ไม่รู้ชะตากรรม "เอกยุทธ" ล่าคนขับรถ ป.พุ่งเป้าเป็นคนลงมืออุ้ม

ไม่รู้ชะตากรรม "เอกยุทธ" ล่าคนขับรถ ป.พุ่งเป้าเป็นคนลงมืออุ้ม

วันอังคาร ที่ 11 มิถุนายน พ.ศ. 2556, 06.00 น.
Tag :

ไม่รู้ชะตากรรม "เอกยุทธ"

ล่าคนขับรถ

ป.พุ่งเป้าเป็นคนลงมืออุ้ม

คุ้ยประวัติคดีอื้อกรรโชกทรัพย์

ค้นค่ายทหารพัทลุงคว้าน้ำเหลว

ทนายเชื่อมีนายตำรวจเกี่ยวข้อง

ความคืบหน้ากรณีนายเอกยุทธ อัญชันบุตร นักธุรกิจการเงิน และเจ้าของเว็บไซต์ไทยอินไซเดอร์ ที่หายตัวไปอย่างมีเงื่อนงำ พร้อมกับนายสันติภาพ เพ็งด้วง อายุ 23 ปี อยู่บ้านเลขที่280/109 หมู่ที่ 3 ต.ชุมพล อ.ศรีนครินทร์ จ.พัทลุง คนขับรถและเงินสดจำนวน  5 ล้านบาทตั้งแต่วันที่ 6 มิถุนายนที่ผ่านมา โดยบรรดาญาติ ได้เข้าแจ้งความที่กองบังคับการปราบปราม และกองบัญชาการตำรวจนครบาลตามข่าวที่เสนอไปแล้วนั้น

เมื่อวันที่ 10 มิถุนายน พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว  ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ(ผบ.ตร.) ให้สัมภาษณ์ว่า ได้รับรายงานล่าสุดพบรถของนายเอกยุทธกับคนขับรถแล้วในพื้นที่ จ.พัทลุง โดยทราบว่าคนขับยังมีชีวิตอยู่ ขณะนี้ตนได้มอบหมายให้พล.ต.อ.ปานศิริประภาวัต รองผบ.ตร.   และพล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง ผบช.น. รับผิดชอบดูแล  และในขณะนี้เจ้าหน้าที่กำลังสอบสวนอยู่ โดยต้องดูทั้งหมดทั้งที่เกิดเหตุ และมูลเหตุต่างๆ  แต่ขณะนี้ยังไม่เจอตัวนายเอกยุทธ


ไม่มั่นใจชะตากรรม”เอกยุทธ”

"ประเด็นการหายตัวของนายเอกยุทธ ทางตำรวจพุ่งเป้าเรื่องธุรกิจ และเรื่องส่วนตัว เพราะก่อนที่จะหายตัวไปนั้นได้เบิกเงินสดไปจำนวนพอสมควร คือ 5 ล้านบาท  ส่วนประเด็นการเมืองต้องดูอีกที แต่เบื้องต้นเป็นเรื่องส่วนตัวและธุรกิจ" พล.ต.อ.อดุลย์กล่าว

เมื่อถามว่า คาดว่านายเอกยุทธยังมีชีวิตอยู่ และปลอดภัยหรือไม่ พล.ต.อ.อดุลย์ กล่าวว่า ต้องดูที่พยานหลักฐานต่างๆ ก่อน ส่วนสามารถบอกได้หรือไม่ว่าเป็นการถูกอุ้มนั้น พล.ต.อ.อดุลย์ กล่าวว่า คงต้องดูที่หลักฐานก่อน เพราะตอนนี้ได้รถและคนขับแล้ว ซึ่งต้องขอเวลาสักระยะหนึ่งก่อนให้ตำรวจได้ทำงานซึ่งทางนครบาลเองก็กำลังเร่งตรวจสอบอยู่ ขอให้ทางตำรวจได้ทำงานก่อน

“บิ๊กแจ๊ด”ประชุมคลี่คลายคดี

ต่อมาเวลา 11.00 น.ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.)พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง ผบช.น. พร้อมด้วย พล.ต.ต.ปริญญา จันทร์สุริยา พล.ต.ต.อนุชัย เล็กบำรุง พล.ต.ต.อิทธิพล พิริยะภิญโญ พล.ต.ต.ฐิติราช หนองหารพิทักษ์ รอง ผบช.น. พล.ต.ต.นัยวัฒน์    ผะเดิมชิต ผบก.น.4 พ.ต.อ.ชูตระกูล ยศมาดี ผกก.วิเคราะห์ข่าวและเครื่องมือพิเศษ และเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวนกก.สส.บก.น.4 ร่วมกันประชุมคลี่คลายคดีการหายตัวไปของนายเอกยุทธ ใช้เวลา 1 ชั่วโมง

พบรถตู้วิ่งผ่านสุราษฏร์ธานีลงใต้

ภายหลังเสร็จสิ้นการประชุม พล.ต.ท.คำรณวิทย์  แถลงว่า  ขณะนี้ได้ภาพว่ารถโฟล์กตู้ สีดำ ทะเบียน ฮพ 9304 กทม.ที่นายสันติภาพ เพ็งด้วง คนขับรถของนายเอกยุทธใช้นั้น วิ่งผ่านอำเภอนาเดิม จ.สุราษฎร์ธานี โดยได้ภาพมาเมื่อเวลาประมาณ 22.30 น.ของวันที่ 8 มิ.ย.ที่ผ่านมา ซึ่งได้ประสานไปยังกองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 8 และภาค 9 รวมถึงตชด.ให้ติดตามรถตู้คันดังกล่าวแล้ว และคาดว่าขณะนั้นตัวนายเอกยุทธน่าจะยังอยู่ในรถตู้คันดังกล่าว

คุ้ยประวัติคนขับรถมีคดีติดตัวอื้อ

ส่วนกระแสข่าวที่ว่าได้ตัวคนขับรถของนายเอกยุทธไว้แล้วนั้น ผบช.น. กล่าวว่า ยังไม่ได้ตัวแต่ก็ได้ไปตรวจสอบที่บ้านพักของคนขับรถนายเอกยุทธที่อยู่ที่จ.พัทลุงแล้ว และยังไม่สามารถบอกอะไรได้ เพราะหลักฐานยังไม่ชัดและอยู่ในระหว่างสอบสวน

“ในส่วนคนขับรถตรวจสอบย้อนหลังพบว่าเคยมีคดีวิ่งราวทรัพย์ แต่อัยการสั่งไม่ฟ้อง และตอนนี้ก็ยังมีคดีกรรโชกทรัพย์ติดตัวอยู่ด้วย ซึ่งก็ต้องสอบสวนเก็บข้อมูลไว้เช่นกัน” ผบช.น. กล่าว

ตร.หาหลักฐานบ.อินไซด์เดอร์

เวลา 14.30 น.พ.ต.อ.สรรหกิจ บำรุงสุขสวัสดิ์ ผกก.สน.วังทองหลาง ได้นำกำลังเข้าตรวจหาหลักฐานเพิ่มเติมภายใน บริษัท ไทยอินไซค์เดอร์ จำกัด เลขที่ 1477 ซอยทาวน์อินทาวน์ 3/2 แขวงพลับพลา เขตวังทองหลาง กทม.ของนายเอกยุทธ โดยพบนายก้องการุณ   ศรีประสาน อายุ 33 ปี ลูกชายของนายเอกยุทธ นำเข้าไปในบริษัท โดยไม่อนุญาตให้สื่อมวลชนตามเข้าภายในบริษัท

มีรายงานว่า ผบช.น.ได้สั่งกำชับให้ชุดสืบสวน เข้าตรวจสอบเอกสารและเส้นทางการเงินของนายเอกยุทธ รวมทั้งให้กองพิสูจน์หลักฐานเก็บลายนิ้วมือแฝงที่เก็บข้อมูลกล้องวงจรปิด เพื่อนำไปเปรียบเทียนกับคนร้าย และเบาะแสเพิ่มเติมจากพนักงานในคืนวันเกิดเหตุ

ลูกชายวอนอยากเห็นหน้าพ่อ

นายก้องการุณ กล่าวว่า จนถึงขณะนี้ก็ยังไม่ทราบสาเหตุที่บิดาหายตัวไป ตอนนี้อยากเจอหน้าบิดา หรือขอให้รู้ว่ายังมีชีวิตอยู่ แล้วค่อยมาคุยเรื่องความขัดแย้งว่ามาจากประเด็นใด แต่ก่อนที่พ่อจะหายตัวไปได้โทรฯมาหาตน 3-4 ครั้งในช่วง 5 ทุ่ม แต่ตนปิดเครื่อง พอเปิดเครื่องเห็นข้อความก็รีบไปที่บริษัทพบรถตู้จอดอยู่แต่ในลักษณะที่ผิดปกติ และการที่เเซิร์ฟเวอร์ที่เก็บภาพวงจรปิดถูกนำไปด้วยก็น่าจะต้องเป็นคนภายในเท่านั้นที่รู้และสามารถเอาออกไปได้

“เรื่องที่บิดาไปมีความขัดแย้งกับนายตำรวจนั้น คงไม่น่าจะถึงขั้นต้องทำขนาดนี้ ผมคงต้องขอเวลาทบทวนว่าบิดาน่าจะถูกกระทำอย่างนี้เพราะอะไร และอยากเจอคนขับรถเพื่อถามเรื่องราวทั้งหมด”นายก้องการุณกล่าวด้วยสีหน้าเคร่งเครียด

ป.ชี้เซิร์ฟเวอร์วงจรปิดถูกโจรกรรม

ด้านพล.ต.ต.สุพิศาล ภักดีนฤนาถ ผู้บังคับการกองปราบปราม(ผบก.ป.) กล่าวถึงความคืบหน้าว่า ได้สั่งการให้ชุดสืบสวน กก.1 บก.ป.เข้าไปตรวจสอบหาข้อมูลเพิ่มเติมที่บ้านพักของนายเอกยุทธ  ที่ย่านทาวน์อินทาวน์ ซึ่งพบว่าถูกโจรกรรมเซิร์ฟเวอร์คอมพิวเตอร์ที่บันทึกข้อมูลของกล้องวงจรปิด ซึ่งบ้านหลังดังกล่าว ทราบว่ามีนายเอกยุทธ พักอาศัยอยู่คนเดียว และก็ยังตรวจสอบความเคลื่อนไหวทางการเงิน รวมทั้งดูวงจรปิดที่สนามบินสุวรรณภูมิเพราะเป็นจุดสุดท้ายก่อนนายเอกยุทธจะหายตัวไป แต่เชื่อว่ายังไม่มีการเดินทางออกนอกประเทศอย่างแน่นอน

พุ่งเป้าคนขับรถลงมือ”อุ้ม”เอง

ข่าวจ้งว่า ขณะนี้เจ้าหน้าที่ ได้ให้น้ำหนักสาเหตุไปที่ตัวนายสันติภาพมากที่สุดว่าอาจเป็นผู้ลงมือเอง ซึ่งจากการสอบสวนทราบว่านายสันติภาพ เพิ่งเข้ามาทำงานกับนายเอกยุทธ ได้ไม่นาน และพบประวัติเคยต้องคดีมาอย่างโชกโชน ทั้งคดีวิ่งราวทรัพย์  ชิงทรัพย์ ล่าสุดก็อยู่ในเหตุการณ์ทำร้ายร่างกายพนักงานของร้านคาราโอเกะซิตี้ ย่านถนนเลียบทางด่วนรามอินทราก่อนหน้านี้

ค้นบ้านพ่อในค่ายทหารแต่ไม่พบ

เช้าวันเดียวกันพ.ต.อ.ทินกร  รังมาตย์ ผกก.6 บก.ป. ได้ประสานพ.ต.ท.ก้องกฤติ ตั๋งบุญชู รอง ผกก.7 บก.ทล. เพื่อให้ตำรวจทางหลวงตั้งด่านสกัดตรวจสอบรถต้องสงสัยในพื้นที่พร้อมกับได้สั่งการให้พ.ต.ต.นรามินทร์แทนจักรินทร์ สว.กก.6 บก.ป. เข้าตรวจสอบบ้านพักของนายอิทธิพล เพ็งด้วง  บิดาของนายสันติภาพ ที่บ้านพักในค่ายอภัยบริรักษ์ อ.ศรีนครินทร์ จ.พัทลุง แต่ไม่พบตัวนายสันติภาพ โดยนายอิทธพลให้การว่า บุตรชายไม่ได้มาหานานแล้ว ส่วนเรื่องที่เกิดขึ้นก็ไม่ทราบว่ามีข้อเท็จจริงเป็นเช่นไร

จับสัญญานจีพีเอสอยู่ในค่ายพัทลุง

ขณะที่แหล่งข่าวระบุว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถจับสัญญาณจีพีเอสของรถยนต์ตู้ของนายเอกยุทธ ระบุยังอยู่ในค่ายอภัยบริรักษ์พัทลุง ค่ายช.401-402 พื้นที่หมู่ 3 ต.ชุมพล อ.ศรีนครินทร์ ทางพล.ต.ท.พิสิฎฐ์  พิสูทธิ์ศักดิ์ ผู้บัญชาการตำรวจภาค 9 จึงได้ประสานไปยังผู้บัญชาการค่ายทหารเพื่อส่งชุดสืบสวนจากตำรวจภาค 9 ประมาณ 10 นาย เข้าไปตรวจสอบตามบ้านพักในค่ายทหารโดยไม่ยอมให้สื่อมวลชนเข้าไปทำข่าวในค่ายทหารแต่อย่างใด

ผู้การฯภาค9ยันตรวจแล้วไม่เจอ

ด้านพล.ต.ท.พิสิฎฐ์  พิสูทธิ์ศักดิ์ ผู้บัญชาการตำรวจภาค 9 กล่าวภายหลังการตรวจค้นค่ายอภัยบริรักษ์พัทลุงว่า ทหารก็ให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี เปิดให้ตำรวจชุดสืบสวนเข้าไปตรวจสอบอย่างละเอียดในค่ายทหาร ก็ไม่พบรถและผู้ต้องสงสัยหลบอยู่ในค่ายทหาร  นอกจากนี้จากการส่งเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าไปพูดคุยกับคนในครอบครัวของนายสันติภาพ ก็บอกปัดไม่ทราบว่านายสันติภาพ ไปหลบอยู่ที่ใด อย่างไรก็ตามหากติดต่อได้ก็จะนำตัวมามอบให้กับทางตำรวจ

สั่งตั้งด่านควานหาตัวเอกยุทธ

ขณะเดียวกันทางพล.ต.ต.ศักดิ์สมหมาย พุทธกูล ผบก.ภ.พัทลุง ได้จัดกำลังตำรวจตั้งด่านตรวจรถบนทางหลวงในทุกอำเภอและจัดกำลังออกค้นหารถรถยนต์ตามโรงแรมและที่พักทุกแห่ง โดยเฉพาะพิ้นที่ อ.ศรีนครินทร์และป่าพะยอมหลังจากมีข่าวว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถจับสัญญาณจีพีเอสของรถยนต์ตู้ที่ระบุอยู่ในค่ายอภัยบริรักษ์พัทลุง

นอกจากนี้ทางเจ้าหน้าที่ก็ได้แบ่งกำลังส่วนหนึ่งเดินทางไปตรวจสอบที่บ้านของนายเปลี่ยน เพ็งด้วง อายุ 83 ปี ที่บ้านเลขที่ 1 หมู่ที่ 5 ต.เขาย่า อ.ศรีบรรพต ซึ่งเป็นปู่ของนายสันติภาพ  เพ็งด้วง แต่ก็ไม่พบหลักฐานร่องรอยแต่อย่างใด

พบสัญญานมือถือเข้ามาพัทลุงจริง

ทั้งนี้พ.ต.ต.ศักดิ์สมหมาย ให้สัมภาษณ์ว่า  ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้รับสัญญาณโทรศัพท์ของนายสันติภาพ เพ็งด้วง เดินทางมาพื้นที่จ.พัทลุงตั้งแต่ช่วงเย็นของวันที่ 9 มิ.ย.จึงได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ทุกอำเภอตั้งด่านตรวจบนทางหลวง และตรวจสอบตามโรงแรม และที่พักทุกแห่งในจ.พัทลุง แต่จนขณะนี้ยังไม่พบหลักฐานหรือควบคุมตัวผู้ต้องสงสัยแต่อะไร

ทนายเชื่อมีนายตำรวจเกี่ยวข้อง

ส่วนนายสุวัตร อภัยภักดิ์ ทนายความของนายเอกยุทธ อัญชันบุตร กล่าวว่า สิ่งที่ตนสันนิษฐานคือ 1.ก่อนเกิดเหตุนายเอกยุทธไล่พนักงานสามคนออกไปโดย1ใน3คนนั้น เป็นสตรีหนึ่งคนที่มีความสัมพันธ์กับคนขับรถของนายเอกยุทธ เมื่อติดต่อสตรีคนนั้นก็ทำไม่ได้  2.คนขับรถของเอกยุทธคงอุ้มนายเอกยุทธไม่ได้เเน่ เเม้จะทำลายหลักฐาน เช่น กล้องวงจรปิด การขายโทรศัพท์  คนที่ลงมือต้องมีความรู้ทางกฎหมายเเละรู้เทคนิคสอบสวนของตำรวจ เพื่อตัดการเชื่อมโยงกันเเละกัน

“ผมเชื่อว่าเหตุนี้ตำรวจบางนายร่วมงานเเละวางเเผน โดยคนขับรถของนายเอกยุทธน่าจะชี้ช่องในเรื่องนี้ ยอมรับว่า นายเอกยุทธมีโจทก์เยอะโดยเฉพาะกับนายตำรวจชั้นผู้ใหญ่เเละคนอื่นๆ ในเเวดวงต่างๆ”นายสุวัตร กล่าว

สะพัด!รวบคนขับหิ้วเค้นเซฟเฮ้า

ขณะที่ล่าสุดมีข่าวอีกกระแสระบุว่า ชุดสืบสวน บช.น.ได้สืบสวนจนได้ข้อมูลการเคลื่อนไหวของนายสันติภาพ เพ็งด้วง คนขับรถตู้ของนายเอกยุทธ ที่ไปอยู่ในพื้นที่อ.ชะอวด และ อ.ปากพยอม จ.พัทลุง ในวันที่ 8 มิ.ย. ก่อนจะเดินทางกลับเข้ามาอยู่ในพื้นที่ อ.แม่กลอง จ.สมุทรสาคร ในช่วงค่ำวันที่ 8 มิ.ย. จนเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน บช.น. เข้าควบคุมตัวนายสันติภาพ พร้อมรถยนต์ตู้ไว้ได้ ก่อนจะนำตัวเข้าเซฟเฮ้าส์เพื่อขยายผล โดยไม่ยอมเปิดเผยรายละเอียด ซึ่งมีรายงานว่านายสันติภาพไม่ได้ให้รายละเอียดใดๆ ทั้งสิ้นกับชุดสืบสวน บช.น.

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

Back to Top