พท.รุมขย้ำ "คณิต"
ไล่ตะเพิดพ้นคปก.
ข้องใจรับงานมาเล่นรัฐบาล
กฤษฎีกายันกู้เงิน 2 ล้านล้าน
ไม่ใช่เงินแผ่นดิน-ไม่ขัดรธน.
นายอัชพร จารุจินดา เลขาธิการคณะกรรมการกฤษฎีกา ให้สัมภาษณ์เมื่อวันที่5กรกฎาคมกรณีที่คณะกรรมการปฏิรูปกฎหมาย(คปก.) ท้วงติงการออกพ.ร.บ.ให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงินเพื่อพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านคมนาคมขนส่งของประเทศ วงเงิน 2 ล้านล้านบาท อาจขัดหลักรัฐธรรมนูญมาตรา 169 ว่า ต้องแยกกันระหว่างการใช้จ่ายเงินงบประมาณแผ่นดิน กับการกู้เงิน เนื่องจากการใช้จ่ายเงินแผ่นดิน ต้องเป็นเงินที่อยู่ในคลังของแผ่นดิน หากจะนำเงินมาใช้จ่ายจะต้องมีกฎหมายงบประมาณ แต่การกู้เงินนั้นเป็นการกู้มาเพื่อวัตถุประสงค์ใดวัตถุประสงค์หนึ่ง แล้วจะต้องใช้ตามวัตถุประสงค์นั้น จะไปใช้จ่ายอย่างอื่นไม่ได้ ฉะนั้นจึงไม่ให้ต้องมีการส่งคลัง โดยหลักเป็นอย่างนี้กันมาตลอด
อย่างไรก็ตาม ปัจจุบันยังมีกฎหมายหนี้สาธารณะคือ กำหนดการกู้เงินของทุกหน่วยงาน ซึ่งมีการกู้เงินกันมาโดยตลอด ไม่ต้องไปอยู่ในกฎหมายงบประมาณ ขณะที่เรื่องวินัยการเงินการคลังนั้น ในการกู้เงินจะกรอบอยู่ การเบิกจ่ายเงินจะต้องเป็นไปตามสัญญาที่กำหนดไว้ โดยมีสำนักงบประมาณและกรมบัญชีกลางคอยกำกับอยู่ ระบบการกู้เงินของเรา หากกู้ในประเทศเป็นเรื่องแค่ทำสัญญากู้ เงินจะยังอยู่ที่ธนาคาร ราชการไม่ได้เอามา แต่เมื่อไรถึงจะเบิกเงินจึงจะจ่าย อย่างไรก็ตาม มั่นใจว่าพ.ร.บ.กู้เงิน 2 ล้านล้านบาทไม่ขัดรัฐธรรมนูญ
“คณิต”ยันทำตามหน้าที่
ด้านนายคณิต ณ นคร ประธานกรรมการปฏิรูปกฎหมาย (คปก.) กล่าวยืนยันความเห็นที่คณะกรรมการ คปก. มีความคิดเห็นว่า พ.ร.บ.กู้เงิน 2 ล้านล้าน ของรัฐบาลนั้น น่าจะเข้าข่ายขัดรัฐธรรมนูญ มาตรา 169 ส่วนกรณีที่ฝั่งรัฐบาลออกมา ยืนยันว่าการกู้เงิน 2 ล้านล้าน ไม่ขัด รธน.ม. 169 โดยให้เหตุผลว่า เงินกู้ ไม่ใช่เงินของแผ่นดิน เพราะไม่ได้นำส่งบัญชีคลังนั้น นายคณิต ระบุว่า ข้อเสนอแนะที่ตนพูดไปที่ผ่านมาคงจะกระจ่างเพียงพอแล้ว ก็ให้สังคมไปคิด วิพากษ์วิจารณ์กันไป ก็น่าจะเป็นอย่างนั้น (เราก็พูดไปอย่างนั้น) ขณะที่เราเองไม่ได้ทำนอกเหนือหน้าที่
“ทุกวันนี้ผมฟังข่าวที่ คุณสงวน พงษ์มณี ส.ส.ลำพูน พรรคเพื่อไทย ออกมาบอกว่าผมทำนอกเหนือหน้าที่ ช่วยฝากไปบอกคุณสงวนด้วยว่า ให้ไปดูในข้อกฎหมาย กรรมการปฏิรูปกฎหมาย เราไม่ได้ทำนอกเหนือหน้าที่ และก็คงไม่มีอะไรชี้แจง เราออกข่าวและสื่อฯ ที่เราได้นำเสนอให้กับนายกรัฐมนตรีไปแล้ว”นายคณิตระบุ
ส่วนกรณีที่ถ้าเกิดรัฐยังจะดึงดันไปต่อ อีกฝ่ายก็ไปยื่นศาลรัฐธรรมนูญ อย่างที่พรรคประชาธิปัตย์บอกจริง ต้องรับผิดชอบกันเองใช่หรือไม่ หรืออย่างที่ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รมว.แรงงาน บอก เมื่อมีคนที่มีความน่าเชื่อถือสูงในสังคมมาบอก เขาถึงจะเชื่อ นายคณิต กล่าวว่า สังคมไม่ได้ว่าจะเชื่อตน แต่คนในสังคมเขาก็ต้องดูเหตุผลด้วยว่าเชื่อได้หรือไม่
สส.พท.ดาหน้าถล่ม”คณิต”
ขณะที่นายชวลิต วิชยสุทธิ์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย กล่าวตำหนินายคณิตว่า นายคณิตเป็นถึงประธานคปก. และเคยทำในประเด็นเรื่องของการสร้างความปรองดอง แต่ทำไมถึงพูดในประเด็นที่สร้างความร้อนแรงทางการเมือง จนทำให้หุ้นร่วงจำนวนมาก
ส่วนนายสงวน พงษ์มณี ส.ส.ลำพูน พรรคเพื่อไทย กล่าวว่า สิ่งที่นายคณิตระบุว่า การกู้เงิน 2 ล้านล้านบาท ประชาชนไม่ได้ประโยชน์นั้น เหมือนการแก้ตัวให้พรรคประชาธิปัตย์ แสดงว่า ถ้ากู้เงินในโครงการไทยเข้มแข็ง หรือโครงการมิยาซาว่า ประชาชนได้ประโยชน์ใช่หรือไม่
ทั้งนี้ตนยืนยันว่าการกู้เงินตามร่าง พ.ร.บ.กู้เงินดังกล่าว ไม่เข้าข่ายมาตรา 169 เพราะความหมายของเงินแผ่นดินตามมาตรา 169 คือ เป็นเงินของแผ่นดินตามความหมายของรัฐธรรมนูญ มาตรา 169 คือเป็นเงินที่เก็บเข้าคลังแล้วนำไปใช้ แต่การกู้เงินคือกู้เงินเพื่อการลงทุน มีกระบวนการติดตามของรัฐสภา ดังนั้นการกู้เงินมาใช้ ไม่ได้อยู่ในความหมายของ มาตรา169 ถ้าอยู่ในกระบวนการตรวจสอบจะไม่อนุญาตให้ท้องถิ่นสามารถใช้เงินนั้นได้
“จารุพงศ์"ปูดมีอีแอบหนุนหลัง
นายจารุพงศ์ เรืองสุวรรณ รมว.มหาดไทย กล่าวว่า ดูแล้วร่างพ.ร.บ.ดังกล่าวไม่ขัดรัฐธรรมนูญไม่มีส่วนไหนขัด เว้นแต่คนจะไปตีความให้ขัดรัฐธรรมนูญ ทั้งนี้ตนขอให้สังเกตว่าเมื่อไหร่ ที่มีการท้วงติงข่าวจะดัง แต่ถ้าเชียร์ข่าวนั้นไม่ดัง แสดงว่ามีอีแอบอยู่ข้างหลังที่ค่อยโปรโมท ยืนยันว่าวันนี้เราจะทำการกู้เงิน 2 ล้านล้านบาทในการแข่งขันของประเทศให้ทัดเทียมประเทศอื่น เพราะเราพบว่ามีจุดอ่อนในระบบการขนส่ง ดังนั้น รัฐบาลพยายามลงทุนเพื่อให้ระบบการขนส่งเปลี่ยนจากรถยนต์เป็นระบบราง และระบบเรือ เพื่อลดต้นทุน เรื่องปัญญาการใช้หนี้ วันนี้ถ้าให้โอกาสรัฐบาลน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกฯ อยู่ต่ออีก 8 ปีรับรองปลดหนี้ได้
“เด็จพี่”ข้องใจทำไมมาพูดช่วงนี้
นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ โฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า นายคณิตมีหน้าที่ปฏิรูปกฎหมายแต่กลับออกมาให้ความเห็นในลักษณะที่น่าจะมีนัยทางการเมือง หากมีเจตนาดีก็ควรแสดงความเห็นตั้งแต่ช่วงที่รัฐบาลจัดนิทรรศการเกี่ยวกับพ.ร.บ.ให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงิน 2 ล้านล้านบาทที่ศูนย์ราชการ หรือในช่วงที่กำลังพิจารณาวาระแรกในสภาฯ ไม่ใช่ออกมาพูดหลังจากที่พรรคประชาธิปัตย์ยื่นถอดถอนคณะรัฐมนตรี อยากถามว่าเป็นการซ้ำเติมรัฐบาลหรือไม่
“อยากถามว่า เกี่ยวข้องกับความน้อยใจที่ของบจากรัฐบาล 300 กว่าล้านบาทแล้วถูกสำนักงบฯ ตัดงบหรือไม่ ทั้งนี้ทราบมาว่าคณะกรรมการชุดนี้มีแต่คนเงินเดือนเป็นแสน มีรถเบนซ์ประจำตำแหน่ง แต่กลับทำงานเหมือนความรู้สึกช้า เรื่องที่ควรทำกลับไม่ทำ กลับไปทำเรื่องที่ส่งผลลบกับรัฐบาลใช่หรือไม่ ซึ่งหากยังเป็นแบบนี้ก็ขอเรียกร้องให้นายคณิตลาออกจากตำแหน่งประธานคปก.จะดีกว่า" นายพร้อมพงศ์ กล่าว
ปชป.ลั่นขอสู้ให้ถึงที่สุด
วันเดียวกันนายอรรถวิชช์ สุวรรณภักดี ส.ส.กทม.พรรคประชาธิปัตย์(ปชป.)ยืนยัน กรรมาธิการฯของพรรคจะไม่ลาออกจาก กรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่าง พ.ร.บ.ให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงินเพื่อพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านคมนาคมขนส่งของประเทศ วงเงิน 2 ล้านล้านบาท เพราะหากกมธ.ซีกฝ่ายค้านลาออกรัฐบาลจะกู้เงินเต็มวงเงิน 2 ล้านล้านบาทแน่นอน
นายอรรถวิชช์ ระบุว่าแม้คณะกรรมการปฏิรูปกฏหมาย จะมีความเห็นว่า ร่างพ.ร.บ.ดังกล่าว อาจขัดรัฐธรรมนูญ กมธ.ฝั่งพรรคประชาธิปัตย์ จะทำหน้าที่ในฐานะกรรมาธิการฯให้แล้วเสร็จตามกระบวนการของฝ่ายนิติบัญญัติโดยในวันที่ 10 ก.ค.ซึ่งน่าจะเป็นการประชุมครั้งสุดท้าย
รบ.โยนอัยการอุทธรณ์ปมคดีน้ำ
วันเดียวกันมีการประชุมคณะกรรมการกลั่นกรองให้ความเห็นเกี่ยวกับคำสั่งศาล ปกครองกลางในโครงการบริหารจัดการน้ำ 3.5 แสนล้านบาท โดยนายพงศ์เทพ เทพกาญจนา รองนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์หลังประชุมว่า ได้ให้หน่วยงานที่เกียวข้อง เสนอความเห็น ในส่วนที่มีข้อเท็จจริงที่หน่วยงานเราเห็นต่าง หรือเรื่องข้อกฎหมายใดที่หน่วยงานเห็นต่างจากศาลก็ให้ส่งไปที่อัยการซึ่งเป็นผู้รับผิดชอบในการทำคดีนี้ เพื่อให้อัยการพิจารณาว่า เห็นควรเสนอว่าจะอุทธรณ์ต่อศาลปกครองต่อไปหรือไม่อย่างไร
ทั้งนี้กรอบเวลาในการส่งข้อมูลให้อัยการประมาณวันที่ 12 ก.ค.นี้ โดยหน่วยงานที่จะส่งข้อมูลนั้นจะได้คำพิพากษาไปศึกษาว่าตรงกับข้อเท็จจริงหรือไม่ เพราะศาลไม่ได้เรียกเจ้าหน้าที่ หรือหน่วยงานต่างๆเข้าไปให้ข้อมูลในชั้นพิจารณาคดี ซึ่งให้โอกาสไปแค่ครั้งเดียวในขั้นตอนไต่สวนคำร้องขอคุ้มครองชั่วคราว
กฤษฎีกาอ้างคำสั่งศาลสอดคล้องมติครม.
ด้านนายอัชพร จารุจินดา เลขาธิการคณะกรรมการกฤษฎีกา กล่าวว่า การจะอุทธรณ์คำสั่งศาลปกครองกลางหรือไม่นั้น คณะกรรมการกลั่นกรองฯคงบอกไม่ได้ ต้องให้อัยการเป็นผู้พิจารณา อย่างไรก็ตาม คิดว่าคำสั่งศาลปกครองกลางจะไม่เป็นอุปสรรค เนื่องจากก่อนหน้าที่คำพิพากษาของศาลปกครองกลางจะออกมา คณะรัฐมนตรี (ครม.) เคยมีการพิจารณาข้อเสนอครั้งสุดท้ายที่สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรีส่งมา แล้วจึงมีมติให้มีการนำไปรับฟังความคิดเห็นของประชาชนโดยทั่วกันแล้ว ซึ่งความจริงครม.มี แนวทางอย่างนี้อยู่แล้ว เมื่อคำพิพากษาออกมาจึงมีแนวทางสอดคล้องกัน จึงได้มอบให้สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรีไปวางแผนและกำหนดแนวว่าจะรับฟัง ความเห็นประชาชนด้วยวิธีการใด
ย้ำต้องเร่งแก้ไขปัญหาน้ำ
นายนิวัฒน์ธำรง บุญทรงไพศาล รองนายกฯและรมว.พาณิชย์ ให้สัมภาษณ์กรณีที่หลายฝ่ายเป็นห่วงการพิจารณาโครงการบริหารจัดการน้ำ 3.5 แสนล้าน และโครงการเงินกู้ 2 ล้านล้านที่อาจสะดุด หลังจากมีการยื่นให้ศาลพิจารณาว่า ทั้ง 2 โครงการนี้มีการดำเนินมาตามขั้นตอนกฎหมายทุกอย่าง และรัฐบาลเชื่อมั่นว่าทั้ง 2 โครงการนี้เป็นโครงการของอนาคตประเทศไทย ถ้าไม่ทำประเทศไทยจะมีปัญหามากมาย และจะเสียเปรียบประเทศอื่น ทั้งนี้ตนไม่ห่วงเรื่องคอรัปชั่นเพราะรัฐบาลเปิดโอกาสให้ภาคประชาชน เอกชนเข้ามาร่วมสังเกตการณ์ ตรวจสอบทุกโครงการอยู่แล้ว
ส่วนที่กลุ่มส.ว.เตรียมยื่นศาลรัฐธรรมนูญกรณีเงินกู้ 2 ล้านล้านบาทนั้น นายนิวัฒน์ธำรง กล่าวว่า ก็เป็นสิทธิของส.ว.ที่ทำได้ รัฐบาลก็มีหน้าที่ให้ข้อมูลข้อเท็จจริง
“ศรีสุวรรณ”จี้เลิกประมูลน้ำ
ขณะที่นายศรีสุวรรณ จรรยา นายกสมาคมต่อต้านสภาวะโลกร้อน ทำจดหมายยเปิดผนึกถึงนายกรัฐมนตรีและครม. รวมถึง คณะกรรมการนโยบายบริหารจัดการน้ำและอุทกภัยแห่งชาติ (กนอช.) และ คณะกรรมการบริหารจัดการน้ำและอุทกภัย (กบอ.) ขอให้ยกเลิกหรือเพิกถอนการประมูลโครงการน้ำของ 4 กลุ่มบริษัทร่วมค้าต่าง ๆ ทั้ง 9โมดูลแล้วไปรับฟังความคิดเห็นจากประชาชนตามที่ศาลปกครองระบุให้จบกระบวนความก่อน จากนั้นจึงมาเปิดประมูลใหม่ตามเงื่อนไขใหม่ที่รัฐบาลกำหนด
ขู่ฟ้องศาลให้เพิกถอนประมูล
ทั้งนี้หากไม่ดำเนินการรัฐบาลและหรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะเข้าข่ายการละเว้นการปฏิบัติหน้าที่หรือปฏิบัติหน้าที่ในทางมิชอบตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 157 ประกอบความผิดเกี่ยวกับ พ.ร.บ.การเสนอราคาต่อหน่วยงานของรัฐ(กฎหมายว่าด้วยความผิดเกี่ยวกับการฮั้ว) พ.ศ. 2542 โดยทันที และอาจถูกบริษัทต่างๆ ที่เคยเป็นผู้ร่วมเสนอกรอบแนวคิด กว่า 300 บริษัทฟ้องร้องเอาได้ และหรือสมาคมฯจะยื่นศาลปกครองฟ้องร้องเพิกถอนโดยทันที่ที่ฝ่าฝืน ซึ่งจะไม่เป็นผลดีต่อรัฐบาลในอนาคต
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี