11 มิ.ย.56 นายสันติภาพ เพ็งด้วง คนขับรถของนายเอกยุทธ อัญชันบุตร นักธุรกิจการเงินและอสังหาริมทรัพย์ ตอบข้อซักถามผู้สื่อข่าว กรณีรู้หรือไม่ว่าญาติของนายเอกยุทธได้เข้าแจ้งความ และเหตุใดจึงไม่ติดต่อญาติของนายเอกยุทธ นายสันติภาพ กล่าวว่า ไม่รู้เลยว่ามีการแจ้งความ ตั้งใจขับรถกลับมาจอดไว้ที่บ้านและรอนายเอกยุทธสั่งให้กลับมาทำงานเหมือนเดิม ไม่ทราบว่านายเอกยุทธไปไหนและคนที่ขับรถมารับเป็นใคร เพราะก่อนหน้านี้ก็เคยมีกรณีดังกล่าวเกิดขึ้น คือให้ขับรถไปส่งและมีรถอีกคันมารับไป ก่อนจะให้ตนขับรถกลับบ้านไป ระยะเวลาที่เดินทางก็หลายวันกว่าจะกลับมา
สำหรับสาเหตุที่ต้องเขียนจดหมายเอาไว้ก็เพราะนายเอกยุทธเป็นคนที่ระวังตัวตลอดเวลา พร้อมทั้งสั่งเอาไว้ว่าไม่ให้บอกใครว่าเดินทางไปไหนบ้าง ลูกชายของนายเอกยุทธและพนักงานในอ๊อฟฟิศก็จะชอบมาถามว่าบอสไปไหน ที่ผ่านมาก็เคยถูกบอสต่อว่า จดหมายที่เขียนไว้ก็ไม่ได้บอกรายละเอียดว่าไปส่งที่ไหนเพราะเดี๋ยวจะมีคนถามอีก จึงตั้งใจแปะไว้ที่พวงมาลัยรถ
“ที่ติดต่อผมไม่ได้นั้นเนื่องจากไม่อยากให้ลูกชายของบอสและญาติๆโทรศัพท์มาสอบถาม เพราะถ้าผมไม่บอกก็จะถูกต่อว่าว่าเป็นลูกของบอสนะ ทำไมไม่ยอมบอก พอบอกไปผมก็ถูกบอสต่อว่าอีก เรื่องแหวนของบอสที่ตกอยู่บริเวณคอลโซลหน้ารถตู้ ก็ไม่รู้ว่าไปตกอยู่ตรงนั้นได้อย่างไร เงินสด 5 ล้านบาท ผมก็ไม่รู้ว่าอยู่ที่บอสหรือไม่ เพราะก่อนหน้านี้ก็ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเอกสารที่ให้ไปรับจะเป็นเงิน เพราะตอนที่ไปรับของ ก็เห็นว่าเป็นแค่ถุงสีน้ำตาลใบใหญ่และมีพลาสติกห่อหุ้มอยู่เท่านั้น"
ส่วนที่บอกว่าจะไปประเทศพม่านั้น นายสันติภาพ กล่าวว่า ไม่รู้ว่าไปจริงหรือไม่ แค่ได้ยินเพียงแค่นายเอกยุทธคุยโทรศัพท์ว่าให้รออยู่ที่พม่า เพราะปกติแล้วนายเอกยุทธไม่เคยให้ใครรู้ว่าไปทำอะไรที่ไหนบ้าง เพราะเป็นคนที่ระวังตัวตลอดเวลา และระหว่างที่คุยโทรศัพท์บนรถก็มีบางครั้งที่คุยเป็นภาษอังกฤษ ทำให้ฟังไม่ออก ไม่รู้ว่ามีการพูดคุยในลักษณะที่ขัดแย้งกับใครบ้าง รถเก๋งสองคันที่มารับนายเอกยุทธที่ปราณบุรี ก็ไม่มีใครลงมาทำร้ายฉุดกระชากพาตัวขึ้นไป นายเอกยุทธเดินลงไปด้วยตัวเอง ตนไม่เห็นยี่ห้อรถทั้งสองคัน เห็นเพียงแค่ว่ามุ่งหน้าลงภาคใต้
เมื่อถามถึงคดีวิ่งราวทรัพย์และกรรโชกทรัพย์ที่ถูกดำเนินคดี นายสันติภาพ กล่าวว่า สำหรับคดีวิ่งราวทรัพย์ไม่ได้เป็นคนทำ ก่อนหน้านี้ช่วงที่เป็นวัยรุ่นได้ไปเที่ยวกับเพื่อนแล้วถูกตำรวจจับไปด้วย แต่ต่อมาก็ยกฟ้อง เพราะไม่ได้เป็นคนทำ ส่วนคดีกรรโชกทรัพย์ไม่ขอพูดถึง เป็นเรื่องที่ถูกกลั่นแกล้ง ส่วนสาเหตุที่มาทำงานได้ก็เพราะนายเอกยุทธสงสารที่ถูกต่อยภายในร้านคาราโอเกะซิตี้ โดยเพิ่งจะมาทำงานได้ประมาณ 6 เดือน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี