หลังจาก นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง รองนายกรัฐมนตรีและรมว.คลัง ลงนามอนุมัติเบิกจ่ายงบกลางวงเงิน2 หมื่นล้านบาท เพื่อโอนให้ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) กระจายเงินไปยังสาขาต่างๆและจ่ายให้ชาวนาผู้มีใบประทวนนั้น
นายสุพัฒน์ เอี้ยวฉาย ผู้ช่วยผู้จัดการธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร(ธ.ก.ส.)เปิดเผยเมื่อวันที่ 19 มีนาคมว่า วันเดียวกันนี้ ที่ธ.ก.ส.สำนักงานใหญ่ บางเขน กลุ่มสมาพันธ์เครือข่ายชาวนาไทย นำโดย นายทวีศักดิ์ วีระศักดิ์ ประธานสมาพันธ์ฯ เข้ายื่นหนังสือเรียกร้องให้พิจารณาแก้ปัญหาถูกโรงสีกดราคารับซื้อข้าว และติดตามความคืบหน้าการจ่ายเงินงบกลาง 2 หมื่นล้านบาท ซึ่งธนาคารรับข้อเสนอไปพิจารณา โดยจะนำประเด็นที่ชาวนาถูกโรงสีเอาเปรียบกดราคารับซื้อข้าวเข้าหารือในที่ประชุมคณะกรรมการนโยบายข้าวแห่งชาติ(กขช.) ครั้งต่อไป เพื่อหาแนวทางช่วยเหลือ
2หมื่นล.ถึงมือชาวนา20มีค.
สำหรับการติดตามความคืบหน้าการจ่ายเงินชาวนานั้น นายสุพัฒน์ระบุว่า เมื่อวันที่ 18 มีนาคมที่ผ่านมา ธนาคารออกหนังสือถึงสาขา ธ.ก.ส.ทั่วประเทศ พร้อมจัดสรรเงินที่ได้รับมาจากงบกลาง 2 หมื่นล้านบาท ให้นำไปจ่ายชาวนา ซึ่งแต่ละสาขาจ่ายเงินได้เฉลี่ย 4,000 ล้านบาทต่อวัน โดยจ่ายตามใบประทวนที่ขึ้นไว้ก่อนวันที่ 9 ธันวาคม 2556 หรือก่อนการยุบสภา คาดมีชาวนาได้รับเงินประมาณ 100,000 ราย ยืนยันไม่เลือกปฎิบัติ คาดว่าสาขาจะจ่ายเงินถึงมือชาวนาได้วันที่ 20 มีนาคม ส่วนชาวนามีใบประทวนหลังวันที่ 9 ธันวาคม 2556 เหลือ 800,000 ราย เป็นเงินคงค้าง 90,000 ล้านบาท รัฐบาลยังไม่สามารถหาแหล่งเงินมาจ่ายชาวนาได้ขณะนี้
แห่ขอกู้รายละแสน3.4พันล.
นายสุพัฒน์กล่าวด้วยว่า ที่ผ่านมามีเกษตรกรเดือดร้อน เพราะได้เงินล่าช้า ทำให้แต่ละครัวเรือนประสบปัญหาขาดสภาพคล่องในการใช้จ่าย ไม่มีเงินมาลงทุนต่อ จนต้องไปกู้ยืมหนี้นอกระบบ ธนาคารจึงช่วยเหลือบรรเทาความเดือดร้อนดังกล่าว โดยออกโครงการสินเชื่อเพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของชาวนารายละไม่เกิน 1 แสนบาท ดอกเบี้ย 7% ต่อปี เริ่มโครงการเดือนกุมภาพันธ์ถึงขณะนี้ มีเกษตรกรมาขอสินชื่อแล้ว 4.7 หมื่นราย คิดเป็นมูลค่า 3,448 ล้านบาท
“ก่อนที่จะออกโครงการกู้รายละแสนนี้ ธนาคารช่วยเหลือชาวนาที่เดือดร้อน โดยจ่ายสินเชื่อ 20% ของใบประทวน ที่เริ่มเดือนธันวาคม 2556-กุมภาพันธ์ 2557 มีเกษตรกรมาขอสินเชื่อ 1.6 หมื่นราย คิดเป็นเงิน 570 ล้านบาท แต่ได้รับการร้องขอให้เพิ่มวงเงิน ธนาคารจึงทบทวนและเปิดโครงการดังกล่าว ทำให้เห็นว่ามีชาวนาเดือดร้อนมากจริงๆจากตัวเลขยื่นขอสินเชื่อถึง 3,448 ล้านบาท ในระยะเวลาเพียงเดือนเดียว”นายสุพัฒน์ กล่าว
ชาวนาพิษณุโลกตั้งตารอเงินจำนำ
ส่วนความคืบหน้าการจ่ายเงินให้ชาวนา ที่จ.พิษณุโลก ชาวนาจำนวนมากเดินทางไปรอดูลำดับการจ่ายเงินในโครงการจำนำข้าวที่ธ.ก.ส.สาขาเมืองพิษณุโลก หลังทราบข่าวรัฐบาลอนุมัติงบกลาง 2 หมื่นล้านบาทแล้ว แต่ก็ต้องผิดหวัง เนื่องจากยังไม่มีงบประมาณลงมาแต่อย่างใด
แห่กู้เงินรายละแสนยอดพุ่ง220ล.
ขณะเดียวกันชาวนาจำนวนหลายสิบราย นำเอกสารมายื่นขอกู้เงินกรณีพิเศษตามโครงการสินเชื่อเพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของชาวนาที่ ธ.ก.ส.ให้กู้อัตราดอกเบี้ยต่ำรายละไม่เกิน 1 แสนบาท โดยนายณัฐเดช แจ้งศิริ ผู้ช่วย ผอ.สำนักงาน ธ.ก.ส.พิษณุโลกเปิดเผยว่า ตั้งแต่เปิดโครงการต้นเดือนมีนาคมที่ผ่านมาถึงขณะนี้ มีชาวนามาขอกู้เงินรายละไม่เกิน 1 แสนไปแล้ว 220 ล้านบาท เพื่อเตรียมทุนไว้ทำนารอบใหม่และนำไปชำระหนี้นอกระบบ ส่วนกรณีข่าวแพร่สะพัดว่า มี ธ.ก.ส.ที่สาขาหนองตม และสาขาบางระกำ ตั้งเงื่อนไขว่า ชาวนาที่จะกู้เงิน 1 แสนบาท ต้องซื้อปุ๋ย ซื้อยากับธนาคารเป็นเงินจำนวน 7 พัน - 2 หมื่นบาท ยืนยันว่าธนาคารไม่มีนโยบายดังกล่าว ชาวนารายใดประสบเหตุร้องเรียนได้ทันที
พิมายแห่กู้ฉุกเฉินใช้หนี้ลงทุนใหม่
เช่นเดียวกับ ชาวนา ที่จ.นครราชสีมาจำนวนมากเดินทางมายื่นเรื่องขอกู้เงินฉุกเฉินที่ ธ.ก.ส.สาขาพิมาย รายละไม่เกิน 1 แสนบาท หรือคิดเป็น 70%ของรายได้ต่อผลผลิตเพื่อการขาย ดอกเบี้ยเฉลี่ยอยู่ที่ 7 เปอร์เซ็นต์ หลังต้องรอเงินจากโครงการรับจำนำข้าวที่ยังไม่ถึงตามลำดับคิวของใบประทวน เพื่อนำไปใช้จ่ายหนี้สินและเตรียมทำการเพาะปลูกรอบใหม่ ทั้งนี้ ขั้นตอนการจ่ายเงินให้เกษตรกรก็อยู่ในขั้นตอนการจ่ายเงินตามลำดับคิวของประทวน
ปชป.ซัดจำนำทุบราคาข้าวตกรูด
ด้านน.พ.วรงค์ เดชกิจวิกรม อดีต ส.ส.พิษณุโลก พรรคประชาธิปัตย์แถลงถึงปัญหาความเดือดร้อนของชาวนาขณะนี้ที่ต้องขายข้าวราคาถูกเพียงเกวียนละ 5,000 บาทว่า เกิดจากการระบายข้าวของรัฐบาล แต่นายนิวัฒน์ธำรง บุญทรงไพศาล รองนายกฯและรมว.พาณิชย์กลับออกมาอ้างว่าโครงการจำนำข้าวทำให้ราคาข้าวสูงขึ้น เป็นความพยายามแก้ตัว เพราะการระบายข้าวของรัฐบาลทำให้ข้าวราคาตก เนื่องจากระบายข้าวมาก ช่วงที่ชาวนาเกี่ยวข้าว ทำให้ราคาข้าวเปลือกเหลือเพียงเกวียนละ 7,000 บาท แต่ชาวนาเกี่ยวเสร็จขายเลย ถูกกดราคาเหลือเพียง 5,000 บาทเท่านั้น จึงขอให้นายนิวัฒน์ธำรงเลิกแถได้แล้ว นอกจากนี้ ผลจากการระบายข้าวของรัฐบาลยังมีเรื่องข้าวเสื่อมสภาพ และเวียนเทียนข้าวซ้ำเกิดขึ้นอีก ขณะที่ระบายข้าวในราคาถูกมาก กิโลกรัมละ 8 บาทเท่านั้น
แฉซ้ำรบ.ร่วมโกงจำนำทิ้งทวน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นพ.วรงค์นำภาพข้าวสีเหลือง หรือที่ชาวบ้านเรียกว่าข้าวฟันหนู แสดงว่าข้าวมีปัญหาเสื่อมคุณภาพมาประกอบการแถลง เพื่อยืนยันว่ารัฐบาลมีปัญหาในการดูแลข้าว ทำให้ต้องระบายข้าวราคาถูก เป็นการนำเงินประชาชนไปปู้ยี่ปู้ยำ อีกทั้ง มีกระบวนการทุจริตทิ้งทวน แทนที่นำข้าวไปปรับปรุงคุณภาพกลับนำข้าวไปเวียนเทียนส่งโกดังรัฐบาลโครงการปี 2556/2557 จึงไม่แปลกที่ประเทศจะล่มจมชาวนาเดือดร้อน เพราะรัฐบาลสมรู้ร่วมคิดให้เกิดการทุจริต
จี้“ปู”แจงปัญหาเวียนเทียนข้าว
ดังนั้น ตนขอเรียกร้องสำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) และคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ให้สอดส่องดูแลการระบายข้าวทุกแห่ง ตนยินดีให้ข้อมูลจะได้จับแบบคาหนังคาเขา และขอให้นายกฯ ในฐานะประธาน กขช.ออกมาชี้แจงปัญหาเวียนเทียนข้าวที่เกิดขึ้น ซึ่งเห็นชัดเจนว่าไม่ใช่ข้าวในโครงการ2555/2556 ตามที่กล่าวอ้าง แต่นำข้าวเก่ามายัดไส้แล้วนำข้าวใหม่ไปขาย ถือเป็นการเวียนเทียนซ้ำแล้วซ้ำเล่า ทั้งที่น.ส.ยิ่งลักษณ์ กำลังจะติดคุกจากการโกงจำนำข้าว แต่ก็ยังไม่เลิกพฤติกรรมโกงเป็นขบวนการ และมีนักการเมืองอยู่เบื้องหลัง
ปปช.จ่อถกขอคัดหลักฐานเพิ่ม
ด้านนายวิทยา อาคมพิทักษ์ รองเลขาธิการ ป.ป.ช.กล่าวว่า การประชุม ป.ป.ช.วันที่ 20 มีนาคม คณะทำงานไต่สวนถอดถอนน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี กรณีละเว้นปฏิบัติหน้าที่ตรวจสอบโครงการจำนำข้าว จะรายงานที่ประชุมกรณีทนายความนายกฯยื่นคำร้องขอคัดลอกพยานหลักฐานเพิ่มเติมคดีจำนำข้าว ซึ่งส่วนใหญ่เป็นหลักฐานที่ไม่เกี่ยวกับที่ป.ป.ช.แจ้งข้อกล่าวหาไป เช่น การวิจัยโครงการจำนำข้าว ซึ่งหาได้ทั่วไป ขึ้นอยู่กับที่ประชุมจะอนุญาตให้ทนายความคัดลอกหลักฐานเพิ่มหรือไม่ ทั้งนี้ ถ้านายกฯไม่มาชี้แจงข้อกล่าวหาภายในวันที่ 31 มีนาคม ตามที่ป.ป.ช.ขยายเวลาให้ 15วัน ถือว่าไม่ติดใจชี้แจงและจะไม่ขยายเวลาชี้แจงให้อีกแล้ว
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี