วันนี้ 12 ก.ค.56 นายวิมล ไทรนิ่มนวล นักเขียนรางวัลซีไรท์ ปี 2534 โพสต์ข้อความลงบนเฟซบุ๊คส่วนตัวที่ใช้ชื่อว่า“วิมล ไทรนิ่มนวล”แสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับ การออกมาเปิดเผยของ"สุทธิพงษ์ ธรรมวุฒิ" ถึงสารเคมีอันตรายในข้าว จนเกิดเป็นเรื่องราวใหญ่โต ว่า
"สุทธิพงษ์ ธรรมวุฒิ"
เรื่องนี้จริงจังมาก ตอน ๒
กรณีคุณสิทธิพงษ์ ธรรมวุฒิ ได้ระบุถึงยี่ห้อข้าวสารที่มีสารเคมีอันตรายในเฟสบุ๊คของตน เรื่องนี้ก็แพร่สะพัดไปในโลกออกไลน์ราวกับพายุกระหน่ำ
ทำให้นายทุนเจ้าของยี่ห้อข้าวสารที่ถูกระบุว่ามีสารพิษเดือดร้อนอย่างมาก และจะฟ้องคุณสุทธิพงษ์ ซึ่งเรื่องนี้ไม่มีใครแปลกใจ เพราะเขาต้องปกป้องผลประโยชน์ของเขาอยู่แล้ว...ไม่ว่าจะถูกหรือผิด
แต่ที่แปลกใจก็คือรัฐบาลกลับเดือดร้อนยิ่งกว่า...ถึงขนาดรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพานิชย์ก็จะฟ้องร้องด้วย!!
ที่อัศจรรย์ใจกว่านี้ก็คือ..ยังมีคนทั่วไปที่ "ไม่ธรรมดา" คือคนที่เชียร์รัฐบาล ก็พลอยเดือดร้อนไปด้วย ชนิดเป็นเดือดเป็นแค้นก็มี กระแนะกระแหนก็มี ต่อคุณสุทธิพงษ์!
ส่วนคนทั่วไปที่ "ธรรมดา" นั้นเขาเดือดร้อนอีกอย่าง...เขาเดือดร้อนเรื่องนโยบายรับจำนำข้าว ที่มันได้นำมาซึ่งปัญหาวายป่วงมากมาย โดยเฉพาะเรื่องใกล้ตัวเขา คือข้าวเน่า ข้าวมีสารพิษ แต่กระนั้นก็ดูเหมือนไม่มีทางเลือกอื่นใด เพราะหันไปทางไหนก็มีแต่ข้าวในโครงการของรัฐบาลแทบทั้งนั้น เขาต้องซื้อข้าวสารกิน และไม่มีโอกาสจะได้รู้เลยว่า ข้าวสารยี่ห้อไหน ถุงไหนอันตราย จนกว่าจะเห็นมันเน่า ราขึ้นขึ้นไปแล้ว
พวกเขาจึงชื่นชมคุณสุทธิพงษ์ ที่เสี่ยงเจ็บตัวออกมาบอกว่าข้าวยี่ห้อไหนบ้างที่ไม่ควรกิน
แต่ความปรารถนาดีนี้ แทนที่รัฐบาลนี้จะสนับสนุน...ที่ภาคประชาชนให้ข่าวสารข้อมูลกันเอง ห่วงใยกันเอง เป็นหูเป็นตาแทนกันเอง ฯลฯ โดยรัฐบาลไม่ต้องเปลืองเวลาและเสียงบประมาณสำหรับการประชาสัมพันธ์ แต่รัฐบาลนี้กลับโกรธจนถึงขนาดต้องฟ้องร้อง...และดูท่าว่าจะให้มากข้อหาที่สุด เท่าที่จะพลิกหาในกฎหมายได้!
ลองนึกเปรียบเทียบเรื่องนี้กับเรื่องที่ผมเขียนไปเมื่อวาน...ที่ตั้งคำถามว่า "ถ้ามีคนทำป้ายเตือนคนขับรถว่าถนนข้างหน้าอันตราย เพราะถนนพัง แต่กลับถูกเจ้าพนักงานของรัฐ (รัฐบาล) ฟ้องร้อง..." ด้วยข้อหาสารพัดเท่าที่จะค้นขึ้นมาได้...ว่าเหมือนกันไหม?
พวกเขาปิดปากเราแม้กระทั่งสิทธิที่เราจะปกป้องดูแลกันเอง ทั้งที่เป็นเรื่องอันตรายของประชาชน ผมจึงไม่สงสัยเลยว่ายังมีเรื่องอื่นๆอีกมากที่ถูกปกปิดและปิดกั้น...ทั้งที่พวกเขาประกาศตัวอยู่ทุกวันว่าเป็นรัฐบาลของประชาชน ห่วงใยประชาชน และเป็นรัฐบาลประชาธิปไตย!
หากครั้งนี้พวกเขากำราบคุณสุทธิพงษ์ได้ ผมก็เชื่อว่า พวกเขาจะย่ามใจยิ้งขึ้น และคนที่ห่วงใยคนธรรมดาด้วยกันและบ้านเมืองก็จะ "ฝ่อ" กันไปมากขึ้น
วันนี้ไม่ว่าคุณสุทธิพงษ์จะประนีประนอม หรือจะทำอย่างไรต่อไป ผมก็ยังชื่นชมและนับถือเขาอยู่อย่างเดิม ทั้งในฐานะผู้ทำงานสื่อ และในฐานะประชาชนคนหนึ่งที่ห่วงใยเพื่อนร่วมชะตากรรมเดียวกัน และได้ออกมาให้ข้อมูลจนถูกรัฐบาลและนายทุนรุมกระทืบ
ประการสำคัญ คุณสุทธิพงษ์ ได้ช่วยถลกเสื้อคลุมของนักการเมืองประชาธิปไตยที่ปากพล่ามว่าห่วงใประชาชน รวมทั้งนายทุนผู้มีเงินเป็นหมายสูงสุดของชีวิตได้ล้อนจ้อนอีกครั้งหนึ่ง
และทำให้เราได้ตั้งคำถามว่า...แท้จริงแล้วเรากำลังอยู่ในระบบการปกครองแบบใดกันแน่?
เราจะทำอย่างไรกันต่อไป..ในเมื่อวันนี้ รัฐบาล(ซึ่งก็เป็นนายทุน) และนายทุน ต่างก็บีบคั้นและปิดปากคนธรรมดาสามัญอย่างเรามากขึ้นทุกวัน?
ขอบคุณท่านเจ้าของภาพครับ.
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี