ขู่สาดน้ำกรดปลัดพณ. ฉุนคำพูด! ‘ของแพงคิดกันไปเอง’

ขู่สาดน้ำกรดปลัดพณ. ฉุนคำพูด! ‘ของแพงคิดกันไปเอง’

วันศุกร์ ที่ 6 กันยายน พ.ศ. 2556, 06.00 น.
Tag :

ขู่สาดน้ำกรดปลัดพณ.

ฉุนคำพูด!

‘ของแพงคิดกันไปเอง’

คนไทยจ่อกระอักซ้ำ

ปีใหม่‘ค่าไฟ’ขึ้นอีก

ยรรยงชี้กลไกตลาด

ดันสินค้าขยับราคา

เมื่อวันที่ 5 กันยายน นายดิเรก ลาวัณย์ศิริ ประธานคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (เรกูเลเตอร์) เปิดเผยว่า เรกูเลเตอร์เห็นชอบขึ้นค่าเอฟทีรอบบิลเดือนกันยายน-ธันวาคม2556 เท่ากับ 54สตางค์ต่อหน่วย(ไม่รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม) โดยเพิ่มขึ้น 7.04สตางค์ต่อหน่วย (ค่าเอฟทีงวดที่แล้วเก็บที่ 46.92สตางค์ต่อหน่วย) จากคำนวณเอฟทีงวดนี้ต้องปรับขึ้น 14.18สตางค์ต่อหน่วย แต่เพื่อลดภาระให้ประชาชนจึงนำเงินชดเชยจากการเดินเครื่องโรงไฟฟ้าขนอมและเงินค่าปรับโรงไฟฟ้าเอกชนจำนวน 2,247.32ล้านบาท คิดเป็น 4.19 สตางค์ต่อหน่วย รวมทั้งให้การไฟฟ้าฝ่ายผลิต หรือกฟผ.ช่วยรับภาระอีก 1,566ล้านบาท (2.91สตางค์ต่อหน่วย)รวมเป็น 7.10สตางค์ต่อหน่วย

สำหรับแนวโน้มค่าไฟฟ้าผันแปรอัตโนมัติ หรือค่าเอฟที งวดเดือนมกราคม-เมษายน2557 ยอมรับว่ามีโอกาสปรับเพิ่มขึ้นอีก เนื่องจากเอฟทีงวดกันยายน-ธันวาคม2556 ยังมีภาระให้ กฟผ.รับภาระอยู่ 2.91สตางค์ต่อหน่วย ซึ่งปัจจัยหลักที่ต้องติดตามคือ ค่าเงินบาทและราคาน้ำมันตลาดโลก ที่จะสะท้อนไปยังราคาก๊าซธรรมชาติที่เป็นเชื้อเพลิงหลักในการผลิตไฟฟ้า หากค่าเงินบาทอ่อนและราคาน้ำมันปรับขึ้นช่วงสิ้นปีก็คงยากที่ค่าไฟจะไม่ปรับขึ้นเพราะค่าเงินบาทหากอ่อนค่า 1บาทต่อเหรียญสหรัฐ จะมีผลค่าไฟขึ้นถึง 6สตางค์ต่อหน่วย แต่หากแข็งค่า 1บาทก็จะลดลงทันทีเช่นกัน คงต้องลุ้นค่าเงินบาทเป็นหลัก เพราะหากดูจากน้ำมันแล้วยอมรับว่า ช่วงสิ้นปี2556 จะขาขึ้น”นายดิเรก กล่าว


วันเดียวกัน ที่รัฐสภา มีการประชุมสภาผู้แทนราษฎร สมัยสามัญทั่วไป ที่มี นายวิสุทธิ์ ไชยณรุณ รองประธานสภาผู้แทนราฎรคนที่2 ทำหน้าที่ประธานการประชุม โดยที่ประชุมพิจารณากระทู้ถามสดของ นายชนินทร์ รุ่งแสง ส.ส.กทม. พรรคประชาธิปัตย์ ที่ถามนายกรัฐมนตรี เรื่องปัญหาเศรษฐกิจและค่าครองชีพสูง โดย นายชนินทร์ กล่าวว่า ขณะนี้ประชาชนรายได้ลดลง หนี้สินเพิ่มขึ้น อีกทั้งมีเสียงสะท้อนผลสำรวจคนกรุงเทพฯกังวลว่า ราคาสินค้าจะสูงขึ้น เนื่องจากการประกาศขึ้นราคาก๊าซหุงต้ม ค่าทางด่วนและข้าวของแพงส่งผลต่อความเป็นอยู่ รัฐบาลไม่สามารถแก้ปัญหาของแพงได้ จึงเรียกร้องให้รีบแก้ไข แต่หัวหน้ารัฐบาลหายไปไหน รวมทั้งเรื่องหนี้สาธารณะตั้งแต่ปี2554ถึงปัจจุบันเพิ่มขึ้นกว่าล้านล้านบาท เกิดจากนโยบายรัฐบาลล้วนๆ เป็นหนี้ 5.224ล้านล้านบาท ไม่รวมหนี้ที่จะกู้อีก 2ล้านล้านบาท

จากนั้น นายยรรยง พวงราช รมช.พาณิชย์ ชี้แจงแทนนายกฯว่า รัฐบาลให้กระทรวงพาณิชย์ (พณ.) ดูแลค่าครองชีพโดยภาพรวมเศรษฐกิจตอนนี้คิดนักวิชาการบอกว่า ภาวะเงินฝืด เพราะดัชนีราคาผู้บริโภคเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา ค่อนข้างจะต่ำ สะท้อนกับรายได้ประชาชน ส่วนที่จะทำให้ไม่เป็นภาวะแรงกดดันมาก เมื่อเงินเฟ้อต่ำผู้ประกอบการไม่กล้าขึ้นราคาสินค้า สินค้าอุปโภคบริโภคไม่ขึ้น ยกเว้นสินค้าพิเศษ เช่น ไข่ไก่ ที่มีผู้อภิปรายสัปดาห์ก่อนบอกฟองละ 5บาท ยืนยันว่า วัตถุดิบอาหารทั้งไข่ไก่ เนื้อหมู ไม่ผิดปกติ ไข่ไก่เบอร์4 อยูที่ฟองละ3.70บาท หมูเนื้อแดงกก.ละ135-140บาท ถ้าเป็นเนื้อหมูตัดแต่งอยู่กก.ละ140-145บาท เป็นกลไกปกติของตลาด ซึ่งนายกฯกำชับให้ดูแลส่วนที่ประชาชนต้องพึ่งตลาดมาก เช่น อาหารสำเร็จรูป กระทรวงพาณิชย์ดูแลให้อาหารจานเดียวไม่ขึ้นราคา พร้อมกำชับผู้ประกอบการทุกระดับ เช่น หมวดอาหารทั่วไป ร้านอาหารทั่วไป หรือตลาดสด พยายามให้อยู่ชุดละ25-30บาท ส่วนฟู้ดคอร์ทอยู่ที่ 35-40บาท ส่วนเรื่องหนี้พุ่งเป็นภาพรวมทั่วไป ขณะนี้ถ้าดูคนที่อยู่ในภาคเกษตกร แม้รายได้จะไม่เพิ่มขึ้นมาก แต่จากการสำรวจของธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร(ธ.ก.ส.) ประชาชนมีเงินออมเหลืออยู่ในบัญชีมากขึ้น

ด้าน นายพงษ์ศักดิ์ รักตพงศ์ไพศาล รมว.พลังงาน ชี้แจงว่า เรื่องค่าไฟขึ้นราคานั้นรัฐบาลได้ดูเมื่อ 6 เดือนที่แล้วค่าเงินบาทแข็งได้ลดค่าไฟไป6สตางค์ ต้องคำนวณว่าค่าไฟผันแปรต่อค่าพลังงานที่ใช้ช่วงขึ้นและลดต้องสมดุลกัน ส่วนเรื่องก๊าซแอลพีจีกับราคาน้ำมันที่เคยหาเสียงจะลงราคาลงนั้น วิธีการจะต้องทำให้ราคาพลังงานเป็นไปตามมาตรฐาน ทำให้ต้องเก็บเงินค่าน้ำมันใส่กองทุนน้ำมันฯมาอุดหนุนแอลพีจีทำให้กองทุนน้ำมันฯขาดทุน การขึ้นแอลพีจีจึงเป็นไปตามกลไกตลาด

น.ส.วิบูลย์ลักษณ์ ร่วมรักษ์ อธิบดีกรมการค้าภายใน เปิดเผยว่า ช่วงเช้าวันที่ 5กันยายน เว็บไซต์ของกรมการค้าภายใน www.dit.go.th ถูกกลุ่มชื่อDZ ซึ่งเบื้องต้นทราบว่า เป็นกลุ่มแฮกเกอร์ต่างประเทศ เข้าแฮกเว็บไซต์ โดยโพสต์ภาพเพนกวินดำ ทำให้ระบบเซิฟเวอร์ล่มไปชั่วขณะ จากการตรวจสอบข้อเท็จจริงจากเจ้าหน้าที่ฝ่ายเทคนิคพบว่า เป็นการเข้าแฮกเพียงหน้าแรกของเว็บไซต์ ทำให้ไม่สามารถเข้าเว็บโซต์ของกรมฯได้ชั่วขณะ ซึ่งเจ้าหน้าที่ฝ่ายเทคนิคสามารถแก้ไขได้ในทันที อย่างไรก็ตาม ได้ให้เจ้าหน้าที่ตรวจสอบเชิงลึกถึงวัตถุประสงค์ที่แท้จริงของการเข้าแฮกข้อมูล พร้อมทั้งประสานกับกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (ไอซีที) เพื่อตรวจสอบอีกทางหนึ่งด้วย แต่ยันยันว่า การเข้าแฮกข้อมูลเว็บไซต์ของกรมฯ ในครั้งนี้ ไม่ได้มีการเข้าไปบิดบือนตัวเลข หรือข้อมูลของกรมการค้าภายในแต่อย่างใด

อย่างไรก็ตาม ก่อนหน้านี้ นางวัชรี วิมุกตายน ปลัดกระทรวงพาณิชย์ ได้ถูกผู้ไม่หวังดีโทรศัพท์ขู่ดักสาดน้ำกรดและทำร้ายร่างกาย คาดว่าเป็นผลจากการแถลงข่าวตัวเลขดัชนีเงินเฟ้อของกระทรวงพาณิชย์ เมื่อวันจันทร์ที่ 3กันยายนที่ผ่านมา ทำให้ประชาชนไม่พอใจกับการตอบคำถามของปลัดกระทรวงพาณิชย์ โดยเฉพาะเรื่องของแพงว่า เป็นการคิดไปเอง

 

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

Back to Top