ม็อบจับมือบุกทำเนียบ

แนวร่วมเพียบทั้งนศ.-ประชาชน

นัดหยุดงานไล่รัฐบาล‘ยิ่งลักษณ์’

ไม่สนงัดพรบ.ความมั่นคงคุม

ตำรวจผวาปิดถนน14เส้นทาง

ระดมกำลังค้ำเก้าอี้‘นายกฯปู’

ที่แยกอุรุพงษ์ ตลอดทั้งวันที่ 13 ตุลาคม บรรดาผู้ชุมนุมกลุ่มเครือข่ายนักศึกษาและประชาชนปฏิรูปประเทศไทย(คปท.) ต่างทำกิจกรรมอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะบนเวทีได้มีการปราศรัยโจมตีความล้มเหลวในการบริหารประเทศของรัฐบาลยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ทั้งนี้พื้นที่การชุมนุมที่แยกอุรุพงษ์ นี้มีการป้องกันอย่างหนาแน่น ขณะที่การรักษาความปลอดภัยเข้มงวดมีตำรวจตั้งด่าน 6 จุดรอบพื้นที่เพื่อป้องกันมือที่ 3 เข้ามาก่อเหตุซ้ำ

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จารุณี สุขสวัสดิ์ ดาราสาว ดาวค้างฟ้า เจ้าของฉายา ราชินีจอเงิน เข้าร่วมชุมนุมกับ คปท. ที่บริเวณแยกอุรุพงษ์ เขตราชเทวีเมื่อคืนวันที่ 12 ต.ค.56 สร้างความฮือฮาให้กับผู้ชุมนุมในบริเวณดังกล่าวเป็นอย่างมาก พร้อมกับยกย่อง ดาราผู้มากด้วยความสามารถที่มาชุมนุมในหนนี้

“ที่มาชุมนุมคือ ได้ติดตามข่าวสารบ้านเมือง เพราะเป็นเรื่องใกล้ตัวแต่ในความเป็นนักแสดงทุกคนกลัวหมด กลัวไม่มีงานกลัวกระแสต่างๆ แต่เรามองว่าเป็นสิทธิพื้นฐานในฐานะประชาชนเหมือนกับการเลือกตั้ง เพราะตอนนี้มีคำถามบางคำถามที่ผู้เกี่ยวข้องตอบไม่ได้ ทำไมเราเคยซื้อข้าวจานละ 25-30 บาท แต่มาตอนนี้จานละ 50 บาท”นางเอกดาวค้างฟ้าอธิบาย

จี้แม้วหยุดแทรกแซงรัฐบาล

ต่อมานายอุทัย ยอดมณี แกนนำ คปท. ได้ออกแถลงการณ์ฉบับที่สอง โดยมีเนื้อหาว่า รัฐบาลได้มีการกดดันไม่ให้ประชาชนเข้าร่วมชุมนุมกับ คปท. ที่แยกอุรุพงษ์ ซึ่งทำให้ประชาชนที่จะเข้าร่วมชุมนุมเกิดความยากลำบาก

ทั้งนี้ ทางกลุ่ม คปท.ขอเรียกร้องรัฐ 3 ข้อ คือ 1. รัฐบาลต้องหยุดติดต่อกับ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีเพราะเป็นนักโทษหนีอาญาแผ่นดิน ตลอดจนไม่ให้เข้ามาแทรกแซงการทำงานของรัฐสภาไม่ว่าจะเป็นเรื่องใดก็ตาม2.รัฐบาลต้องตรวจสอบคำวินิจฉัยของอัยการสูงสุดที่สั่งไม่ฟ้องดำเนินคดีกับ พ.ต.ท. ทักษิณ ในคดีก่อการร้าย ปี 2553 เพราะทางกลุ่มเห็นว่า พ.ต.ท.ทักษิณ แม้จะอยู่ต่างประเทศ แต่ได้มีการส่วนร่วมกระทำผิดในประเทศไทย เรื่องนี้ทางกลุ่ม คปท. จะติดตามอย่างต่อเนื่อง 3.รัฐบาลจะต้องไม่ให้แกนนำกลุ่มคนเสื้อแดงทุกคน ดำรงตำแหน่งใดทางการเมือง หรือรัฐวิสาหกิจ

นายอุทัยกล่าวต่อว่า ทางเครือข่ายขอเรียกร้องประชาชนที่รักความยุติธรรมและต้องการโค่นล้มระบอบทักษิณให้เดินทางมาร่วมชุมนุม คปท. แม้จะถูกสกัดทุกวิธีจากรัฐบาล สำหรับการวางยุทธศาสตร์ในการชุมนุมนั้น มีการพูดคุยกันอยากให้มีการยุทธศาสตร์ดาวกระจายไปยังสถานที่ต่างๆ แต่เบื้องต้นต้องปักหลักชุมนุมรวบรวม นักศึกษา ประชาชนให้ได้มากที่สุด ส่วนกรณีที่ทางรัฐบาลพยายามจะควบคุมการชุมนุมของกลุ่ม คปท.นั้น ทราบมาว่าทางพล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว ผบ.ตร. ได้ติดต่อมาขอเจรจา แต่ทางกลุ่ม คปท.ยืนยันจะไม่เคลื่อนย้ายไหนอีกแล้ว

ตำรวจเชื่อม็อบบุกทำเนียบแน่

วันเดียวกันพล.ต.ต.อดุลย์ ณรงค์ศักดิ์รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล แถลงข่าวถึงการเตรียมความพร้อมในการรักษาความสงบเรียบร้อยของกลุ่มผู้ชุมนุมว่า สืบเนื่องจากมีการชุมนุมทางการเมืองของกลุ่มเครือข่ายนักศึกษาประชาชนปฏิรูปประเทศไทย (คปท.) ที่บริเวณแยกอุรุพงษ์ และกลุ่มกองทัพประชาชนโค่นระบอบทักษิณ (กปท.) ที่บริเวณสวนลุมพินี และจากแนวทางสืบสวนทางการข่าวระบุว่า ทางกลุ่มผู้ชุมนุมดังกล่าวจะเดินทางเข้ามาที่ทำเนียบรัฐบาล ซึ่งเป็นพื้นที่หวงห้ามประกาศตามพ.ร.บ.การรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร พ.ศ. 2551

ผวา!สั่งปิดทางเข้าทันที14สาย

ทั้งนี้ เพื่อประโยชน์ในการป้องกันปราบปรามระงับยับยั้งและแก้ไขหรือบรรเทาเหตุการณ์ ประกอบกับศูนย์อำนวยการ
รักษาความสงบเรียบร้อย ได้มีประกาศฉบับที่2 /2556 เรื่อง ห้ามการใช้เส้นทางคมนาคมหรือการใช้ยานพาหนะ ดังนั้นกองบัญชาการตำรวจนครบาล จึงมีความจำเป็นที่จะห้ามใช้เส้นทางคมนาคม 14 เส้นทาง ดังนี้ 1.ถนนราชสีมา ตั้งแต่แยกสวนรื่นฤดี ถึงแยกประชาเกษม

2.ถนนพิษณุโลก ตั้งแต่แยกวังแดง ถึงแยกยมราช 3.ถนนอู่ทองใน ตั้งแต่แยกอู่ทองในถึงลานพระราชวังดุสิต ด้านหลังพระบรมรูปทรงม้า 4.ถนนลิขิต 5.ถนนพระราม 5 ตั้งแต่ สะพานอรทัย ถึงแยกสุโขทัย 6.ถนนสุโขทัย ตั้งแต่ แยกสวนรื่นฤดีถึงแยกสุโขทัย 7.ถนนราชวิถี ตั้งแต่แยกการเรือน ถึงแยกราชวิถี 8.ถนนราชดำเนินนอก ตั้งแต่แยกพระบรมรูป ถึงแยก จปร. 9.ถนนลูกหลวง ตั้งแต่แยกสะพานวิศนุกรรมนฤมาน (ถนนลูกหลวงตัดถนนราชสีมา) ถึงสะพานเทวกรรม (ถนนลูกหลวงตัดถนนนครสวรรค์) 10.ถนนพิชัย ตั้งแต่ แยกขัตติยานี ถึงถนนราชวิถี 11.ถนนนครสวรรค์ ตั้งแต่แยกพิษณุโลก ถึงสะพานเทวกรรม 12.ถนนศรีอยุธยา ตั้งแต่แยกวัดเบญจมบพิตร ถึงแยกกองพล 1 13.ถนนนครปฐม และ14.ถนนกรุงเกษม ตั้งแต่แยกประชาเกษม ถึงเทวกรรม

ระดมตั้งด่านตรวจค้นคุมเข้ม

“เส้นทางทั้งหมดจะดำเนินการปิดตั้งแต่เวลา 14.00 น. ของวันที่ 13ตุลาคมเป็นต้นไป พร้อมตั้งจุดตรวจเข้มงวดห้ามรถยนต์หรือบุคคลใดผ่านเว้นแต่จะได้รับอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่ อาทิ ประชาชนที่มีบ้านพักอยู่ในเส้นทาง หรือข้าราชการหากจะเข้าสถานที่ราชการสำคัญก็จะต้องแสดงบัตรให้ชัดเจน ส่วนกลุ่มผู้ชุมนุมนั้นจะห้ามไม่ให้ผ่านเส้นทางดังกล่าวอย่างเด็ดขาด โดยทางเจ้าหน้าที่จะกั้นแผงเหล็กและใช้กำลังเจ้าหน้าที่ยืนควบคุมแต่ละจุดอย่างเข้มงวด”พล.ต.ต.อดุลย์กล่าว

กังวลม็อบตจว.แห่สมทบด้วย

รองผบช.น. กล่าวอีกว่า สำหรับสถานการณ์ในการชุมนุมนั้น โดยกลุ่ม กปท. ที่ปักหลักชุมนุมอยู่ที่สวนลุมพินี มียอดผู้ชุมนุมประมาณ 100 คน ส่วนกลุ่ม คปท. ที่ชุมนุมอยู่บริเวณแยกอุรุพงษ์ มียอดผู้ชุมนุมประมาณ 300 คน ส่วนในตอนกลางคืนจะมีกลุ่มผู้ชุมนุมเข้ามาเสริมซึ่งมียอดเพิ่มขึ้นถึงประมาณ 1,500 คน

นอกจากนี้การข่าวสืบทราบว่าจะมีกลุ่มผู้ชุมนุมเดินทางมาจากต่างจังหวัดหลายจังหวัดจะเดินทางเข้ามาร่วมชุมนุมด้วย และกลุ่มผู้ชุมนุมทั้งหมดจะเดินทางเข้ามาในพื้นที่ทำเนียบรัฐบาล ซึ่งเป็นพื้นที่หวงห้าม หากปล่อยปละละเลยเกรงว่าจะเป็นปัญหาจึงได้สั่งปิดถนนทั้ง 14 เส้นทางดังกล่าว

ทั้งนี้หากกลุ่มผู้ชุมนุมมีการเคลื่อนพลเข้ามาในพื้นที่ทำเนียบรัฐบาลจริง ทางเจ้าหน้าที่ก็จะเข้าทำการเจรจาทันที โดยจะใช้การเจรจาในทางลับ เพราะจะสามารถพูดคุยในรายละเอียดเชิงลึกได้ ส่วนกรณีคนร้ายปาระเบิดเพลิงเข้ามาในกลุ่มผู้ชุมนุมที่บริเวณแยกอุรุพงษ์ เมื่อกลางดึกของวันที่ 11 ต.ค. ที่ผ่านมานั้น ทางเจ้าหน้าที่กำลังอยู่ระหว่างสืบสวนสอบสวนและเร่งติดตามจับกุมคนร้ายต่อไป

สวนลุมพินีนัดบุกทำเนียบฯ

วันเดียวกัน นายไทกร พลสุวรรณ แกนนำกลุ่มกองทัพประชาชนโค่นระบอบทักษิณ (กปท.) ซึ่งชุมนุมที่สวนลุมพินี กล่าวว่า กลุ่ม กปท.จะไม่สลายการชุมนุมที่สวนลุมพินีเพื่อไปรวมกับกลุ่มเครือข่ายนักศึกษาและประชาชนปฏิรูปประเทศไทย (คปท.) ที่ชุมนุมอยู่แยกอุรุพงษ์ โดยยืนยันว่าแกนนำไม่ได้ขัดแย้งกันแต่อย่างใดเพียงแต่ต้องการทำตามแนวทางหรืออุดมการณ์ของแต่ละกลุ่มเท่านั้น

“ทั้งสองกลุ่มมีจุดมุ่งหมายเดียวกันคือ ต่อต้านร่างแก้ไขพ.ร.บ.นิรโทษกรรมและโค่นล้มระบอบทักษิณ ซึ่งขณะนี้กปท.กำลังประสานกับเครือข่ายต่างจังหวัด ก่อนกำหนดวันเดินทางเข้าไปปักหลักที่ข้างทำเนียบรัฐบาลอีกครั้ง โดยจะใช้สันติวิธีและไม่ใช้ความรุนแรงแต่อย่างใด”นายไทกรกล่าว

ทั้งนี้ในวันที่ 14 ต.ค.กลุ่มกปท.จะประกาศระดมพลครั้งใหญ่ นัดหยุดงานทั่วประเทศเพื่อชุมนุม โค่นระบอบทักษิณ โดยจะมีการระบุเวลาและสถานที่นัดหมายที่ชัดเจนอีกครั้ง จึงประกาศไว้ให้ประชาชนได้เตรียมพร้อมไว้ก่อน และให้สอดคล้องกับวันครบรอบ 40 ปี 14 ตุลา 2516 ด้วย เพราะถึงเวลาแล้วที่มวลชนจะลุกขึ้นมาจะต้องแก้ปัญหาของประเทศ

นายไทกร พลสุวรรณ ยังกล่าวถึงการเคลื่อนไหวของกลุ่ม ภายหลังกองบัญชาการตำรวจนครบาล สั่งปิดถนน 14 สาย ว่า สำหรับการเคลื่อนไหว กปท. ที่จะดำเนินการต่อไปนั้น ตอนนี้ยังไม่สามารถเปิดเผยได้ ทั้งนี้ ตนไม่เข้าใจเจ้าหน้าที่ตำรวจใช้ พ.ร.บ.ความมั่นคงฯ มาลิดรอนสิทธิประชาชนทำไม เพราะการชุมนุมของประชาชนเป็นสิทธิ์ที่สามารถกระทำได้ตามรัฐธรรมนูญ จึงเห็นควรว่าน่าจะดำเนินคดีกับผู้ใช้กฎหมายความมั่นคงนี้

ม็อบคปท.คึก-หลายกลุ่มหนุน

เวลา 17.45 น. ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศการชุมนุมของเครือข่ายนักศึกษาและประชาชนปฏิรูปประเทศไทย หรือ คปท.ที่บริเวณแยกอุรุพงษ์ ถนนพระราม 6 ขาเข้า ว่า บรรยากาศเป็นไปอย่างคึกคัก เนื่องจากมีกลุ่มวี ฟอร์ ไทยแลนด์ หรือ กลุ่มหน้ากากขาว 200 คน เดินทางจากหอศิลปวัฒนธรรม เพื่อมาเข้าร่วมชุมนุมด้วย

นอกจากนี้ ยังมีนักเรียนจากสถาบันการศึกษา ทั้งนักเรียนอาชีวะ และระดับชั้นมัธยม อาทิ วิทยาลัยสารพัดช่างสี่พระยา กลุ่มศิษย์เก่าและศิษย์ปัจจุบัน เทคโนโลยีปทุมธานี กลุ่มอาชีวะสัมพันธ์ เทคโนโลยีดุสิต รามอินทรา โดยตัวแทนของแต่ละกลุ่มได้ขึ้นเวทีปราศรัยโจมตีการทำงาน และนโยบายของรัฐบาล ภายใต้การนำของน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร และกล่าวว่าจะดูแล และรักษาความปลอดภัยให้ สร้างความฮึกเหิมให้กับกลุ่มผู้ชุมนุมเป็นอย่างมาก

ประเมินสถานการณ์วันต่อวัน

โดยนายอุทัย ยอดมณี นายกองค์การนักศึกษา ม.รามคำแหง ในฐานะผู้ประสานงานกลุ่มคปท. เปิดเผยว่า ขณะนี้รัฐบาลได้กดดันทุกรูปแบบ ซึ่งเราถูกปิดกั้น 14 เส้นทางหลัก เพื่อป้องกันไม่ให้ประชาชนจากต่างจังหวัด เข้ามาร่วมชุมนุมที่แยกอุรุพงษ์ อย่างสะดวก ตนได้แต่ขอให้เพื่อนพี่น้องและนักเรียนอาชีวะทุกคนเดินทางโดยสวัสดิภาพ

นายอุทัยยังกล่าวด้วยว่า ส่วนจะย้ายไปชุมนุมที่ทำเนียบรัฐบาลหรือไม่นั้นตอนนี้ตนยังไม่มีแผนที่จะย้ายไปที่อื่น เนื่องจากต้องการปักหลักสะสมกำลังมวลชนให้ได้มากที่สุด จากนั้น ก็จะประชุมกันเพื่อประเมินสถานการณ์วันต่อวัน สำหรับเรื่องที่จะร่วมชุมนุมกับกปท. ยืนยันว่าไม่มีปัญหาแตกแยก หรือแย่งมวลชนกัน ยังมีการติดต่อกันอยู่ แต่การเคลื่อนไหวไปชุมนุมที่ทำเนียบรัฐบาล ต้องพิจารณาให้รอบคอบ

ไฟเขียวสมาชิกร่วมม็อบไล่ปู

ด้านนายสุริยะใส กตะศิลา คณะกรรมการสภาประชาชนปฏิรูปประเทศไทย (สปท.) แถลงข่าวหลังการประชุมสมัชชาประชาชนที่ สปท.จัดขึ้นว่า ที่ประชุมเห็นว่าเครือข่ายที่เข้าร่วมกับ สปท. มีอิสระในการตัดสินใจที่จะเข้าร่วมต่อสู้เคลื่อนไหวกับกองทัพประชาชนโค่นระบอบทักษิณ (กปท.) ที่สวนลุมพินี หรือการชุมนุมของเครือข่ายนักศึกษาและประชาชนปฏิรูปประเทศไทย (คปท.) ที่สี่แยกอุรุพงษ์

ทั้งนี้ตนได้หารือกับแกนนำเครือข่าย และมีแนวคิดจะสร้างเครือข่ายขึ้นมาใหม่เพิ่มเติมจากกลุ่มที่เคลื่อนไหวอยู่ โดยจะทำหน้าที่ประสานกับทุกกลุ่มที่ต่อสู้และเผชิญหน้ากับระบอบทักษิณ ซึ่งเบื้องต้นตนได้พูดคุยกับ กปท. และ คปท. รวมถึงหลายกลุ่มที่เคลื่อนไหวอยู่ขณะนี้แล้ว คิดว่าภายใน 1-2 สัปดาห์นี้ น่าจะมีกลุ่มเคลื่อนไหวใหม่ออกมาส่วน สปท.ก็จะเน้นการเผยแพร่ความรู้แลกเปลี่ยนประสบการณ์กับเครือข่ายภาคประชาชนและภาคประชาสังคม ทั้งในระดับชาติและระดับท้องถิ่นต่อไป

‘สุภรณ์’ยันไม่ให้ยึดทำเนียบ

นายสุภรณ์ อัตถาวงศ์ รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า กลุ่มผู้ชุมนุมเหล่านี้ จะมีการระดมคนในวันที่ 13 ต.ค.ถึงเป็นสาเหตุที่รัฐบาลประกาศใช้พ.ร.บ.มั่นคงฯ ขอยืนยันจะไม่ยอมให้มีการบุกรุกทำเนียบฯอย่างเด็ดขาด ซึ่งทางศอ.รส.ได้จัดกำลังเจ้าหน้าที่คอยเฝ้าระวังทั้งภายในและบริเวณโดยรอบทำเนียบฯแล้ว รวมถึงมีการรักษาความปลอดภัยรัฐสภา เนื่องจากกำลังจะมีการพิจารณากฎหมายสำคัญหลายฉบับ โดยเช้าวันที่ 14 ต.ค.จะมีการประชุมฝ่ายความมั่นคงเพื่อประเมินสถานการณ์

นายสุภรณ์กล่าวว่า ด้านการข่าวแผนกลุ่มคนเหล่านี้มีเป้าหมายสร้างความวุ่นวายเข้ายึดทำเนียบ รัฐสภา สนามบิน เพื่อล้มรัฐบาลเหมือนในอดีต ซึ่งจะต้องป้องกันให้ถึงที่สุด เนื่องจากเป็นสถานที่ราชการที่สำคัญ ประมาทไม่ได้ นายกรัฐมนตรีก็ได้ย้ำให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้ประสานกันอยู่ตลอด ดูแลการชุมนุมให้เป็นไปอย่างสงบ ยึดการเจรจาเป็นหลัก ซึ่งก็อยากให้ผู้ชุมนุมนึกถึงประเทศ เพราะเวลานี้ประชาชนในบางพื้นที่ได้รับผลกระทบจากปัญหาอุทกภัย