การชุมนุมปิดกรุงเทพฯ หรือ “ชัตดาวน์ กทม.” ของคณะกรรมการประชาชนเพื่อการเปลี่ยนแปลงประเทศไทยให้เป็ประชาธิปไตยที่สมบูรณ์ อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข(กปปส.) ซึ่งได้นำมวลชนดาวกระจายปักหลักชุมนุมในพื้นที่ 7 จุดสำคัญทั่วกทม. ประกอบด้วย แยกอโศก แยกปทุมวัน แยกราชประสงค์ สวนลุมพินี อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ ห้าแยกลาดพร้าว และศูนย์ราชการ ถ.แจ้งวัฒนะ ยังคงเป็นไปอย่างเข้มข้นและคึกคัก โดยหลายเวทีได้นำมวลชนเคลื่อนบุกไปทำการปิดล้อมหน่วยงานราชการ เพื่อสกัดกั้นไม่ให้ข้าราชการเข้าทำงาน
7เวที“ชัตดาวน์”ยังคึกคัก
ทั้งนี้ผู้สื่อข่าวรายงานเมื่อวันที่ 14 มกราคม ซึ่งเป็นวันที่ 2 ของการชุมนุมชัตดาวน์ กทม. โดยบรรยากาศในภาพรวมของทั้ง 7 เวที ยังคงเป็นไปอย่างคึกคัก มวลชนต่างพากันตื่นมาปฏิบัติภารกิจส่วนตัวตั้งแต่เช้า ขณะที่บางส่วนพากันแยกตัวกันออกไปจับกลุ่มรับประทานอาหารเช้า ที่โรงครัวประจำเวทีได้จัดเตรียมไว้ให้ตั้งแต่เช้ามืด ขณะที่บางกลุ่มก็พากันเข้ามานั่งจับจองพื้นที่หน้าเวทีเพื่อฟังข่าวสารการชุมนุม
เรียกร้องสื่ออย่างดเสนอข่าว
โดยที่เวทีแยกปทุมวันซึ่งเป็นเวทีใหญ่ของการชุมนุม นายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ โฆษก กปปส. ได้ออกมาแถลงเมื่อเวลา 10.00 น. ว่า ภาพรวมการชุมนุมเมื่อวันที่ 13 มกราคม มีประชาชนออกมาร่วมทุกเวทีจำนวนมากกว่าที่คาดเอาไว้ ซึ่งกปปส.สามารถควบคุมการชุมนุมให้เป็นไปได้อย่างสงบ สันติ แต่กลับมีคำสั่งจาก น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร รักษาการนายกรัฐมนตรี ให้สื่อมวลชนหยุดเสนอข่าวการชุมนุม ดังนั้นจึงอยากขอสื่อมวลชนไม่ให้ปฏิบัติตาม เพราะถือเป็นการชุมนุมตามสิทธิเสรีภาพที่รัฐธรรมนูญได้ให้ไว้
15-16มค.เรียกแขกกทม.ชั้นใน
สำหรับกิจกรรมในวันเดียวกันนี้ของทั้ง 7 เวที จะมีการปราศรัยเวลา 16.00-02.00 น. ส่วนช่วงกลางวัน ทุกเวทีมีภารกิจนำมวลชนออกปฏิบัติการปิดล้อมสถานที่ราชการประมาณ 10 แห่ง ส่วนในวันที่ 15-16 มกราคม นายสุเทพ จะเริ่มเดินรณรงค์ในพื้นที่ กทม.ชั้นใน เพื่อเชิญชวนประชาชนให้ออกมาร่วมชุมนุมและเรียกร้องให้ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ลาออกจากตำแหน่ง เพื่อปูทางสูงการปฏิรูปประเทศต่อไป
ปิดตายบัวแก้ว-วิทย์-อุตฯ
ต่อมาเวลา 14.00 น. นายถนอม อ่อนเกตุพล แกนนำ กปปส. ได้นำมวลชนกว่า 1,000 คน เดินเท้าเคลื่อนขบวนออกจากสถานที่ชุมนุม เพื่อทำการปิดล้อมกระทรวงการต่างประเทศ กระทวงอุตสาหกรรม และกระทรวงวิทยาศาสตร์ โดย นายถนอม ได้ให้มวลชนนำโซ่กุญแจไปล็อกประตูทั้ง 3 หน่วยงาน รวมทั้งกรมทรัพยากรธรณี เพื่อไม่ให้ข้าราชการเข้าไปทำงาน ก่อนนำมวลชนเดินทางกลับทันที
“สวนลุม”ชัตดาวน์กรมศุลฯ
ขณะที่เมื่อเวลา 7.30 น. ที่เวทีสวนลุมพินี นายสาธิต เซกัล และ นายพิเชษฐ์ พัฒนโชติ ตัวแทนนักธุรกิจย่านสีลม ได้นำมวลชนออกเดินเท้าไปยังกรมศุลกากรที่ย่านคลองเตย โดยตลอดเส้นทางมีประชาชนออกมายืนโปรกธงชาติและโปกมือทักทายให้กำลังใจเป็นระยะ กระทั่งเวลา 09.00 น.กลุ่มผู้ชุมนุมเดินทางถึงยังกรมศุลกากร และทำการปิดถนนสุนทรโกษา หน้ากรมศุลกากร และการท่าเรือแห่งประเทศไทย ตั้งแต่แยกศุลกากร ถึงแยกขึ้นทางด่วนบางนา ดินแดง และใช้รถหกล้อดัดแปลงติดเครื่องเสียงเป็นเวทีปราศรัยชั่วคราว
กรมศุลฯยันชัตดาวน์แล้ว
ทั้งนี้ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ตลอดการชุมนุมจุดดังกล่าว มีเจ้าหน้าที่การท่าเรือแห่งประเทศไทย ออกมาร่วมชุมนุมกับ กปปส. รวมทั้งได้บริจาคเงินสนับสนุนอย่างต่อเนื่อง ส่วนกรมศุลกากรนั้น ได้ประกาศให้ข้าราชการหยุดงานไปตั้งแต่วันที่ 13 มกราคมแล้ว ขณะที่ นายนิมิตร แสงอำไพ ผอ.กองปราบปรามทางทะเล กรมศุลกากร ได้ขึ้นเวทีปราศรัยว่า กรมศุลกากรได้ประกาศชัตดาวน์ร่วมกับกปปส.อย่างไม่มีกำหนด หากกลุ่มผู้ชุมนุมสงสัยว่ามีผู้ทำงานอยู่หรือไม่ ให้ส่งตัวแทนเข้าไปตรวจสอบได้ และยินดีอำนวยความสะดวกทุกอย่าง
การท่าเรือเปิดทางร่วมชุมนุม
ขณะที่ ร.ต.ทรงธรรม จันทประสิทธิ์ ผอ.การท่าเรือแห่งประเทศไทย ได้เข้าเจรจากับแกนนำผู้ชุมนุมโดยยืนยันว่า การท่าเรือไม่มีนโยบายปิดกั้นสิทธิพนักงาน และยินดีให้เข้าร่วมการชุมนุมตามสิทธิภายใต้รัฐธรรมนูญ นายสาธิต จึงได้ขึ้นประกาศนำมวลชนกลับที่ตั้งเพื่อขับไล่รัฐบาลต่อไป
“ราชประสงค์”เคลื่อนขย่มสตช.
ส่วนที่เวทีราชประสงค์ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายชุมพล จุลใส แกนนำกปปส. ได้นำมวลชนกว่า 1,000 คนตั้งแถวเคลื่อนขบวนไปยังสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) ซึ่งอยู่ใกล้เคียงกัน หลังจากเมื่อวันที่ 13 มกราคมที่ผ่านมา ได้เข้าไปปิดล้อมและสามารถพังแบริเออร์ที่ถูกนำมาวางขวางได้ ส่งผลให้เจ้าหน้าที่ตำรวจปราบปรามจราจลที่อยู่ภายใน สตช. ต้องออกมาตั้งแถวเตรียมป้องกันอย่างโกลาหล เนื่องจากเกรงกลุ่มผู้ชุมนุมจะบุกเข้ามา
ปิดล้อมกดดันเลิกรับใช้ทรราช
อย่างไรก็ตาม กลุ่มแกนนำไม่ได้มีการสั่งการให้บุกเข้าในพื้นที่ สตช. แต่อย่างใด โดยเพียงแค่ทำการปิดล้อมกดดันอยู่ภายนอก และกล่าวปราศรัยโจมตีการทำงานของตำรวจว่า รับใช้รัฐบาลทรราช และเรียกร้องให้มีการย้าย ศูนยอำนวยการรักษาความสงบ (ศอ.รส.) อออกจากสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ขณะที่กลุ่มมวลชนก็มีการเป่านกหวีดและโห่ร้องใส่เจ้าหน้าที่ที่อยู่ภายในตลอดเวลา
ตร.แอบเปิดสะพานลาดพร้าว
ส่วนที่เวทีแยกลาดพร้าว ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บรรยากาศในช่วงเช้าผู้ชุมนุมส่วนใหญ่ได้ไปรวมตัวอยู่ที่บริเวณเวที ทำให้ที่บริเวณห้าแยกลาดพร้าวไม่มีกลุ่มผู้ชุมนุมอยู่ เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงเข้ามาเปิดแผงเหล็กที่ผู้ชุมนุมนำมากั้นสะพานกลับรถเอาไว้ เพื่อป้องกันการถูกกลุ่มผู้ไม่หวังดีลอบทำร้าย โดยยิงอาวุธมากจากบนสะพาน แต่ภายหลังเปิดแผงเหล็กได้เพียง 10 นาที ก็เกิดความวุ่นวายขึ้นมาเล็กน้อย เมื่อกลุ่มผู้ชุมนุมไม่พอใจที่เจ้าหน้าที่ตำรวจ ย้ายแผงเหล็กโดยไม่มีการพูดคุยกับผู้ชุมนุมก่อน จึงได้มีการเป่านกหวีดและโห่ไล่เจ้าหน้าที่ รวมถึงนำแผงเหล็กไปปิดกั้นบริเวณ 5 แยกลาดพร้าวเช่นเดิม
เคลื่อนพลปิด3หน่วยงาน
ขณะที่ นายอิสสระ สมชัย แกนนำ กปปส. ประกาศบนเวทีปราศรัยลาดพร้าวว่า จะแบ่งกลุ่มผู้ชุมนุมออกเป็น 3 สาย 1.เคลื่อนขบวนไปยังกระทรวงแรงงาน เนื่องจากทราบว่า ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รมว.แรงงาน มีคำสั่งให้ข้าราชการเดินทางมาทำงานตามปกติ 2.กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช เพราะอธิบดีกรมอุทยานฯ มีการระดมคนจำนวนมากมาไว้ และ 3.กรมการขนส่งทางบก ซึ่งอยู่ใกล้กับพื้นที่ชุมนุม
ฮึ่มปิดโรงแรม“มิราเคิล”
นายอิสสระ เปิดเผยด้วยว่า ขณะนี้มีข้อมูลทราบว่ามีหน่วยงานราชการบางแห่ง เข้าไปเช่าพื้นที่โรงแรมมิราเคิลแกรนด์ คอนเวนชั่น ที่ตั้งบนถนนคู่ขนาน (Local Road) ถนนวิภาวดีรังสิต มุ่งหน้าไปถนนแจ้งวัฒนะ เพื่อใช้เป็นสถานที่ทำงานชั่วคราว ดังนั้นจึงขอประกาศให้เวลา 2 วัน เพื่อให้ข้าราชการย้ายออกจากโรงแรมดังกล่าวทั้งหมด หากยังดึงดันทำงานกันต่อไป ก็จะนำกลุ่มผู้ชุมนุมเคลื่อนขบวนไปปิดล้อมโรงแรมเพื่อกดดันต่อไป
ล็อกโซ่ปิดตาย“แรงงาน”
จากนั้นเวลา 09.00 น. นายสุชาติ ศรีสังข์ แกนนำ กปปส. นำมวลชนจำนวนหนึ่งเคลื่อนขบวนไปปิดกระทรวงแรงงาน แต่ปรากฏว่า เมื่อไปถึง พบเพียง นายสุเมธ มโหสถ รองปลัดกระทรวงแรงงาน พร้อมด้วยผู้บริหารระดับสูง 4-5 คน และพนักงานรักษาความปลอดภัยอยู่เท่านั้น กลุ่มผู้ชุมนุมจึงเคลื่อนขบวนกลับ โดยนำโซ่และกุญแจขนาดใหญ่มาคล้องล็อกประตูทางเข้าออกของกระทรวงเอาไว้ทุกประตู
จี้ถาม“ขนส่ง”อุ้มเสื้อแดง
ขณะที่มวลชนอีกส่วนหนึ่ง ได้เดินทางไปยังกรมการขนส่งทางบกเพื่อขอสอบถามผู้บริหารว่า มีการจัดรถขนส่งให้กับคนเสื้อแดงให้มาชุมนุมที่สนามกีฬาราชมังคลากีฬาสถานเมื่อปลายปีที่ผ่านมาหรือไม่ แต่ละเมื่อไปถึงปรากฏว่า มีการล็อกกุญแจประตูเข้าออกไว้ทุกประตู โดยมี นายวัฒนา พัทรชนม์ รองอธิบดีกรมการขนส่งทางบก ยืนรอต้อนรับอยู่หน้าประตูฝั่งด้านใน และชี้แจงว่าไม่ได้มีการจัดรถให้กับกลุ่มเสื้อแดง แต่อาจมีการขอเช่ารถเพื่อเดินทางมา ซึ่งเป็นเรื่องที่ทำได้
กคป.ปักหลักยึด“พลังงาน”
ส่วนที่หน้ากระทรวงพลังงาน ถ.วิภาวดีรังสิต ซึ่งอยู่ใกล้เคียงกับจุดชุมเวทีชุมนุมแยกลาดพร้าว ปรากฏว่า กลุ่มกองทัพประชาชนและเครือข่ายปฏิรูปพลังงานไทย (กคป.) ที่บุกเข้าปิดล้อมตั้งแต่วันที่ 13 มกราคมที่ผ่านมา ยังคงปักหลักชุมนุมยึดสถานที่เอาไว้อย่างต่อเนื่อง
ทหารเตือนระวังถูกถล่มทางด่วน
โดย นพ.ระวี มาศฉมาดล กรรมการ กปปส. ในฐานะแกนนำ กคป. กล่าวว่า จะหารือกับแกนนำ กคป. เพื่อกำหนดท่าทีการเคลื่อนไหวเป็นระยะ ส่วนการปิดล้อมสถานที่นั้น ผู้ชุมนุมได้ให้ความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่ทหารที่เข้ามาดูแลความปลอดภัยภายในกระทรวงพลังงานเป็นอย่างดี โดยทหารแจ้งให้กลุ่มผู้ชุมนุมระวังการโจมตีจากทางด่วนดอนเมืองโทลล์เวย์ ผู้ชุมนุมจึงได้เข้าไปใช้อาคารจอดรถเป็นพื้นที่พักนอน
“ถาวร”นำมวลชนบุกไล่มท.1
ด้านเวทีอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย เวลา 14.00 น. นายถาวร เสนเนียม แกนนำ กปปส. ประกาศให้มวลชนตั้งขบวนเพื่อออกเดินทางไปยัง กรมโยธาธิการและผังเมือง ถ.พระราม 9 ซึ่งอยู่ห่างจากจุดชุมนุมประมาณ 4 กิโลเมตร เนื่องจากได้รับรายงานว่า นายจารุพงศ์ เรืองสุวรรณ รมว.มหาดไทย เข้าไปใช้เป็นสถานที่ทำงาน จึงขอให้ไปร่วมกันปิดล้อมขับไล่ และเชิญชวนข้าราชการมาร่วมอารยะขัดขืนกับมวลมหาประชาชน
กรมโยธาฯถอยยอมหยุดงาน
ต่อมาในช่วงเย็น นายถาวร เปิดเผยว่า บรรยากาศการไปปิดล้อมกรมโยธาธิการนั้น ได้รับการต้อนรับเป็นอย่างดี และได้พูดคุยกับรองอธิบดีกรมโยธาธิการจนได้ข้อสรุปแล้วว่า ในวันที่ 15 มกราคม กรมโยธาธิการจะหยุดงาน ซึ่งการหยุดงานก็ถือเป็นสิทธิของข้าราชการ จึงทำให้พี่น้องที่ตามไปด้วยเกิดความสบายใจ แต่ได้ย้ำว่าหากวันที่ 15 มกราคม มีสายข่าวรายงานว่า มีข้าราชการไปทำงานอีก ก็จะนำผู้ชุมนุมไปอีก
“พาณิชย์”โดนปิดตั้งแต่เช้าตรู่
เวลา 06.30 น. วันเดียวกัน ที่เวทีศูนย์ราชการ ถ.แจ้งวัฒนะ หลวงปู่พุทธะอิสระ เจ้าอาวาสวัดอ้อน้อย จ.นครปฐม ได้นำมวลชนประมาณ 500 คน ออกเดินทางไปปิดล้อมกระทรวงพาณิชย์ สนามบินน้ำ จ.นนทบุรี โดย หลวงปู่พุทธอิสระ กล่าวว่า ที่ผ่านมากระทรวงพาณิชย์ไปเน้นเรื่องจำนำข้าวจนทำให้เกิดความเสียหายสูญเงินกว่า 4-5 แสนล้านบาท โดยจะนำมวลชนมาปิดล้อมทุกวัน จนกว่าจะได้รับชัยชนะ
แฉลอบกัดทั้งคืน-ยุบเวทีทีโอที
หลวงปู่พุทธอิสระ เปิดเผยว่า ช่วงดึกของคืนที่มา เกิดเหตุมีคนมาป่วนปาประทัดยักษ์ พร้อมยิงหัวน็อตเข้ามาในพื้นที่มวลชนที่ตั้งเวทีย่อยอยู่ด้านหน้าบริษัททีโอที จำกัด มหาชน เพราะพื้นที่จุดนั้นมีมวลชนค่อนข้างน้อย ขณะที่ต่อมาในช่วงเย็น หลวงปู่พุทธะอิสระ ได้ออกมาประกาศว่า จะมีการยุบเวทีหน้าบริษัททีโอที มารวมกับเวทีหน้ากรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ให้เป็นเวทีเดียว เพื่อความปลอดภัยของผู้ชุมนุม
คปท.บุกสภาพัฒน์ไล่“สุรนันท์”
ด้านความเคลื่อนไหวของเครือข่ายนักศึกษาประชาชนปฏิรูปประเทศไทย (คปท.) ซึ่งยังคงปักหลักชุมนุมอยู่ใกล้ทำเนียบรัฐบาลนั้น ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลาประมาณ 10.30 น. วันดียวกัน นายนิติธร ล้ำเหลือ และ นายอุทัย ยอดมณี ได้ตั้งนำมวลชนออกมาตั้งขบวนที่บริเวณแยกนางเลิ้ง เพื่อออกเดินเท้าไปยังสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สภาพัฒน์) ซึ่งอยู่ใกล้เคียง เนื่องจากได้รับรายงาน นายสุรนันท์ เวชชาชีวะ เลขาธิการนายกรัฐมนตรี ได้แอบมาใช้เป็นสถานที่ปฏิบัติงาน
จี้หยุดยาว5วัน-ไม่ฟังล้อมอีก
ทั้งนี้กลุ่มผู้ชุมนุมได้เคลื่อนขบวนมาถึงในเวลา 11.10 น. พร้อมกับเข้าทำการปิดล้อมทันที พร้อมกับให้ข้าราชการออกจากสำนักงานให้หมดภายในเวลา 12.30 น. นายธานินทร์ ผะเอม รองเลขาธิการสภาพัฒน์ จึงได้เข้ามาเจรจา และยินยอมรับเงื่อนไขของกลุ่มผู้ชุมนุมแต่โดยดี กลุ่มผู้ชุมนุมจึงเปิดทางให้ข้าราชการซึ่งเดินต่อแถวทยอยออกจนหมด โดย นายนัดเซอร์ ยีหมะ หัวหน้าการ์ด คปท. เปิดเผยว่า คปท. ขอให้สภาพัฒน์หยุดปฏิบัติงานเป็นเวลา 5 วัน ซึ่งหากพบว่าในวันพรุ่งนี้ ยังมีเจ้าหน้าที่หรือข้าราชการมาปฏิบัติงาน คปท. ก็จะเข้าทำการปิดล้อมอีก ซึ่งในเบื้องต้น นายธานินทร์ ได้รับปากแล้ว
เขวี้ยงแก๊สน้ำตาใส่ม็อบทำเนียบ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ก่อนหน้านี้เมื่อเวลา 00.45 น. ได้เกิดเหตุกลุ่มบุคคลไม่ทราบฝ่ายยิงประทัดยักษ์จากบริเวณถนนกรุงเกษม เชิงสะพานมัฆวานรังสรรค์ ใส่ทำเนียบรัฐบาลจำนวนหลายนัด จากนั้นเวลาประมาณ 01.05น. ก็มีลูกระเบิดแก๊สน้ำถูกขว้างออกทางทำเนียบรัฐบาลบริเวณประตู 5 ถนนราชเนินนอก ลงบริเวณกลางถนนราชดำเนิน 1 ลูก ส่งผลให้มวลชนได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย 10 ราย และทำให้การ์ด คปท. ที่บริเวณแยกมิสกวัน ต้องมาช่วยอพยพกลุ่มผู้ชุมนุมและผู้บาดเจ็บเข้าไปนอนพักในพื้นที่ชุมนุมของ คปท. ที่ถนนพิษณุโลก แทน
ตลท.ปิดอาคารแต่ซื้อขายปกติ
ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า นอกจากหน่วยงานที่ถูกปิดล้อมจนต้องหยุดการทำงานแล้ว ผลจากการชัตดาวน์ที่เกิดขึ้น ยังทำให้หลายหน่วยงานต้องปรับแผนรับสถานการณ์ โดย นายบดินทร์ อูนากูล รองผู้จัดการ หัวหน้าสายงานบริหาร ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) เปิดเผยว่า ตลท. ตัดสินใจปิดอาคารทำงานแล้ว หลังจากกลุ่ม คปท. ประกาศจะเคลื่อนขบวนมาปิดล้อมในวันที่ 15 มกราคม อย่างไรก็ตาม การซื้อขายยังเป็นไปตามแผนดำเนินธุรกิจอย่างต่อเนื่อง และไม่จำเป็นต้องขอกำลังตำรวจมาดูแล
“กงสุล”แจ้งวัฒนะชัตดาวน์ยาว
ส่วน นายเสข วรรณเมธี อธิบดีกรมสารนิเทศ กระทรวงการต่างประเทศเปิดเผยว่า ขณะนี้สั่งปิดทำการกรมการกงสุล ถ.แจ้งวัฒนะชั่วคราว ขณะที่สำนักงานหนังสือเดินทางชั่วคราว ที่ศูนย์บางนา และปิ่นเกล้ายังเปิดปกติ อย่างไรก็ตาม เนื่องจากระบบกลางที่กรมการกงสุล แจ้งวัฒนะปิดลงชั่วคราว ทำให้เชื่อมต่อระบบไม่ได้ในขณะนี้ ฉะนั้น ประชาชนที่ต้องการทำพาสปอร์ต แต่ยังไม่เร่งด่วนใช้งาน ขอให้ชะลอการเข้ารับบริการไว้ก่อน ส่วนกรมการกงสุลจะเปิดทำการเมื่อไร กระทรวงการต่างประเทศจะประเมินวันต่อวัน
กระทรวงการคลังยังปิดเงียบ
สำหรับกระทรวงการคลัง รวมถึงกรมสรรพากร และกรมสรรพสามิต ที่กลุ่มผู้ชุมนุม กปปส. เดินทางไปปิดล้อมตั้งแต่วันที่ 13 มกราคมที่ผ่านมานั้น ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในวันเดียวกันนี้ สถานที่ราชการทุกแห่งดังกล่าว ยังคงปิดอย่างต่อเนื่อง ไม่มีข้าราชการมาทำงาน โดยมีแนวโน้มว่า อาจต้องรอจนกว่าการชัตดาวน์กทม.จะสิ้นสุด ถึงจะกลับมาเปิดให้บริการตามปกติ
“เทือก”พบมวลชนอโศก
ด้านความเคลื่อนไหวของ นายสุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการ กปปส. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เวลา 12.00 น. วันเดียวกัน นายสุเทพ ได้ออกเดินสายไปเยี่ยมกลุ่มผู้ชุมนุม เริ่มจากเวทีปราศรัยแยกอโศก โดย นายสุเทพ ได้เข้าไปทักทายกับมวลชนอย่างเป็นกันเอง จากนั้นจึงร่วมรับประทานอาหารกับผู้ชุมนุมคนอื่นๆ ที่โรงครัว
ต่อมา นายสุเทพ ขึ้นกล่าวบนเวทีปราศรัยว่า จะเดินหน้าต่อสู้ต่อไปจนกว่าชัยชนะจะเป็นของประชาชน งานนี้สู้จนจบไม่จบไม่เลิก ไม่กลับบ้านมือเปล่าแน่นอน ทั้งนี้ในช่วงเช้าที่ผ่านมา ยังมีคนมาพยายามต่อรองว่า หากรัฐบาลจะเลื่อนการเลือกตั้งจากวันที่ 2 กุมภาพันธ์ เป็นวันที่ 4 พฤษภาคม กปปส.จะเอาอย่างไร จึงตอบว่าไม่เอา เพราะการเลื่อนการเลือกตั้งไม่มีความหมายในสายตาประชาชน สิ่งที่ต้องการคือการปฏิรูปประเทศไทย
ย้ำ“ปู”ต้องออกสถานเดียว
นายสุเทพ ย้ำว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร รักษาการนายกรัฐมนตรี จะต้องลาออกพร้อมคณะรัฐมนตรีก่อน เพื่อให้เกิดสุญญากาศทางการเมือง และหาคนดีเป็นนายกรัฐมนตรี ตั้งเป็นสภาประชาชน ทำการปฏิรูปประเทศ ทำให้เสร็จเมื่อไหร่ก็ค่อยเลือกตั้ง ซึ่งเมื่อตนปฏิเสธไปก็มีการตัดพ้อว่ารัฐบาลถอยไปมากแล้ว จึงตอบกลับไปว่า รัฐบาลไม่ต้องหาทางลงให้กระโดดลงเอง เพราะตอนขึ้นก็หาทางขึ้นไปเอง และต้องทำให้รู้
ลั่นยกระดับจับ“ปู-รัฐมนตรี”
“ภายใน 2-3 วันนี้จะปิดสถานที่ราชการให้หมด โดยจะนำไปยึดสถานที่ราชการบางแห่ง นอกจากนี้จะมีการควบคุมนายกฯและคณะรัฐมนตรีให้หมด พร้อมตัดน้ำตัดไฟบ้านรัฐมนตรี หากยังดื้อด้านก็จะควบคุมตัว ดังนั้นจึงขอให้แต่ละคนส่งลูกเมียไปที่อื่นก่อน หากฉุกเฉินจะได้หนีได้สะดวก” นายสุเทพ กล่าว
ประกาศตัดไฟบ้าน-จับ7ลิ่วล้อ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากนั้น นายสุเทพ ได้เดินทางต่อเพื่อไปเยี่ยมผู้ชุมนุมที่เวทีสวมลุมพินีและแยกลาดพร้าว โดย นายสุเทพ ได้ขึ้นปราศรัยอีกครั้งที่เวทีลาดพร้าวว่า ขณะนี้มีกลุ่มคนที่ยุให้ น.ส.ยิ่งลักษณ์ สู้ต่อ 1.นายสุรพงษ์ โตวิจักรชัยกุล รักษาการ รมว.ต่างประเทศ 2.ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รักษาการ รมว.แรงงาน 3.พล.ต.อ.ประชา พรหมนอก รักษาการรองนายกรัฐมนตรี 4.นายจาตุรนต์ ฉายแสง รักษาการ รมว.ศึกษาธิการ 5.น.อ.อนุดิษฐ์ นาคาทรรพ รักษาการ รมว.ไอซีที 6.นายปลอดประสพ สุรัสวดี รักษาการรองนายกรัฐมนตรี 7.นายภูมิธรรม เวชยชัย เลขาธิการพรรคเพื่อไทย ดังนั้นหาก น.ส.ยิ่งลักษณ์ ยังดื้อดึงอยู่ และใครพบเห็นคนเหล่านี้ให้จับตัวอย่างละมุนละม่อน และให้มานั่งตากแดดฟังปราศรัยที่เวทีแห่งนี้ รวมทั้งจะให้มีการตัดไฟที่บ้านเช่นกัน
วินจยย.สัญญาไม่โขกค่ารถ
วันเดียวกัน ที่กองบังคับการตำรวจจราจร (บก.จร.) นายเฉลิม ชั่งทองมะดัน นายกสมาคมผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์รับจ้างแห่งประเทศไทย นำตัวแทนวินจักรยานยนต์ กว่า 150 คันทำสัตยาบรรณว่า จะไม่เอารัดเอาเปรียบโก่งราคาค่าโดยสาร ในขณะที่มีสถานการณ์ชุมนุมในพื้นที่ กทม. ภายหลังจากได้รับการร้องเรียนจากประชาชนจำนวนมากที่ได้รับความเดือดร้อนจากเหตุดังกล่าว
ตร.สรุปม็อบ8พันกลุ่มต้าน5หมื่น
ด้าน พล.ต.ต.ปิยะ อุทาโย โฆษกศูนย์อำนวยการรักษาความสงบเรียบร้อย (ศอ.รส.) แถลงว่า การชุมนุมวันที่ 13 มกราคม มีการปิดแยกสำคัญ 7 แห่ง ได้แก่ แยกปทุมวัน ราชประสงค์ อโศก ศาลาแดง อนุเสาวรีย์ชัยสมรภูมิ ห้าแยกลาดพร้าว และศูนย์ราชการแจ้งวัฒนะ รวมถึงมีการชุมนุมของกลุ่ม กปปส.ในต่างจังหวัดอีก 9 จังหวัด ส่วนใหญ่ในพื้นที่ภาคใต้ มีผู้ร่วมชุมนุมประมาณ 8,000 คน แต่มีกลุ่มที่มีความเห็นต่างกับกลุ่ม กปปส.สนับสนุนการเลือกตั้งมีทั้งหมด 32 จังหวัด มีผู้ร่วมชุมนุมกว่า 50,000 คน
สื่อเทศชี้ชัตดาวน์ไม่รุนแรง
ขณะที่ความเคลื่อนไหวของสื่อต่างประเทศ เว็บไซด์หนังสือพิมพ์นิวยอร์ค ไทม์ส รายงานว่า ปฎิบัติการชัตดาวน์ กทม. เป็นการประท้วงต่อต้านรัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ โดยสงบ ถือเป็นการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในเอเชีย แต่มีลักษณ์เหมือนงานเทศกาลปลอดรถยนต์มากกว่าการข่มขู่ เป็นเพียงแช่แข็งรัฐบาล และประกาศให้โลกรู้ว่า การประท้วงไม่มีเหตุรุนแรง
CNNอ้าง45ปท.เตือนหลีกเลี่ยง
ขณะที่ ซีเอ็นเอ็นรายงานโดยอ้างกระทรวงการต่างประเทศของไทยที่ระบุมี 45 ประเทศประกาศเตือนและแนะนำพลเมืองตัวเองให้ติดตามสถานการณ์ใกล้ชิด และหลีกเลี่ยงพื้นที่ชุมนุมทุกแห่ง พร้อมเผื่อเวลาเดินทางไว้ 4 ชั่วโมง เพราะแหล่งท่องเที่ยว ย่านการค้าสำคัญการจราจรถูกปิดตาย นอกจากนี้ ยังอ้างถึงสถานทูตสหรัฐที่ออกคำเตือนพลเมืองของตัวเองว่า แม้เป็นการประท้วงอย่างสันติ แต่อาจมีการเผชิญหน้าได้
เชื่อยุทธศาสตร์ปิดกรุงล้มรบ.
เว็บไซต์โกลบอล โพสต์ ในสหรัฐ รายงานโดยพาดหัวข่าวว่า มหากรุงเทพฯวิบัติ: ม็อบปิดกรุงโค่นรัฐบาล โดยระบุว่า กลุ่มผู้ชุมนุมมั่นใจการชัตดาวน์เมืองหลวงครั้งนี้จะขับไล่รัฐบาลสำเร็จ ด้วยยุทธศาสตร์ปิดถนนทั่วกรุงเทพฯ ทำให้การจราจรอัมพาตบีบให้รัฐบาลเลื่อนเลือกตั้ง ส่งมอบอำนาจให้สภาประชาชน นำไปสู่การปฎิรูปประเทศก่อนจัดเลือกตั้ง โดยผู้ชุมนุมเรียกปฎิบัติการครั้งนี้เป็นการปฎิวัติประชาชน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี