17 เม.ย.57 นายวสันต์ สร้อยพิสุทธิ์ อดีตประธานศาลรัฐธรรมนูญ เปิดเผยกรณีพรรคเพื่อไทยตั้งข้อสังเกตว่าศาลรัฐธรรมนูญไม่มีอำนาจรับวินิจฉัยสถานภาพนายกรัฐมนตรีสิ้นสุดลงตามรัฐธรรมนูญมาตรา 182 (7) เนื่องจากสถานะของนายกรัฐมนตรีได้สิ้นสุดลงนับแต่มีพระราชกฤษฎีกายุบสภาแล้วว่า ต้องถามว่า แล้วน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร รักษาการนายกรัฐมนตรียังปฏิบัติหน้าที่นายกรัฐมนตรีอยู่ต่อไปจนมีรัฐบาลใหม่เข้ามาใช่หรือไม่ และยังรับเงินเดือน ใช้รถประจำตำแหน่งอยู่ อีกทั้งยังคงทูลเกล้าฯการออกพระราชกฤษฎีกาต่างๆ ได้อยู่ รวมทั้งยังมีอำนาจสั่งการข้าราชการได้อยู่ เพียงแต่อำนาจถูกจำกัดลงโดยรัฐธรรมนูญมาตรา 181 เท่านั้นเอง
นายวสันต์ กล่าวว่า เหตุแห่งการวินิจฉัยยังมีอยู่ และอยู่ในอำนาจศาลรัฐธรรมนูญที่จะวินิจฉัย อย่างกรณีที่ก่อนหน้านี้ ส.ส.พรรคเพื่อไทยเข้าชื่อเสนอให้ประธานสภาผู้แทนราษฎรส่งเรื่องให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยสมาชิกภาพการเป็นส.ส.ของนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ จากกรณีกระทรวงกลาโหมมีคำสั่งปลด ร.ต.อภิสิทธิ์ ออกจากราชการทหาร ศาลรัฐธรรมนูญก็มีคำสั่งรับวินิจฉัย แต่เมื่อมีการยุบสภา ศาลรัฐธรรมนูญก็ต้องสั่งจำหน่ายคดี เพราะเหตุแห่งการวินิจฉัยคดีหมดไปแล้ว ไม่ได้เป็นส.ส. ไม่ได้รักษาการ ส.ส. ที่ยังรับเงินเดือน หรือได้รับสิทธิพิเศษของการเป็นส.ส.อยู่
“ดังนั้นมีการกล่าวหาว่าศาลรัฐธรรมนูญสองมาตรฐานรับวินิจฉัยเรื่องของนายกรัฐมนตรี แต่กลับไม่พิจารณาเรื่องของนายอภิสิทธิ์ จึงไม่ถูกต้อง เพราะถ้าจะบอกว่าสองมาตรฐาน รายละเอียดของเรื่องทั้งสองเรื่องต้องเหมือนกันทุกกรณี แต่ตัดสินต่างกัน ซึ่งกรณีน.ส.ยิ่งลักษณ์ กับนายอภิสิทธิ์นั้นต่างกัน”
นายวสันต์ กล่าวต่อไปว่า กรณีนี้ศาลปกครองสูงสุดจะมีคำพิพากษาว่าการแต่งตั้งโยกย้ายนายถวิลไม่ชอบด้วยกฎหมาย แต่ประเด็นที่ศาลรัฐธรรมนูญจะวินิจฉัยเป็นเรื่องที่ผู้ร้องๆ ว่านายกรัฐมนตรีใช้ตำแหน่งหน้าที่เข้าไปแทรกแซง ก้าวก่าย เพื่อเอื้อประโยชน์ตนเองและพวกพ้อง ไม่ว่าทางตรงหรือทางอ้อม ซึ่งก็เป็นอีกเรื่องหนึ่งจะผิดไม่ผิดยังไม่รู้ ไม่เหมือนกับกรณียุบพรรคพลังประชาชนที่เมื่อศาลฎีกาตัดสินว่าผู้สมัครซึ่งเป็นกรรมการบริหารพรรคกระทำผิดฐานทุจริตเลือกตั้ง รัฐธรรมนูญมาตรา 237 กำหนดไว้ให้ต้องยุบพรรค ศาลรัฐธรรมนูญจึงวินิจฉัยเป็นอย่างอื่นไม่ได้
เมื่อถามว่า นายกฯระบุว่าได้คืนตำแหน่งเลขาธิการ สมช.ให้แก่นายถวิล ตามคำพิพากษาศาลปกครองสูงสุดแล้ว นายวสันต์ กล่าวว่า กรณีมีคนขโมยของในห้างสรรพสินค้า แล้วต่อมาเอาของไปคืนโดยวางไว้ในที่เดิม ถือว่าความผิดที่ได้ทำหมดไปหรือไม่ ในทางกฎหมายถือว่า ความผิดสำเร็จไปแล้ว แต่การนำของมาคืนถือเป็นเหตุให้บรรเทาโทษเท่านั้น
ส่วนตัวเห็นว่าถ้าศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์กระทำขัดรัฐธรรมนูญจริง ความเป็นนายกฯก็ต้องสิ้นสุดลงทันที เพราะตามรัฐธรรมนูญถือว่าเป็นการสิ้นสุดลงเฉพาะตัวจะอยู่รักษาการก็ไม่ได้ และแม้โดยปกติ เมื่อนายกฯพ้นจากตำแหน่งก็จะมีผลให้คณะรัฐมนตรีพ้นไปทั้งคณะด้วย แต่กรณีนี้เป็นการสิ้นสุดลงเฉพาะตัว ครม.จะพ้นไปทั้งคณะด้วยหรือไม่ ก็ต้องไปดูรัฐธรรมนูญมาตรา 181 ที่บัญญัติให้ครม.ที่พ้นจากตำแหน่ง ต้องอยู่ตำแหน่งเพื่อปฏิบัติหน้าที่ต่อไปจนกว่าคณะรัฐมนตรีที่ตั้งขึ้นใหม่จะเข้ารับหน้าที่
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี