ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศที่หน้ากระทรวงพาณิชย์ สนามบินน้ำ จ.นนทบุรีเมื่อวันที่ 12 มีนาคมว่า นายทินกร อ่อนประทุม แกนนำแนวร่วมคณะกรรมการประชาชนเพื่อการเปลี่ยนแปลงประเทศไทยให้เป็นประชาธิปไตยที่สมบูรณ์อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข (กปปส.) นำมวลชนจากสวนลุมพินีจำนวนหนึ่ง เดินทางโดยรถบันและรถกระบะกว่า 10 คันรถ ไปให้กำลังใจชาวนาที่มาเรียกร้องเงินจากโครงการจำนำข้าว ที่ปักหลักชุมนุมหน้ากระทรวงพาณิชย์
ให้กำลังใจชาวนาตัดไฟพณ.
เมื่อเดินทางถึง แกนนำ กปปส. ปราศรัยโจมตีการทำงานของรัฐบาลที่ล้มเหลวโดยเฉพาะโครงการรับจำนำข้าว เพราะชาวนาจำนวนมากยังไม่ได้รับเงินจากโครงการดังกล่าว เดือดร้อนจนต้องฆ่าตัวตายเพื่อหนีหนี้ จากนั้นได้ประกาศให้ข้าราชการเก็บของกลับบ้าน ก่อนตัดไฟภายในกระทรวงเวลา 13.30 น.
กระทบประมูลข้าวเอเฟตล่ม
การเคลื่อนไหวของ กปปส.เพื่อกดดันรัฐบาลครั้งนี้ ส่งผลต่อการยื่นซองเสนอราคาประมูลข้าวสารในสต๊อกรัฐบาล ผ่านตลาดซื้อขายสินค้าเกษตรล่วงหน้าแห่งประเทศไทย (เอเฟต) ครั้งที่ 7 จำนวน 244,000 ตัน ที่กระทรวงพาณิชย์จัดขึ้นตั้งแต่เวลา 09.00-12.00 น. เป็นอันต้องยกเลิกไป
โดยนายสมชาติ สร้อยทอง อธิบดีกรมการค้าภายในเผยว่า ได้ยกเลิกการประมูลข้าวจำนวน 2.4 แสนตันผ่านตลาดสินค้าเกษตรล่วงหน้าแล้ว หลังแกนนำ กปปส. นำมวลชนตัดไฟ โดยได้คืนซองให้ผู้ที่ยื่นก่อนหน้านี้ และกำหนดการประมูลครั้งต่อไปวันที่ 26 มีนาคม
เผาหุ่น2รมต.ส่หม้อดินถ่วงน้ำ
ขณะที่ การชุมนุมของม็อบชาวนาที่กระทรวงพาณิชย์ วันเดียวกัน พบว่า ชาวนาจากจ.บุรีรัมย์ ทยอยมาสมทบกับชาวนาจากจังหวัดต่างๆ อาทิ จ.พิจิตร กำแพงเพชร ชัยนาท สิงห์บุรีและอ่างทองประมาณ 700 คน ที่กระทรวงพาณิชย์ตั้งแต่เช้า โดยกลุ่มชาวนานำหุ่นฟาง 2 ตัว ติดหน้าของนายนิวัฒน์ธำรงบุญทรงไพศาล รองนายกรัฐมนตรี และรมว.พาณิชย์ และ นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง รองนายกรัฐมนตรีและรมว.คลัง มาจุดไฟเผาที่ลานหน้ากระทรวงพาณิชย์ พร้อมทำพิธีส่งดวงวิญญาณตามพิธีกรรมแบบเขมร นำลงหม้อดิน 2 ใบปิดปากหม้อด้วยผ้าขาวมัดสายสิญน์ ก่อนนำไปถ่วงแม่น้ำเจ้าพระยา หลังกระทรวงพาณิชย์ โดยแกนนำได้ปราศรัยโจมตีการทำงานของสองรัฐมนตรี ที่เกี่ยวข้องกับโครงการรับจำนำข้าวโดยตรง แต่บริหารงานล้มเหลว
แกนนำไม่รู้ล่วงหน้าบุกปิดพณ.
ด้านนายระวี รุ่งเรือง ประธานเครือข่ายชาวนาไทย กล่าวว่า กลุ่มเครือข่ายชาวนาไม่ทราบล่วงหน้าว่า แกนนำ กปปส.จะเดินทางมาปิดกระทรวงพาณิชย์ และตัดน้ำตัดไฟ รวมถึงปิดกระทรวงไม่ให้ข้าราชการทำงาน แต่เชื่อว่าการกระทำดังกล่าว เป็นแนวทางแสดงสัญลักษณ์กดดันรัฐบาล ของกลุ่ม กปปส. แต่ส่งผลกระทบต่อชาวนาที่มาชุมนุมประท้วงที่กระทรวงพาณิชย์ ซึ่งได้ประสานงานเรื่องการต่อน้ำ ต่อไฟใหม่
ชี้ล้มประมูลไม่กระทบชาวนา
ส่วนผลกระทบของการตัดไฟทำให้ต้องยกเลิกการประมูลข้าว 2.4 แสนตันนั้น นายระวีกล่าวว่า การระบายข้าวของรัฐบาลแต่ละครั้ง ได้เงินเพียงหลัก พันล้าน ขณะที่เงินที่ค้างชาวนามีกว่า 1 แสนล้านบาท ซึ่งต้องใช้เวลาระบายข้าวเป็นปีๆ จึงคิดว่าการต้องยกเลิกประมูลข้าวครั้งนี้ ไม่กระทบชาวนามากนัก เนื่องจากเครือข่ายชาวนาฯประกาศจุดยืนแล้วว่า การคืนเงินให้ชาวนานั้นต้องจ่ายก้อนเดียวพร้อมกันทั้งหมด แต่ต่อไปถ้าทราบว่ากปปส.จะมาปิดกระทรวงพาณิชย์อีก คงต้องประสานแกนนำ กปปส.ล่วงหน้า ขอไม่ให้ตัดน้ำตัดไฟอีก
บุกเทข้าว12ตันปิดก.คลัง
เวลา 15.00 น.ที่กระทรวงการคลัง กลุ่มเครือข่ายชาวนาไทย นำโดย นายณัฐวัฒิ ชั้นอินทร์งาม ผู้ประสานงานเครือข่ายฯ นำรถ 6 ล้อ บรรทุกข้าวเปลือก 12 ตัน มาเทหน้าประตู 2 ของกระทรวง พร้อมเรียกร้องให้กระทรวงรับซื้อข้าวตันละ 12,000 บาท คิดเป็นเงิน 144,000 บาท โดยระบุอีกว่า วันที่ 13 มีนาคม จะนำข้าวเปลือกมาอีก 5 คันรถ เทปิดประตูทางเข้า-ออกกระทรวงทุกด้าน รวมถึงจะมาทวงถามค่าข้าว หลังจากวันนี้ เจ้าหน้าที่ไม่สนใจความเดือดร้อนของชาวนา ทำให้ชาวนาไม่พอใจขว้างปาไข่เป็ดหลายร้อยฟ้องใส่ตำรวจที่รักษาความปลอดภัยอยู่บริเวณประตู 2 ทำให้เจ้าหน้าที่ยอมถอยร่นเข้าไปด้านในอีก 15 เมตร จากนั้น กลุ่มชาวนาฯเคลื่อนขบวนกลับไปปักหลักที่กระทรวงพาณิชย์ ก่อนประกาศจะมาใหม่ในวันพรุ่งนี้ (13 มีนาคม)
ทนายปูยื่นเลื่อนแจง45วัน
มีความคืบหน้าการไต่สวนคดีทุจริตโครงการจำนำข้าว ของคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) วันเดียวกัน นายนรวิชญ์ หล้าแหล่ง ทนายความผู้รับมอบอำนาจจากน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม ให้รับผิดชอบคดีทุจริตโครงการจำนำข้าว เข้ายื่นคำร้องขอขยายเวลายื่นคำชี้แจงแก้ข้อกล่าวหาจำนำข้าวของนายกฯ โดยนายนรวิชญ์เปิดเผยว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์มอบอำนาจให้ตนมายื่นคำร้องขอขยายเวลาการยื่นคำชี้แจงในฐานะผู้ถูกกล่าวหาออกไปอีก45 วัน หลังจากที่จะครบกำหนดต้องชี้แจงในวันศุกร์ที่ 14 มีนาคมนี้
อ้างช่วงเวลากระชั้นชิดเกินนไป
นายนรวิชญ์ระบุสาเหตุที่ขอเลื่อนการเข้าชี้แจงออกไป เนื่องจากเพิ่งเดินทางมาขอคัดสำเนาพยานหลักฐาน ข้อกล่าวหาเมื่อวันที่ 11 มีนาคมที่ผ่านมา มีระยะเวลาเตรียมตัวเข้าชี้แจงเพียง 2 วัน ถือว่ากระชั้นชิดเกินไป ขณะเดียวกัน จากการตรวจเอกสารที่ได้ไป 12 รายการ 49 แผ่น เบื้องต้นไม่พบกรณีที่ป.ป.ช.กล่าวหานายกฯในเรื่องการบิดเบือนกลไกตลาด ค่าใช้จ่ายในการเก็บข้าว ข้าวเสื่อมราคา มีการทุจริตทุกขั้นตอนแต่อย่างใด ทีมทนายความจึงคิดว่าหากเป็นเช่นนี้คงต้องขอตรวจพยานหลักฐานเพิ่มเติม เพื่อนำไปประกอบการชี้แจงแก้ข้อกล่าวหา
ซัดปปช.กั๊กหลักฐานจ่อร้องขอเพิ่ม
“ป.ป.ช.ไม่ได้ให้เอกสารเราทั้งหมด น่าจะมีเอกสารมากกว่านี้ เพราะเป็นการกล่าวหาทั้งโครงการ ไม่น่าจะมีแค่ 49แผ่น หลังจากขอขยายเวลายื่นคำชี้แจงแล้ว คณะทำงานต้องร้องขอตรวจพยานหลักฐานเพิ่มเติม แต่อย่างไรก็ตาม ได้สอบถามจากป.ป.ช.แล้วได้รับคำชี้แจงว่าเขาสามารถให้ได้เฉพาะ 12 รายการ 49 แผ่นนี้” นายนรวิชญ์ระบุ
ปัดเตะถ่วงคดีอ้างเพื่อยุติธรรม
ทนายความของน.ส.ยิ่งลักษณ์กล่าวด้วยว่า เรื่องนี้เป็นประโยชน์ ความยุติธรรมของผู้ถูกกล่าวหาในการต่อสู้คดีตามกระบวนการยุติธรรมอย่างเต็มที่ ก็ไม่น่าจะมีอะไรขัดข้อง เพราะนี่เป็นครั้งแรกในการขอขยายเวลาด้วย ทั้งนี้ นายกฯไม่กังวลในการชี้แจง แต่ขอให้รู้ประเด็นให้ชัดจะได้มีข้อเท็จจริง มีข้อมูลมาชี้แจง ไม่ใช่มากล่าวหากันกว้างๆ
นายนรวิชย์ระบุอีกว่า ในเมื่อป.ป.ช.กล่าวอ้างระเบียบบริหารราชการแผ่นดินว่านายกฯมีอำนาจสั่งการได้ก็ต้องชี้มาให้ชัดว่า สั่งการตรงไหน เกิดประเด็นตรงไหนก็ต้องเจาะจงมา เพราะอำนาจของนายกฯตามมาตรา11 ระเบียบบริหารราชการแผ่นดินนั้นกว้าง นายกฯเป็นหัวหน้ารัฐบาลในระดับนโยบาย ควบคุมการบริหารงาน ดูแลนโยบาย ส่วนการปฏิบัติหากมีการทุจริตก็ต้องไปว่ากันในจุดๆนั้น
ถกคำร้องขยายเวลาแจง13มี.ค.
ขณะที่นายวิชา มหาคุณ โฆษก ป.ป.ช.กล่าวว่า เป็นอำนาจของคณะกรรมการ ป.ป.ช.ในการอนุมัติขอขยายเวลาชี้แจงข้อกล่าวหาหรือไม่ โดยที่ประชุม ป.ป.ช.จะพิจารณาคำร้องดังกล่าววันที่ 13 มีนาคมว่าเหมาะสมจะให้เลื่อนหรือไม่
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี