ม็อบสวนยางปะทะเดือด

ตร.สั่งทุบ!

อ้างพวก"หน้ากากขาว"

2ฝ่ายบาดเจ็บนับร้อย

รถผู้ว่าฯเมืองคอนพัง

รองผู้การฯเลือดอาบ

ชาวบ้านจวกรัฐบาล

ไม่แก้ปัญหาราคาต่ำ

กลุ่มผู้ชุมนุมชาวสวนยางพาราและปาล์มน้ำมันจังหวัดนครศรีธรรมราช รวมทั้งพื้นที่ใกล้เคียง กว่าพันคน ได้รวมตัวที่บริเวณสี่แยกควนหนองหงส์ ถนนสายเอเชีย หมายเลข 41 อ.ชะอวด จ.นครศรีธรรมราช เมื่อเที่ยงวันที่   23 สิงหาคม เพื่อทวงถามรัฐบาลหลังจากที่ได้ยื่นข้อเรียกร้องให้แก้ไขปัญหาราคายางพาราและปาล์มน้ำมันตกต่ำไปเมื่อวันที่ 4 สิงหาคม 2556 ที่ผ่านมา

โดยกลุ่มผู้ชุมนุมได้เริ่มด้วยการ ปิดถนนสายเอเชียด้านขาขึ้น ด้วยการกางเต็นท์บนถนน และนำรถบรรทุกมาปิดขวางทางจราจรพร้อมกล่าวปราศรัย ทำให้รถทุกชนิดไม่สามารถผ่านไปได้ ในขณะที่ทางแขวงการทางนครศรีธรรมราชที่ 22 ทุ่งสง ได้แนะนำให้ผู้ใช้รถใช้ถนนใช้เส้นทางสำรองแทน

ขณะที่พล.ต.ต.รณพงษ์ ทราบแก้ว ผบก.ภ.จว.นครศรีธรรมราชพร้อมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจกองร้อยปราบจลาจลจำนวน 1 กองร้อย เข้าไปทำการตรึงกำลังในพื้นที่ โดยมีโล่กำบัง และไม้กระบองเป็นอาวุธ พร้อมกับพยายามที่จะทำการเจรจากับแกนนำ แต่ดูเหมือนว่ากลุ่มผู้ชุมนุมจะไม่ยอมที่จะร่วมเจรจาแต่อย่างใด

ต่อมานายวิโรจน์ จิวะรังสรรค์ ผวจ.นครศรีธรรมราช เดินทางมาถึงและจะเข้าทำการพูดคุยและเจรจากับกลุ่มผู้ชุมนุม กลับถูกกลุ่มวัยรุ่นตะโกนด่าไล่และจะเข้ากระชากคอเสื้อ แต่เจ้าหน้าที่ได้กันตัว ผู้ว่าฯออกมาจากกลุ่มผู้ชุมนุมได้อย่างปลอดภัย แต่ทำให้รถประจำตำแหน่งผู้ว่าฯ ได้เกิดความเสียหาย

เวลา15.30น. ผวจ.นครศรีธรรมราช สั่งการให้ตำรวจชุดปราบจลาจลที่มีทั้งกระบอง และโล่ที่เดินทางมาสมทบราว 1,200 นาย ทำการสลายการชุมนุมเพื่อเปิดการจราจรให้ได้  แต่กลุ่มผู้ชุมนุมขัดขืนไม่ยอมล่าถอย แถมยังมีท่าทีแข็งกร้าวขึ้น พร้อมใช้ก้อนอิฐหินและขวดน้ำขว้างปาตอบโต้เจ้าหน้าที่ที่เข้าประชิดตัว  จนเกิดเหตุชุลมุนวุ่นวายกันขึ้นหลายครั้ง  ถึงขั้นตะลุมบอนกันเดือดนานหลายสิบนาที 

จากผลการปะทะดังกล่าว ทำให้ทั้ง 2 ฝ่ายบาดเจ็บเลือดตกยางออกจำนวนมาก  แต่ไม่มีใครอาการสาหัส  ทำให้เจ้าหน้าที่ต้องล่าถอย ขณะที่กลุ่มผู้ชุมนุมโดยเฉพาะที่เป็นวัยรุ่นสามารถยึดถนนได้ทั้งสองฝั่งโดยใช้ยางรถยนต์ขวางทำให้รถทุกชนิดไม่สามารถผ่านไปมาได้

เมื่อตรวจสอบพบตำรวจชุดปราบจราจลได้รับบาดเจ็บ 43 นาย หลังปฐมพยาบาลเบื้องต้นแล้ว ถูกส่งตัวไปรักษาต่อที่  รพ.ชะอวด นอกจากนี้พบว่าวิทยุสื่อสารของเจ้าหน้าที่  2 เครื่อง หายไป  ส่วนผู้ชุมนุมหลายสิบคนก็มีสภาพสะบักสะบอมไม่แพ้กัน  และถูกควบคุมตัวไปสอบสวนประมาณ30คน

ต่อมาเวลา 16.30 น.กลุ่มผู้ชุมนุมยังคงปิดถนนทั้งสองฝั่ง ในขณะที่เจ้าหน้าที่ยังคงควบคุมสถานการณ์อยู่ใกล้ ๆ   โดยทาง ผวจ.นครศรีธรรมราช และผบก.ภ.จว.นครศรีธรรมราช  ยังพยายามเจรจาผ่านเครื่องขยายเสียงอยู่ห่าง ๆขอให้ผู้ชุมนุมเปิดการจราจร และให้ส่งตัวแทนมาเจรจายื่นข้อเสนอไปยังรัฐบาลเพื่อแก้ไขปัญหา เพราะการปิดถนนเป็นการกระทำผิดกฎหมาย  สร้างความเดือดร้อนแก่ผู้อื่น จำเป็นต้องเปิดการจราจรเพราะการปิดถนนไม่สามารถทำให้ราคายางพาราสูงขึ้น อีกทั้งยังทำให้เศรษฐกิจของจังหวัดได้รับความเสียหายด้วย

กระนั้นก็ตามกลุ่มผู้ชุมนุมไม่ยอมเจรจา และปราศรัยโต้กลับไป ทั้งยังเสริมกำลังชาวสวนยางมาจากหลายจังหวัดท่ามกลางกระแสข่าวว่าตำรวจต้องสลายการชุมนุมให้ได้

ผู้สื่อข่าวรายงานว่าช่วงระหว่างการชุมนุม พ.ต.อ.ธงชัย ถาวระ รองผบก.ภ.จว.นครศรีธรรมราชได้ทำหนังสือด่วนที่สุดไปถึง ผอ.สถานีวิทยุกระจายเสียง อสมท.ประกาศให้ผู้ใช้รถใช้ถนนหลีกเลี่ยงจากจุดชุมนุมโดยอ้างในหนังสือดังกล่าวว่าเป็นการชุมนุมประท้วงของกลุ่มหน้ากากขาว และกลุ่มประชาชนต่อต้านรัฐบาล

ขณะเดียวกันในระหว่างการพิจารณาร่างพรบ.ประมาณรายจ่ายประจำปี 2557นายวิทยา แก้วภราดัย ส.ส.นครศรีธรรมราชพรรคประชาธิปัตย์ได้อภิปรายในเรื่องที่เกิดขึ้นถึง2 หน  ว่า เกษตรกรชาวสวนยาง สวนปาล์ม ได้รับความเดือดร้อนจากผลผลิตตกต่ำ จึงมาเรียกร้องให้รัฐบาลช่วยเหลือ แต่ตำรวจใช้ความรุนแรง มีการนำกำลังมาซุ่มไว้ 7 กองร้อยตั้งแต่ยังไม่มีการชุมนุม ขอเรียกร้องให้ นายกรัฐมนตรี สั่งการให้ ผวจ.นครศรีธรรมราช และผู้การตำรวจจังหวัด ให้ถอยกำลังตำรวจออกไปด่วน เพราะตำรวจถึงจะระดมมาจากบริเวณข้างเคียงก็มีแค่ไม่เกิน 3 พันคน แต่เกษตรกรกำลังทะยอยมานับหมื่น เกรงว่าจะเกิดโศกอนาถกรรม กับลูกหลานชาวสวนยาง

ในขณะที่นายวราเทพ รัตนกร รมต.ประจำสำนักนายกฯและรมช.เกษตรที่ดูแลปัญหายางพารา ชี้แจงว่าไม่มีการสลายการชุมนุม แต่พอนายวิทยา ยืนยันด้วยหลักฐานภาพถ่ายที่ตำรวจส่งมาให้  ทางนายวราเทพ จึงขอหารือด่วนกับนายวิทยา หลังห้องประธานสภา เพื่อหาทางยุติการนองเดือดในหนนี้

กระนั้นก็ตามเวลา 19.00น. ทางฝ่ายตำรวจและเกษตรกรชาวสวนยาง-สวนปาล์ม ยังเผชิญหน้าอย่างเคร่งเครียด และชาวสวนยางได้ทะยอยมาชุมนุมมากกว่าเดิม ทั้งขนล้อยางรถยนต์มาสร้างเป็นบังเกอร์ เปิดโรงครัวชั่วคราว ขณะที่ตำรวจได้ขอเสริมกำลังจากกระบี่ และสุราษฎรธานีมาเพิ่มด้วย แต่สุดท้ายเกษตรกรได้ยึดพื้นที่ไว้หมด จนตำรวจต้องถอยร่นไปชั่วคราว

ล่าสุดเวลา19.30น.ยังไม่มีคำสั่งหรือแผนการใด ๆจากฝ่ายตำรวจในการแก้ไขปัญหาผู้ชุมนุม เนื่องจากตำรวจยังไม่รู้ว่าใครเป็นหัวหน้าการชุมนุมหนนี้ อีกทั้งบรรยากาศมืดแล้วกลัวว่าจะมีเหตุการอื่นมาแทรกซ้อน ขณะเดียวกันมีตำรวจระดับ รองผู้บังคับการนายหนึ่งได้รับบาดเจ็บโดนก้อนหินขนาดกำปั้นปาโดนเข้าที่หัวถึงกับเลือดอาบ ต้องหามส่งโรงพยาบาลจึงต้องชะลอการปะทะกับผู้ชุมนุมออกไปก่อน