'ชวนนท์'ชี้ศอ.รส.ประจานรัฐบาล วอนปปช.-ศาลรธน.-กกต.ทำสิ่งถูก
วันศุกร์ ที่ 18 เมษายน พ.ศ. 2557, 14.03 น.
Tag :
18 เม.ย. 57 ที่พรรคประชาธิปัตย์ นายชวนนท์ อินทรโกมาลย์สุต โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ แถลงข่าวต่อสื่อมวลชน ถึงกรณีแถลงการณ์ของ ศอ.รส.เรื่อง "ข้อเรียกร้องต่อฝ่ายต่างๆ เพื่อการแก้ไขปัญหาความไม่สงบเรียบร้อย" เมื่อวานนี้ (17 เม.ย.)โดยในแถลงการณ์ดังกล่าว มีเนื้อหาที่โจมตีกระบวนการยุติธรรมและหลักการการปกครองของประเทศว่า แถลงการณ์ดังกล่าว เป็นแถลงการณ์ที่ตอกย้ำความล้มเหลวของรัฐบาลพรรคเพื่อไทย ที่ก้าวก่ายอำนาจตุลาการ คิดล้มล้างอำนาจศาลและระบบกระบวนการยุติธรรม สะท้อนให้เห็นถึงวิกฤตการเมืองในปัจจุบันนี้ เพราะฝ่ายบริหารไม่ยอมรับระบบการตรวจสอบ ถ่วงดุล เมื่อถึงภาวะจนตรอกก็คิดสั้นถึงขนาดคิดกระทำการระคายเคืองเบื้องพระยุคลบาท ด้วยการเสนอให้พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงมีพระบรมราชวินิจฉัยเพื่อปฏิเสธคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญที่กระทำภายใต้พระปรมาภิไธย ชี้ถึงการหมดความชอบธรรมของรัฐบาลของ น.ส. ยิ่งลักษณ์ ทั้งนี้เชื่อว่า หากรัฐบาลไม่สามารถใช้อำนาจหรือบิดเบือนกฎหมายได้ก็จะใช้มวลชนมาสร้างความรุนแรง ในขณะที่ ศอ.รส.ซึ่งมีหน้าที่ดูแลความมั่นคงกลับออกแถลงการณ์กระทำตนเป็นรัฏฐาธิปัตย์เสียเอง
นายชวนนท์ แถลงต่อว่าแถลงการณ์ดังกล่าวพาดพิงถึงหลายหน่วยงานของภาครัฐและองค์กรอิสระตามรัฐธรรมนูญ เช่น
1) คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ทางพรรคประชาธิปัตย์ ขอเรียกร้องให้ ป.ป.ช. ทำหน้าที่ตรงไปตรงมาบนผลประโยชน์ชาติเป็นที่ตั้ง เพื่อใช้เป็นเกราะกำบังป้องกันไม่ให้ถูกกล่าวหา เพราะในขณะนี้มีกระบวนการบิดเบือน ว่า ป.ป.ช. ตัดสินคดีสองมาตรฐานระหว่างพรรคฝ่ายค้านกับรัฐบาลนั้น ไม่เป็นความจริง เพราะที่ผ่านมา ป.ป.ช.เคยชี้มูลให้ถอดถอนนายสุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการ กปปส. กรณีมีคำสั่งแต่งตั้งให้ ส.ส.ไปช่วยงานที่กระทรวงวัฒนธรรม โดยเห็นว่าขัดรัฐธรรมนูญมาแล้ว
2) พรรคประชาธิปัตย์ขอเรียกร้องให้ ศาลรัฐธรรมนูญ ยึดตัวบทกฎหมายเป็นทางออกของประเทศ เพราะคำร้องให้วินิจฉัยสถานภาพของ นายกรัฐมนตรี ศาลปกครองได้ตัดสินไปแล้ว เหลือเพียงการชี้มูลการกระทำต้องห้ามตามมาตรา 268 ซึ่งเป็นการใช้อำนาจตารมกรอบของรัฐธรรมนูญ ไม่ได้มีการทำเกินอำนาจตามที่ ศอ.รส.กล่าวหา
3) ศอ.รส.ออกแถลงการณ์ข่มขู่คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ให้กำหนดวันเลือกตั้งโดยเร็วเพื่อนำความสงบสู่สังคม ซึ่งเป็นการบิดเบือนข้อเท็จจริง เนื่องจากหากยังไม่มีการหารือถึงช่องว่างและปัญหาที่เกิดขึ้นเพื่อจัดการเลือกตั้งให้เป็นไปโดยสงบและยุติธรรมการเลือกตั้งก็เกิดยาก ดังนั้นหากจะกำหนดแค่วันเลือกตั้งโดยไม่มีการแก้ปัญหาจะไม่มีประโยชน์จึงขอให้ กกต.หารือเกี่ยวกับกระบวนการเลือกตั้งให้ชัดเจนว่าต้องเป็นไปด้วยความเรียบร้อย หาเสียงได้ทั่วประเทศ ทางพรรคก็ยินดีให้ความร่วมมือ
4) ในแถลงการณ์ของ ศอ.รส.ที่พาดพิงถึงองค์กร หน่วยราชการและเจ้าหน้าที่รัฐ ถือเป็นการดูหมิ่นข้าราชการประจำจากฝ่ายการเมือง เช่น ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงานและ ผอ.ศอ.รส. ที่ประกาศขู่จะย้าย น.พ. ณรงค์ สหเมธาพัฒน์ ปลัดกระทรวงสาธารณสุข เมื่อมีอำนาจเต็มหรือกรณีที่นายสุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงต่างประเทศ ก็ได้พูดจาดูถูกข้าราชการประจำหลายครั้งจึงขอเรียกร้องให้ข้าราชการปฏิเสธการใช้อำนาจที่ผิด และขอให้ประชาชนมั่นคงกับสถานการณ์โดยยึดหลักประโยชน์ชาติเป็นที่ตั้งเพื่อร่วมต่อสู้กับอำนาจรัฐที่ฉ้อฉลโดยคนกลุ่มเดียวที่พยายามทำตัวอยู่เหนือกฎหมาย เพื่อรักษาอำนาจรัฐไว้กับตัวต่อไป
นอกจากนี้ นายชวนนท์ ยังระบุด้วยว่า การพิจารณาข้อกฎหมายเพื่อดำเนินคดีกับ ศอ.รส. ต่อแถลงการณ์ดังกล่าวนั้น ตนมองว่า ฝ่ายการเมืองที่เข้าข่ายกระทำความผิดกฎหมายอาญามาตรา 113 ข้อหากบฏ คือ นายสุรพงษ์ ร.ต.อ.เฉลิม นายชัยเกษม นิติสิริ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ส่วนข้าราชการประจำเบื้องต้นมีนายธาริต เพ็งดิษฐ์ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ ที่อาจเข้าข่ายทำผิดประมวลกฎหมายอาญามาตรา 157 ด้วย ทั้งนี้เห็นว่าแถลงการณ์ของศอ.รส.ซึ่งเป็นองค์กรควบคุมทหาร ตำรวจและเจ้าหน้าที่รัฐในการบังคับใช้กฎหมาย แต่กลับมีการแสดงเจตนาล้มล้างอำนาจศาลหรือปฏิเสธอำนาจศาลก็ถือว่าเข้าข่ายผิดกฎหมายอาญาซึ่งประชาชนสามารถแจ้งความดำเนินคดีได้ทั่วประเทศ