จำคุก'เมียยงยุทธ’5ปี
เพิกถอนสิทธิลต.10ปี
หลุดเก้าอี้นายก อบจ.
ปชป.ผนึกช่วยชายหมู
เมื่อเวลา 10.00น.วันที่ 12 มีนาคม2557ที่ห้องพิจารณาคดีที่ 14 ศาลจังหวัดเชียงราย นายมหันต์โชค แฉล้มเขตต์ ผู้พิพากษาศาลจังหวัดเชียงราย ได้ออกนั่งบัลลังก์อ่านคำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2265/2556 ในคดีเลขดำที่ 2318/2547และเลขแดงที่1131/2549 ที่ นางรัตนา จงสุทธนามณี อดีตนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด( อบจ.)เชียงราย เป็นโจทก์ ยื่นฟ้อง นางสลักจฤฎดิ์ ติยะไพรัช นายก อบจ.เชียงราย คนปัจจุบัน เป็นจำเลย ข้อหาแจ้งความอันเป็นเท็จ ต่อเจ้าพนักงานตามมาตรา137ประมวลกฎหมายอาญาและกระทำการอันเป็นเท็จตาม พ.ร.บ.เลือกตั้งสมาชิกสภาท้องถิ่น หรือบริหารท้องถิ่น พ.ศ.2545มาตรา114
โดยศาลฎีกามีคำสั่งให้อ่านคำพิพากษาโดยทันที หลังนางสลักจฤฎดิ์จำเลยเคยยื่นคำร้องขอเลื่อนมา3 ครั้งจนครั้งสุดท้าย เมื่อวันที่5ก.พ.ที่ผ่านมา จำเลยไม่ได้เดินทางไปรับฟัง ทำให้ศาลต้องออกหมายจับให้มาฟังคำพิพากษาวันนี้ แต่นางสลักจฤฎดิ์ก็ยังไม่เข้ารับฟังคำพิพากษาอีก
ศาลพิเคราะห์ว่าจำเลยได้ยื่นคำร้องต่อคณะกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.)ว่าเมื่อวันที่ 4-6 มีนาคม2547โจทก์แจกชิงช้าและกระดานเลื่อนให้ประชาชนที่ชุมชนประตูเชียงใหม่สามัคคี เทศบาลนครเชียงราย ทำให้ กกต.ต้องตรวจสอบและทำให้ประกาศรับรอง ต้องเลื่อนออกไป ต่อมา กกต.ได้ตรวจสอบ ยกคำร้องและประกาศรับรองโจทก์ ให้เป็นนายก อบจ.เชียงรายในที่สุด จึงถือเป็นการกลั่นแกล้ง และกระทำผิดกฎหมายเลือกตั้งดังกล่าว ขณะที่จำเลยแจ้งว่ารับแจ้งจากประชาชนว่ามีการมอบสิ่งของดังกล่าว จึงแจ้ง กกต.ให้ไปตรวจสอบ
ช่วงท้ายศาลพิเคราะห์ว่าการกระทำดังกล่าวถือว่าไม่ใส่ใจต่อการแจ้งต่อเจ้าพนักงานและไม่มีการตรวจสอบก่อนทั้งที่สามารถทำได้โดยง่ายทั้งยังมีการแอบอ้างรายชื่อคนเป็นไปพยานรวมทั้งยังอ้างว่ามีการมอบสิ่งของ เพื่อให้เลือกโจทย์ การกระทำดังกล่าว จึงเป็นการกระทำอันเป็นเท็จและทำให้ผู้อื่นเข้าใจผิดตามพ.ร.บ.เลือกตั้งสมาชิกสภาท้องถิ่น หรือบริหารท้องถิ่นปี 2545 มาตรา114
ในที่สุด ศาลมีคำพิพากษาให้จำคุกนางสลักจฤฎดิ์5 ปี ปรับ100,000บาท เนื่องจากจำเลยไม่เคยทำผิด และทำความดีเพื่อสังคมมาโดยตลอด จึงลดโทษให้กึ่งหนึ่ง เหลือโทษจำคุก 2ปี 6 เดือน ปรับ 50,000บาท โทษจำคุก ให้รอลงอาญาเป็นเวลา 2 ปีและให้เพิกถอนสิทธิ์ทางการเมืองเป็น10ปี ทั้งนี้ ปรากฎว่าทั้งโจทก์และจำเลย ต่างไม่ได้ไปร่วมรับฟังคำตัดสินศาล ทั้งคู่ มีเพียงทนายทั้ง 2 ฝ่ายและกองเชียร์เท่านั้น
ด้าน นายเอกชัย เรือนคำ ผู้อำนวยการ กกต.เชียงราย กล่าวว่าหลังศาลมีคำพิพากษาดังกล่าวทาง อบจ.เชียงรายจะต้องรายงานให้ ผวจ.เชียงราย ในฐานะประธาน(กกจ.)ลงนามคำสั่งให้พ้นจากตำแหน่งนายก อบจ.เพราะในคำพิพากษาระบุให้เพิกถอนสิทธิ์การเมือง10ปีต่อจากนั้นจึงเข้าสู่กระบวนการของ กกต.ในการจัดการเลือกตั้งซ่อมนายก อบจ.ขึ้นมาซึ่งกกต.มีความพร้อมทางด้านฐานข้อมูลและเจ้าหน้าที่สามารถจัดเลือกตั้งได้ตลอดเวลาแล้ว
สำหรับความคืบหน้ากรณีคณะกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.)มีมติแจกใบเหลืองให้ม.ร.ว.สุขุมพันธ์ บริพัตร ผู้ว่า กทม.จนมีเสียงวิจารณ์ว่าหวังกลบข่าวเอียงนั้น นายสมชัย ศรีสุทธิยากร กกต.ด้านบริหารการจัดการเลือกตั้ง ยืนยันว่ากกต.พิจารณาอย่างตรงไปตรงมาซึ่งมาจากการที่นายสุเทพ เทือกสุบรรณ ปราศรัยในพื้นที่วงเวียนใหญ่ ลานคนเมืองและสวนเบญจสิริโดย3ใน4 ครั้งน่าจะมีปัญหา การปราศรัยโน้มน้าวใจ เป็นการใส่ร้ายป้ายสี ทำนองว่าหากเลือกพล.ต.อ.พงศพัศ พงษ์เจริญ ผู้สมัครพรรคเพื่อไทย ก็อาจจะมีการตั้งรัฐไทยใหม่ หรือมีประธานาธิบดีชื่อทักษิณเป็นการกล่าวที่ไกลเกินความเป็นจริงยังไม่มีหลักฐานพิสูจน์ได้และบางประโยคได้กล่าวหาที่ทำให้เกิดความรู้สึกเกลียดชัง ผู้สมัครอีกฝ่าย นำไปสู่การเปลี่ยนแปลงคะแนนนิยมได้
นายสมชัย ยังระบุว่า คาดส่งเรื่องนี้ไปยังศาลอุทธรณ์ภาค1ได้ประมาณวันที่26-27 มี.ค.เพียงแค่ศาลรับคำร้อง ผู้ว่าฯกทม.ต้องยุติการทำหน้าที่และให้รองผู้ว่าฯกทม.ทำหน้าที่แทนซึ่งหากศาลตัดสิน ไม่เห็นด้วยกับ กกต.ทาง ผู้ว่าฯก็ปฏิบัติหน้าที่ต่อ แต่หากศาลตัดสินเห็นด้วยกับกกต.ตัดสินก็ต้องเลือกตั้งใหม่ใน45วัน
ขณะที่ นายองอาจ คล้ามไพบูลย์ รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ยืนยันว่าพรรคพร้อมเข้าสู่กระบวนการตรวจสอบ พร้อมจะปฏิบัติตาม รธน.มาตรา239ซึ่งได้เตรียมข้อมูล เอกสาร หลักฐานว่าคำปราศรัยอยู่บนข้อมูลที่เป็นจริงไม่ได้เป็นการใส่ร้ายป้ายสีแต่อย่างใด และการสอบสวนเบื้องต้นของ กกต กทม.ไม่ได้พิจารณาว่าเป็นการใส่ร้ายป้ายสี แต่ กกต.ใหญ่นั้นอาจจะมีข้อมูลไม่ครบถ้วนและพรรคพร้อมที่จะแก้ต่างข้อกล่าวหาทั้งหมด และยืนยันว่าไม่ใส่ร้ายป้ายสี
นายจารุพงศ์ เรืองสุวรรณ หัวหน้าพรรคเพื่อไทยและ รมว.มหาดไทยกล่าวเรื่องดังกล่าวว่า
คำตัดสินของกกต.ยังไม่ชัดเจนว่าต้องมีการเลือกตั้งใหม่หรือไม่ ยังไม่รู้ว่าศาลอุทธรณ์ภาค1จะใช้เวลาพิจารณาคดีนี้นานเท่าใด จึงยังไม่จำเป็นต้องคิดว่า พรรคจะส่งใครลงเลือกตั้ง เป็นเรื่องที่ไม่ต้องเอาไปคิดมากรอให้ถึงเวลานั้นก่อนค่อยตอบ ถ้าศาลเห็นว่าไม่ใช่ใบเหลือง ก็ไม่มีการเลือกตั้งใหม่ผู้ว่าฯ ยังทำหน้าที่ต่อไป
ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รมว.แรงงาน กล่าวเห็นว่าการที่ กกต.ให้ใบเหลืองม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้ว่าฯกทม.ว่ายังอีกไกล เพราะลูกชายตน กกต.มีมติ 5-0 ศาลยังยกคำร้องได้กรณีนี้แค่มติ3 -2 ไม่มีอะไรน่าตื่นเต้น จึงไม่ได้มองว่าเป็นเรื่องการเมืองหรือมีนอกมีในอะไร
พล.ต.อ.พงศพัศ พงษ์เจริญ รองผู้บัญชากรตำรวจแห่งชาติ(ผบ.ตร.)และเลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด(ป.ป.ส.)อดีตผู้สมัคร ผู้ว่า กทม.จากพรรคเพื่อไทยกล่าวถึงกรณี กกต.แจกใบเหลืองผู้ว่า กทม.ว่าเป็นเรื่องที่ดีที่ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์เอง ก็ยอมรับมติกกต.แต่คดีนี้ ยังต้องใช้เวลาอีกนาน ศาลน่าจะใช้เวลาในการพิจารณาไม่เกิน 6 เดือน หากศาลตัดสินให้มีการเลือกตั้งใหม่ ก็ต้องเปิดให้มีการเลือกตั้งผู้ว่าฯกทม.กันใหม่ ใครจะมาสมัครก็ได้ ทั้งคนเก่าหรือคนใหม่ ส่วนจะลงสมัครอีกหรือไม่ เป็นเรื่องของอนาคตที่ยังอีกไกล ยังไม่ทราบว่าพรรคเพื่อไทยจะส่งอีกหรือไม่ ต้องถามทางพรรคเพราะปัจจุบันตนเป็นข้าราชการประจำ ไม่มีสิทธิไปพูดเรื่องการเมือง
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี