วงเสวนาคปท.ยืนกรานม.7ทำได้ โวตามกม.ปัดนายกฯพระราชทาน
วันเสาร์ ที่ 19 เมษายน พ.ศ. 2557, 18.57 น.
Tag :
18 เม.ย. 57 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 15.00 น. ที่เวทีเครือข่ายนักศึกษาประชาชนปฏิรูปประเทศไทย(คปท.) จัดเสวนาทางวิชาการในหัวข้อ "เหลียวหลังแลหน้า นายกฯมาตรา7 กับ ทางออกการเมืองไทย" โดยมีนักวิชาการที่เกี่ยวข้องเข้าร่วม
โดยนายสมบัติ ธำรงธัญวงศ์ อดีตอธิการบดี สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์(นิด้า) กล่าวว่า ในสมัยจอมพลถนอม กิตติขจร นายกรัฐมนตรี และใช้ธรรมนูญปกครองแผ่นดินเป็นกฎหมายในการปกครองประเทศ และภายหลังเหตุการณ์วันมหาวิปโยค จอมพลถนอม ลาออกจากตำแหน่งและเดินทางออกนอกประเทศ ทำให้รองประธานสภานิติบัญญัติแห่งชาติในสมัยนั้น กราบบังคมทูลเสนอนายสัญญา ธรรมศักดิ์ เป็นนายกรัฐมนตรี ตามธรรมนูญปกครองที่มีอยู่ในขณะนั้น จึงไม่ใช่นายกพระราชทาน การที่หลายคนไปเรียกแบบนั้นเพราะมาจากสื่อมวลชนที่ต้องการใช้คำเรียกง่ายๆแต่สมัยนั้นคนยังไม่ติดใจอะไร เพราะเพียงขัดแย้งกับผู้นำทางทหาร
นายสมบัติ กล่าวอีกว่า ตามรัฐธรรมนูญ 2550 ให้ผู้ชุมนุมได้ใช้สิทธิเสรีภาพในการชุมนุมโดยสงบปราศจากอาวุธ และมีสิทธิต่อต้านรัฐบาล มาตรา 69 ที่ระบุว่าบุคคลย่อมมีสิทธิต่อต้านโดยสันติวิธี ซึ่งการกระทำใดๆที่เป็นไปเพื่อได้มาซึ่งอำนาจการปกครองประเทศซึ่งมิได้เป็นไปตามวิถีทางที่บัญญัติไว้ในรัฐธรรมนูญนี้ เพราะรัฐบาลทำความผิดไว้หลายอย่าง ตั้งแต่ออกกฎหมายนิรโทษกรรม แก้ไขรัฐธรรมนูญที่มาของ สว. แก้ไขมาตรา 190 เพื่อพรรคพวกตนเอง หรือโกงเงินของชาวนา เมื่อรัฐบาลใช้อำนาจเพื่อประโยชน์ของตัวเอง เป็นรัฐบาลทรราชย์ ประชาชนสามารถโค่นล้มได้ เพราะอำนาจอธิปไตยเป็นของปวงชนชาวไทย ซึ่งการต่อต้านก็คือการโค่นล้มรัฐบาลอยู่แล้ว จะให้มาชื่นชมคงไม่ใช่ ส่วนมาตรา 7 จะถือเป็นขั้นตอนท้ายๆที่จะตามมา ตอนนี้คือการเดินหน้าล้มรัฐบาลโดยใช้มาตรา69
"ส่วนการรักษาการนายกรัฐมนตรีทำได้ 2 กรณีคืออยู่ครบวาระ หรือมีการยุบสภา ถ้าหากศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยให้สถานภาพนายกรัฐมนตรีสิ้นสุดลง ไม่สามารถรักษาการต่อได้ ก็ต้องเลือกกันใหม่สภา แต่เมื่อสภาเลือกไม่ได้เพราะไม่มีผู้แทน ถึงตอนนั้นจะเกิดสูญญากาศ" นายสมบัติ กล่าว
ขณะที่นายทวี สุรฤทธิกุล อาจารย์คณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช และทีมยุทธศาสตร์ กปปส. กล่าวว่า กปปส. คงจะไม่รอผลคำวินิจฉัยสถานภาพของนายกรัฐมนตรี หรือการชี้มูลความผิดนายกฯจาก ป.ป.ช. เพราะพฤติการณ์ของทรรราชย์เกิดขึ้นแล้ว และภายในอีก 1-2 วัน นายสุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการ กปปส. คงมีการประกาศชัดเจนเพื่อแสดงความรู้สึกถึงการไม่เอารัฐบาลนี้ให้ชัดๆอีกครั้งหนึ่ง เราจะสถาปนาอำนาจการปกครองในระบอบประชาธิปไตย ให้เสร็จสิ้นในเร็วๆนี้ ขอชี้แจงว่าขณะนี้รัฐบาลไม่มีแล้ว อำนาจที่มีได้กลับคืนสู่ประชาชนแล้ว แต่เราต้องการปฏิรูปก่อนเลือกตั้ง รัฏฐาธิปัตย์มาอยู่ในมือแล้ว ขั้นตอนต่อไปเราจะใช้อำนาจนี้อย่างไร สำหรับมาตรา 7 มีไว้ในสถานการณ์ที่ไม่รองรับในรัฐธรรมนูญ ซึ่งขณะนี้สามารถใช้มาตรา 7 ได้ ซึ่งจะให้ศาลหรือวุฒิสภานำเสนอนายกฯก็ทำได้ ส่วนตัวมองว่าสถาบันศาลสามารถทำได้ จึงไม่จำเป็นต้องรอกระบวนการศาลรัฐธรรมนูญ เพราะความสมบูรณ์ของอำนาจอยู่ในมือประชาชนแล้ว
ด้านนายพิเชษฐ พัฒนโชติ อดีตรองประธานวุฒิสภา กล่าวว่า ตอนนี้พวกรัฐบาลก็ยอมรับในเรื่องมาตรา7แล้ว แสดงว่าใช้ได้ ถ้าศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยให้นายกรัฐมนตรีสิ้นสภาพหมายถึงสิ้นสุดทั้งคณะ แต่ถ้าเขาดื้อด้านก็เป็นอำนาจที่ประชาชนจะเปลี่ยนแปลง ทั้งนี้ ในอดีตที่ผ่านจากเหตุการณ์ 14 ตุลา และพฤษภาทมิฬ การเสนอนายกฯในแต่ละช่วงไม่เคยมีการประชุมสภา เป็นเรื่องของประมุขฝ่ายนิติบัญญัติ เป็นอำนาจชอบธรรมทูลเกลัาได้