วันจันทร์ ที่ 9 มิถุนายน พ.ศ. 2568
แนวหน้า
  • แนวหน้า
  • หน้าแรก
  • คอลัมน์
    • คอลัมน์วันนี้
    • คอลัมน์ออนไลน์
    • คอลัมน์การเมือง
    • คอลัมน์ลงมือสู้โกง
    • โลกธุรกิจ
    • ผู้หญิง
    • บันเทิง
    • Like สาระ
    • ดูทั้งหมด
  • ข่าวเด่น
  • พระราชสำนัก
  • การเมือง
  • โลกธุรกิจ
  • อาชญากรรม
  • กทม.
  • ในประเทศ
  • เกษตร
  • ต่างประเทศ
  • กีฬา
  • ผู้หญิง
  • บันเทิง
  • ยานยนต์
  • Like สาระ
หน้าแรก / การเมือง
สภาทนายความแถลงการณ์ เรื่องใช้มาตรา 3 และมาตรา 7

สภาทนายความแถลงการณ์ เรื่องใช้มาตรา 3 และมาตรา 7

วันศุกร์ ที่ 10 มกราคม พ.ศ. 2557, 16.52 น.
Tag :
  •  

แถลงการณ์ของสภาทนายความ
ฉบับที่ 2/2557
เรื่อง  จะใช้มาตรา 3 และมาตรา 7 ของรัฐธรรมนูญ ณ เวลาใดและโดยใคร
................................

ตามที่สภาทนายความได้เคยออกแถลงการณ์เรื่อง "การตรวจสอบการใช้อำนาจของรัฐ(ชุดใหญ่) การใช้รัฐธรรมนูญมาตรา 7 กับการถูกข้อหากระทำการหรือสนับสนุนการปฏิวัติ" ไปเมื่อวันที่ 8 ธันวาคม 2556 นั้น
โดยที่ขณะนี้มีความเห็นต่างที่ไม่ชัดเจนเกี่ยวกับเรื่องการใช้บทบัญญัติของมาตรา 3 และมาตรา 7 ของรัฐธรรมนูญ สภาทนายความจึงเห็นสมควรที่จะชี้แจงเพิ่มเติมถึงขั้นตอน เวลา และบุคคลหรือคณะบุคคลที่จะใช้มาตรา 3 และมาตรา 7 ของรัฐธรรมนูญ ดังนี้


1. การใช้บทบัญญัติตามมาตรา 3 และมาตรา 7 ของรัฐธรรมนูญ เรื่องอำนาจอธิปไตยซึ่งเป็นของปวงชนชาวไทย นั้น  ตามหลักการของรัฐธรรมนูญ ปวงชนชาวไทยได้ทูลเกล้าถวายให้พระมหากษัตริย์เป็นผู้ทรงใช้อำนาจตุลาการผ่านศาล อำนาจบริหารผ่านรัฐบาล และอำนาจนิติบัญญัติผ่านรัฐสภา ต่อมารัฐธรรมนูญฉบับปี 2540 และฉบับปัจจุบันได้เพิ่มการตรวจสอบการใช้อำนาจของรัฐทั้ง 3 ทาง โดยผ่านทางองค์กรอิสระ และการตรวจสอบอำนาจของรัฐโดยการมีส่วนร่วมของประชาชน ความเข้มข้นในการเพิ่มเรื่องบทบัญญัติของการตรวจสอบตามรัฐธรรมนูญแสดงให้เห็นว่าผู้ที่อาสาเข้ามาใช้อำนาจของรัฐ ดำเนินการไม่โปร่งใส บกพร่องหรือทุจริต จึงจำต้องนำบทบัญญัติในเรื่องการตรวจสอบมาเขียนเพิ่มไว้ในรัฐธรรมนูญ โดยเฉพาะได้เพิ่มบทบัญญัติว่าด้วยหลักจริยธรรมของนักการเมืองขึ้นใหม่ด้วย แต่ถึงกระนั้นผู้อาสามาทำงานในฝ่ายบริหารและนิติบัญญัติก็ไม่นำพาที่จะใช้อำนาจนั้นอย่างมีคุณภาพ โปร่งใส สุจริต และเป็นธรรม  จึงทำให้ประเทศไทยตกชั้นกลายเป็นประเทศที่มีการทุจริตคอร์รัปชั่นมากยิ่งขึ้นเป็นลำดับ 102 จาก 170 กว่าประเทศในปี 2556

2. การตรวจสอบของภาคประชาชนต่อกรณีการกล่าวหาว่ารัฐบาลไม่ซื่อสัตย์ ไม่โปร่งใสสุจริตและเป็นธรรมเป็นเรื่องปกติของประชาคมโลกในทุกสังคม ในอดีตการตรวจสอบก็เป็นเช่นนี้ ข้ออ้างของคณะทหารที่ทำการปฏิวัติและเกือบทุกครั้งก็เป็นเรื่องทุจริตของผู้บริหารประเทศ แม้ครั้งสุดท้ายที่ผ่านมาเมื่อวันที่ 19 กันยายน 2549 ทหารก็ออกมาปฏิวัติยกเลิกรัฐธรรมนูญฉบับปี 2540 และขอใช้อำนาจอธิปไตยชั่วคราวเพื่อปรับปรุงรัฐธรรมนูญฉบับปี 2540 เป็นรัฐธรรมนูญปี 2550 ในครั้งนั้นประชาชนก็ออกมาให้การสนับสนุนมอบดอกไม้ให้กับทหาร ยอมรับให้คณะทหารที่ทำการปฏิวัติใช้อำนาจอธิปไตยชั่วคราวเพื่อขจัดการทุจริต แต่มาจนถึงวันนี้ผลของการปฏิวัติของทหารครั้งที่ผ่านมาไม่ประสบผลสำเร็จเพราะไม่อาจขจัดการทุจริตคดโกงให้หมดหรือลดลงไปได้  ทำให้วงจรของการทุจริตกลับมาทำร้ายประเทศไทยอีกอย่างรุนแรง

3. สำหรับรัฐบาลนั้น สภาพในขณะนี้ไม่มีอำนาจในการบริหารกิจการบ้านเมืองได้ เพราะรัฐธรรมนูญที่ปรับปรุงขึ้นใหม่ได้กำหนดไว้เป็นสำคัญตามบทบัญญัติมาตรา 181 (3) คือ ห้ามรัฐบาลไม่ให้กระทำการอันมีผลเป็นการอนุมัติงานหรือโครงการ ที่มีผลเป็นการสร้างความผูกพันต่อคณะรัฐมนตรีชุดต่อไป กับในอนุมาตรา (2) ห้ามไม่ให้กระทำการอันมีผลเป็นการอนุมัติให้ใช้จ่ายงบประมาณสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น เว้นแต่จะได้รับความเห็นชอบจากคณะกรรมการการเลือกตั้ง  จึงเป็นที่เห็นได้ชัดว่าสถานะของรัฐบาลในปัจจุบันก็ไม่อาจดำเนินการอะไรได้มาก หากจะปล่อยให้ยืดเยื้อเสียเวลาต่อไปก็คงไม่เป็นผลดีแก่ประเทศ

4. ดังนั้นหากประชาชนอาสาปฏิรูปเองขออำนาจอธิปไตยมาจัดการชั่วคราวด้วยเป้าประสงค์ที่จะถอนรากถอนโคนของระบบการบริหารและนิติบัญญัติที่ใช้อำนาจเสียงส่วนใหญ่โดยไม่สุจริตตามคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ  ซึ่งแม้จะมีบทบัญญัติรัฐธรรมนูญให้ทุกฝ่ายยอมรับ แต่ฝ่ายผู้เข้ามาใช้อำนาจบริหารและนิติบัญญัติในขณะนี้กลับต่อต้านอำนาจของศาลรัฐธรรมนูญอย่างชัดแจ้ง  ดังนั้นเมื่อประชาชนจะดำเนินการปฏิรูปขออำนาจอธิปไตยมาจัดการชั่วคราวเช่นในอดีตบ้าง จึงไม่ใช่เป็นเรื่องที่แตกต่างอะไร ปัญหาคงมีแต่ว่าข้าราชการทหารและข้าราชการอื่นจะออกมาให้ดอกไม้แก่ประชาชนหลายล้านคนเหมือนที่ประชาชนเคยยื่นให้ทหารในปี 2549 เพื่อที่จะสร้างประวัติศาสตร์ไทยและประวัติศาสตร์โลกในครั้งนี้หรือไม่ หรือจะปล่อยให้เกิดความวุ่นวายแล้วฝ่ายทหารจึงจะออกมาแก้ไขสถานการณ์ดังเช่นในอดีตที่ผ่านมา

5. ประชาชนคนไทยเจ้าของอำนาจอธิปไตยจึงต้องใช้สิทธิตรวจสอบและติดตามการดำเนินการพัฒนาระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขว่าการเริ่มต้นจากการรวมตัวประท้วงรัฐบาลในการเสนอออกพระราชบัญญัตินิรโทษกรรมให้กับญาติและพวกพ้อง และการไม่เคารพศาลรัฐธรรมนูญ จนกลายเป็นการขับไล่รัฐบาลโดยสงบเปิดเผยและไม่มีอาวุธ จะก้าวหน้าไปในทางใด ทั้งนี้หากนักการเมืองเคารพรัฐธรรมนูญ สร้างคุณธรรมและจริยธรรมให้เป็นแบบอย่างที่ดี ความจำเป็นที่จะต้องขับไล่โดยการปฏิวัติก็ไม่จำต้องมี การแก้ไขกฎหมายหรือรัฐธรรมนูญก็สามารถจะกระทำได้บนหลักการของความซื่อสัตย์สุจริตเหมือนเช่นประเทศที่พัฒนาทางการเมืองแล้ว  ความจำเป็นในการใช้มาตรา 3 และมาตรา 7 ของประชาชนจึงเป็นเรื่องที่สอดคล้องกับหลักการของรัฐธรรมนูญ เหมือนเช่นการปฏิวัติโดยใช้กำลังทหารในอดีตที่ผ่านมา  แต่ครั้งนี้เป็นการปฏิรูปแบบมือเปล่า ซึ่งคณะกรรมการหรือเลขาธิการ กปปส. ก็คงต้องมั่นใจในความสามารถของการอาสามาทำการใช้อำนาจอธิปไตยชั่วคราวนี้จะได้รับความเชื่อมั่นจากประชาชนและจากทุกภาคส่วนของรัฐ

สภาทนายความเชื่อว่าแนวทางความคิดเห็นทางกฎหมายข้างต้น จะเป็นประโยชน์แก่ประชาชนคนไทยโดยทั่วกัน

สภาทนายความ ในพระบรมราชูปถัมภ์
10  มกราคม  พ.ศ. 2557

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

  • ‘ช่องบก’คลี่คลาย! ‘ทหารไทย-กัมพูชา’จับมือ ปรับกำลังลดเผชิญหน้า ‘ช่องบก’คลี่คลาย! ‘ทหารไทย-กัมพูชา’จับมือ ปรับกำลังลดเผชิญหน้า
  • ‘ลิณธิภรณ์’ซัด‘กัณวีร์’ เอาแต่ปิดตาข้างเดียว‘ซ้ำเติมประเทศ’ ‘ลิณธิภรณ์’ซัด‘กัณวีร์’ เอาแต่ปิดตาข้างเดียว‘ซ้ำเติมประเทศ’
  • ‘ปานเทพ’แฉเบื้องหลัง‘กัมพูชา’ถอย ‘ปิดด่าน’ตีหัวใจ-‘ฮุนเซน’กระอักเลือด ‘ปานเทพ’แฉเบื้องหลัง‘กัมพูชา’ถอย ‘ปิดด่าน’ตีหัวใจ-‘ฮุนเซน’กระอักเลือด
  • สวดยับ‘บิ๊กอ้วน’ ดูหน้าดูหลังให้ดีก่อนขอบคุณ‘กัมพูชา’ สวดยับ‘บิ๊กอ้วน’ ดูหน้าดูหลังให้ดีก่อนขอบคุณ‘กัมพูชา’
  • ร้องถอดถอน  เปิดสภาฯตะเพิด‘สจ.กอล์ฟ’  25ส.อบจ.สงขลาร่วมเข้าชื่อ ร้องถอดถอน เปิดสภาฯตะเพิด‘สจ.กอล์ฟ’ 25ส.อบจ.สงขลาร่วมเข้าชื่อ
  • \'อิ๊งค์\'ขอปชช.คลายกังวล มั่นใจรบ. เผยสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชาดีขึ้น 'อิ๊งค์'ขอปชช.คลายกังวล มั่นใจรบ. เผยสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชาดีขึ้น
  •  

Breaking News

วุฒิสภาออกโรง ชงรบ.เปิดสภาสมัยวิสามัญ ถกข้อพิพาทร้อนไทย-เขมร

‘ราเชน ศิลปะรายะ’ อธิบดี‘กรมฝนหลวงและการบินเกษตร’ ภารกิจเพื่อคุณภาพชีวิตประชาชน

‘Newery’ปล่อย ‘ไม่ซับซ้อน (not complicated)’ ชวน ‘PONCHET’ ร่วมงาน

‘ไอซ์ ศรัณยู’นำทีม ‘ลูค – มิค’ชวนรวมพลังโยนโบว์ลิ่งสร้างสุข เพื่อช่วยเหลือผู้ป่วยยากไร้

Back to Top

ผู้ดูแลเว็บไซต์ www.naewna.com
webmaster นางสาวอัญชะลี ไพรีรัก
ดูแลรับผิดชอบข่าว/ภาพ/โฆษณา/ข้อมูลอื่นที่เกียวข้องกับเว็บไซต์
กรรมการบริษัทฯ, กรรมการผู้มีอำนาจ ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการนำเสนอข่าว/ภาพ/ข้อมูลใดๆในเว็บไซต์ทั้งสิ้น

Social Media

  • หน้าแรก |
  • เกี่ยวกับแนวหน้า |
  • โฆษณากับเรา |
  • ร่วมงานกับเรา |
  • ติดต่อแนวหน้า |
  • นโยบายข้อตกลง
Copyright © 2017 Naewna.com All right reserved