยค่ะ
ปล. เราเป็น PH.D ที่มีโปรเจค กับที่นี่ แต่ไม่ใช่พนักงาน สวทช. ดังนั้น เราไม่มีส่วนได้ส่วนเสียในเรื่องนี้ทั้งสิ้นนะคะ เพียงแต่เรารักประเทศไทย และรักวิทยาศาสตร์ค่ะ
จากปัญหาที่เกิดขึ้นจากความคดโกงของนักการเมือง การปกครองที่ไร้ธรรมาภิบาล ลุกลามมาจนถึงคนในวงการนี้ ที่สถาบันวิจัยของชาติ โดนตัดงบวิจัยวิทยาศาสตร์ของประเทศไปเป็นที่เรียบร้อยแล้วนั้น ทางชาว สวทช. ไม่ได้นิ่งดูดาย และพร้อมที่จะสู้กันเต็มที่ เพื่อสิ่งที่ถูกต้องให้กับประเทศชาติและงานวิทยาศาสตร์ที่จะต้องเป็นกลไกสำคัญในการผลักดันความก้าวหน้าให้กับประเทศต่อไป
ปัญหาที่เกิดขึ้นกับ สวทช. ไม่ได้จำกัดอยู่แค่ในนามสถาบันนี้ แต่มันหมายถึงอนาคตความก้าวหน้าของประเทศ ทุกสิ่งที่เราหยิบจับใช้สอยทุกวันนี้ ล้วนมีบ่อเกิดมาจากผลิตผลความคิดกระบวนการที่วิทยาศาสตร์สรรสร้างให้ทั้งนั้น เราไม่สามารถบอกกล่าวปัญหาได้ทั้งหมดเปลือก เนื่องจากการเมือง และยุทธศาสตร์การเดินทัพนั้นซับซ้อน ใช้วิธีการแบบป่าลุยเมืองไม่ได้ ดังนั้น คงพูดได้เท่าที่คนใน สวทช. อนุมัติให้พูดนะคะ
ไม่เคยมีรัฐบาลชุดไหน ตัดงบวิจัยงานวิทยาศาสตร์ ออกมากขนาดนี้ จนงานของ สวทช. เดินหน้าต่อไปเกือบไม่ได้ค่ะ ไม่เคยมีรัฐบาลชุดไหน แทรกแซง สั่งเอาคนในวงตระกูลของตัวเองทั้งหมดที่ไม่มีความรู้เรื่องวิทยาศาสตร์เลยเตรียมมานั่งในบอร์ดเพื่อบริหารงานของสถาบันวิจัยของชาติขนาดนี้ งบทุกก้อน ไม่ว่าจะน้อยหรือมาก รัฐมนตรีดึงเอาไปดูเองหมดเลย ซึ่งทำให้เกิดความล่าช้า และบ่ายเบี่ยงและไม่เป็นธรรม (งานวิจัยวิทยาศาสตร์เป๋นอะไรที่ต้องทำต่อเนื่อง มันเป็นการทดลอง ไม่สามารถตัดๆหยุดๆได้กะทันหันหรือขาดตอน) อยู่ๆอยากตัดงบก้อตัด งานวิจัยของประเทศ ไม่ใช่งบอะไรที่จะมาตัดได้ตามอำเภอใจ เปลี่ยนหัวข้องานวิจัย เพื่อเอื้อประโยชน์ให้ตนเองและพวกพ้องนักการเมืองร่ำรวย เป็นสิ่งที่รับไม่ได้มากๆค่ะ อยู่ๆจะให้คนที่มีความถนัดในเรื่องไวรัส แบคทีเรีย วิจัยกุ้ง ซึ่งเป็นสัตว์เศรษฐกิจ หรือพันธุ์ข้าวซึ่งเป็นพืชเศรฐกิจ หรือให้นักตัดต่อพันธุกรรมระดับเทพมาทำลำไย ไม้สัก หรือสิ่งอื่นๆ เพื่อเอื้อให้ตนเองรวย นี่มันไม่ใช่หน้าที่ของเราค่ะ แอบอ้างใช้คำพูดสวยหรู VALUE CHAIN ซึ่งในความจริงเป็นสิ่งเท็จ ที่เอามาสวมคำพูดดีๆ ให้คนไม่รู้ฟังแล้วดูดี สิ่งเหล่านี้มันเป็นของกระทรวงเกษตรซึ่งมีคนรับผิดชอบอยู่แล้ว
ทุกคนอาจจะเข้าใจปัญหาที่เกิดขึ้นจิงๆ แตกต่างกันไป เพราะการเมืองเล่นงานเยอะมาก ข่าวที่ออกไปก้อถูกบิดเบือนมาก จนคนไม่เข้าใจสถานการณ์ว่าแย่แค่ไหน แล้วประเทศชาติ หรือเด็กไทยที่อยู่ในวงการนี้ต่อไปจะเดือดร้อนยังไง มันน่าเศร้ามากค่ะ
IMPACT ของการตัดงบวิจัย
1). มีผลต่อการให้ทุนกับนักเรียน นักศึกษาที่สนใจด้านเรียนวิทยาศาสตร์ (พูดง่ายๆคือ ไม่มีทุนการศึกษาให้เด็กที่อยากจะเรียนวิทยาศาสตร์ค่ะ
2). เด็ก นศ. วิทยาศาสตร์ อาจหางานทำในองค์กรที่เป็นที่ยอมรับได้ยาก เนื่องจากขาดงบประมาณในการจ้างงาน
3). ในส่วนนักเรียนที่ยังไม่ได้ตัดสินใจว่าจะเรียนสาขาวิชาใด อาจเปลี่ยนไปเลือกเรียนด้านอื่น (ประเทศชาติเปรียบเหมือนร่างกาย จะก้าวหน้าหรือเดินหน้าได้ เก่งและแกร่งได้ จำเป็นต้องใช้สมองทั้งสองซีก ซ้ายและขวา ศิลป์และวิทย์) ลองคิดดูว่าถ้าขาดบุคลากรทางด้านนี้ เราต้องซื้อหาเทคโนโลยีจากต่างประเทศแพงอีกเท่าไหร่ ในเมื่อประเทศเราเป็นแหล่ง SOURCE ที่ดีประเทศหนึ่งในโลก ที่นักวิจัยประเทศอื่นยังเข้ามาวิจัยทรัพยากรธรรมชาติของเรา
4). สุดท้าย คนไทยจะคิดไม่เป็น ต้องเดินตามคนอื่น ประเทศอื่น และกลายเป็นประเทศด้อยพัฒนาในที่สุด
มันไม่ใช่เราที่โดนวงการนี้วงการเดียว ถ้าทุกคนตามข่าวสาร ก้อจะรู้ว่าโดนกันถ้วนหน้า ทุกโครงการ ทุกองค์กร โกงกินกันสุดๆ
ขอบคุณทุกท่านที่สละเวลาอ่าน และขอบคุณล่วงหน้าสำหรับคนที่เข้ามาช่วยเหลือค่ะ
สามารถกระจายข่าวได้เต็มที่ เราตั้ง public ไว้แล้วค่ะ
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี