ซัด'ศอ.รส.'ออกแถลงเข้าข่ายกบฏ ใช้อำนาจบริหารก้าวล่วง'ตุลาการ'
วันพฤหัสบดี ที่ 17 เมษายน พ.ศ. 2557, 16.36 น.
Tag :
17 เม.ย.57 ที่พรรคประชาธิปัตย์ นายชวนนท์ อินทรโกมาลย์สุต โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ แถลงข่าวต่อสื่อมวลชน ถึงกรณีแถลงการณ์ของ ศอ.รส.เรื่อง "ข้อเรียกร้องต่อฝ่ายต่างๆ เพื่อการแก้ไขปัญหาความไม่สงบเรียบร้อย" ว่า ทางพรรคประชาธิปัตย์ เตรียมตรวจสอบแถลงการณ์ของ ศอ.รส.ที่มีการให้ร้ายองค์กรอิสระ และศาลรัฐธรรมนูญ รวมถึงมีคำแนะนำไม่ให้คณะรัฐมนตรี ปฏิบัติตามคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ และเสนอให้ขอพระบรมราชวินิจฉัย พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เกี่ยวกับสถานะรัฐบาลรักษาการณ์ ว่าเป็นมติของ ศอ.รส.จริงหรือไม่ เพราะเป็นการแถลงก่อนการประชุม โดย นายชัยเกษม นิติสิริ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม กับ นายธาริต เพ็งดิษฐ์ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ ซึ่งสอดคล้องกับความเห็นของนายชัยเกษมก่อนหน้านี้
ทั้งนี้ ตนได้รับข้อมูลหลายครั้งว่า การแถลงที่อ้างว่าเป็นมติ ศอ.รส.ในหลายครั้งที่ผ่านมา เป็นการดำเนินการโดยที่ที่ประชุม ศอ.รส.ไม่ได้มีมติแต่อย่างใด แต่กลับนำไปอ้างว่าเป็นมติของที่ประชุม ซึ่งแถลงการณ์ดังกล่าวถือว่าเป็นการทำลายประเทศไทยในภาพรวมอย่างยับเยิน เพราะมีการพาดพิงการทำงานของ ป.ป.ช.และศาลรัฐธรรมนูญ และยังบังอาจกระด้างกระเดื่อง โดยมีการสั่งการให้ ครม.ปฏิเสธคำตัดสินของศาลรัฐธรรมนูญ รวมทั้งแนะนำให้มีการขอพระบรมราชวินิจฉัยของ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ซึ่งตนเห็นว่า เป็นการกระทำที่ขัดกฎหมาย หรือเข้าข่ายกบฏ ซึ่งหากกรรมการ ศอ.รส.คนใดเข้าไปมีส่วนร่วมในการออกแถลงการณ์ครั้งนี้ ก็ต้องถูกดำเนินคดีด้วย
นอกจากนี้ พรรคจะติดตามอย่างใกล้ชิด เพื่อดำเนินคดีกับผู้คิดเป็นกบฏกับประเทศ รวมทั้งขอให้กำลังใจองค์กรตรวจสอบ และศาลรัฐธรรมนูญทำหน้าที่อย่างตรงไปตรงมา เพื่อรักษาความถูกต้องให้กับบ้านเมือง
นายชวนนท์ แถลงต่อว่า ตนมีข้อสังเกตถึงแถลงการณ์ดังกล่าวของ ศอ.รส.มี 8 ประการ ดังนี้ 1.คำแถลงดังกล่าว เป็นการทำงานเกินขอบเขตอำนาจหน้าที่ของ ศอ.รส. 2.บิดเบือนข้อเท็จจริงให้ร้ายองค์กรอื่นๆ อย่างไม่เป็นธรรม 3.ข่มขู่กระบวนการการถ่วงดุลของระบบการตรวจสอบตามรัฐธรรมนูญและกระบวนการยุติธรรม 4.คำแถลงดังกล่าว ศอ.รส.ตั้งตนเองเป็นศาลรัฐธรรมนูญ ตั้งตัวเป็นผู้วินิจฉัยเองว่าอะไรเป็นไปตามรัฐธรรมนูญ ถือเป็นการก้าวล่วงอำนาจตุลาการอย่างร้ายแรงของฝ่ายบริหาร
5.ปฏิเสธกระบวนการตามรัฐธรรมนูญของประเทศ 6.แถลงการณ์ดังกล่าว ได้โจมตีโครงสร้างอำนาจของระบอบประชาธิปไตยอย่างร้ายแรง จึงอาจจะเข้าข่ายข้อหากบฏ ซึ่งผู้ที่มีส่วนร่วมในการออกแถลงการณ์จึงมีความผิดด้วย ส่วนข้าราชการยังเข้าข่ายผิดวินัยร้ายแรง นอกจากนี้ฝ่ายการเมืองจะมีความผิดตามมาตรา 157 ฐานปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ ซึ่งทีมกฎหมายพรรคจะดำเนินคดีต่อไป 7.มีการกดดันพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว โดยนำปัญหารัฐบาลไปเป็นภาระของพระองค์ท่านซึ่งเป็นเรื่องที่ระคายเคืองเบื้องพระยุคลบาท และไม่บังควรอย่างยิ่ง
และ 8.น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม ในฐานะ ผอ.กอ.รมน.ต้องดำเนินคดีกับกรรมการ ศอ.รส.ที่ปฏิบัติหน้าที่เกินขอบเขต ทั้งทางวินัยและอาญา หากไม่ดำเนินการกับบุคคลเหล่านี้ เท่ากับรู้เห็นเป็นใจกับแถลงการณ์นี้ ซึ่งสอดคล้องกับการขอขยายเวลาในการชี้แจงต่อศาลรัฐธรรมนูญ ในคดีการสิ้นสภาพความเป็นนายกฯ จากการโยกย้าย นายถวิล เปลี่ยนศรี จากตำแหน่งเลขาธิการ สมช.ไปเป็นที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี โดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย ออกไปอีก 15 วัน