“กปปส.”พึ่งพุทธคุณ
พิชิตมาร
ปลุกเสกพระกระหึ่ม
นิมนต์เกจิอาจารย์ดังเพียบ
สร้างขวัญกำลังใจยกสุดท้าย
นปช.รอจังหวะพร้อมชุมนุม
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 14.39 น. วันที่ 19 เมษายน ที่เวทีคณะกรรมการประชาชนเพื่อการเปลี่ยนแปลงประเทศไทยให้เป็นประชาธิปไตยที่สมบูรณ์อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข (กปปส.) สวนลุมพินี นายสุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการ กปปส. พร้อมด้วยคณะแกนนำ อาทิ นายอิสสระ สมชัย, นายพุทธิพงษ์ ปุณณกันต์, นายวิทยา แก้วภราดัย, นายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย และนายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ ร่วมกันประกอบพิธีพุทธาภิเษกพระพุทธประชานฤมิตรพิชิตมาร ซึ่งถือเป็นฤกษ์ดีวันเสาร์ 5 เหมาะสำหรับการปลุกเสกวัตถุมงคลต่างๆ ท่ามกลางมวลชนที่มารอร่วมพิธีภายในสวนลุมพินีอย่างคับคั่ง
นิมนต์พระดังปลุกเสกเพียบ
โดยนายสุเทพ ได้เป็นประธานในการจุดธูปเทียนบูชา โต๊ะเครื่องบวงสรวงแบบพราหมณ์ โดยมีคณะพราหมณ์ เข้าร่วมพิธีจาก จ.ตรัง 3 คน และต่อมาได้ร่วมทำพิธีสงฆ์ พร้อมนิมนต์พระภิกษุจำนวน 9 รูป นำโดยพระครูโสภิตมงคลการ(หลวงปู่ขันธ์ สิริวณฺโณ) วัดมงคลโสภิต อ.บ้านโพธิ์ จ.ฉะเชิงเทรา เป็นประธานฝ่ายสงฆ์ และพระพรหมมังคลาจารย์ (เจ้าคุณธงชัย) วัดไตรมิตรวิทยารามวรวิหาร เป็นเจ้าคณะพิธี และพระสงฆ์จาก วัดกัลยาณมิตรร่วมเจริญพระพุทธมนต์ เพื่อเจริญน้ำพระพุทธมนต์ให้กับประชาชน ซึ่งระหว่างการประกอบพิธีไม่อนุญาตให้สื่อมวลชน และประชาชนเข้ามาในพื้นที่ เพื่อความสะดวกและความศักดิ์สิทธิ์ของพิธีกรรม
นอกจากนี้ยังมีพระเกจิอาจารย์ชื่อดัง ร่วมกันอธิษฐานจิตเพื่อบริกรรมคาถา ตามพิธีทางพระพุทธศาสนาก่อนจะมีพิธี ดับเทียนชัย เบิกเนตรพระพุทธประชานฤมิตรพิชิตมาร เพื่อความสมบูรณ์ของพิธี ความเป็นสิริมงคล และถือเป็นสร้างขวัญกำลังใจก่อนจะมีการชุมใหญ่
ทั้งนี้ หลังจากประกอบพิธีเสร็จกลุ่ม กปปส. จะนำพระพุทธรูปองค์ดังกล่าวประดิษฐาน ณ สวนลุมพินีเพื่อให้ประชาชนสามารถกราบสักการะขอพรและเป็นเครื่องยึดเหนี่ยวจิตได้ตลอดเวลา
ด้านนายสาธิต กล่าวว่า หลังจากเสร็จสิ้นพิธีพุทธาภิเษกในครั้งนี้ ทาง กปปส.จะยังคงประดิษฐาน พระพุทธะประชานฤมิตรพิชิตมาร ไว้ภายในสวนลุมพินี ก่อนจะมีการอัญเชิญออกมาหลังการชุมนุมต่อสู้เพื่อให้ได้รับชัยชนะ
หลวงปู่ปรุงอาหาร2เมนูเด็ด
วันเดียวกัน ที่เวที กปปส.แจ้งวัฒนะ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลวงปู่พุทธะอิสระ ไม่ได้นำกลุ่มมวลชนเคลื่อนไหวออกนอกจากพื้นที่ เนื่องจากมีการสั่งงดกิจกรรมเวทีชั่วคราวเพื่อเปิดโอกาสให้ผู้ชุมนุมกลับบ้านในช่วงหยุดยาวเทศกาลสงกรานต์ โดยตั้งแต่ช่วงเช้าหลวงปู่ฯ ได้นำมวลชนสวดมนต์ และทำวัตรเช้า ก่อนจะรับหน้าที่เป็นพ่อครัวปรุงอาหาร 2 เมนู คือ ปลาทูผัดพริกแกงและต้มจับฉ่ายสูตรไหหลำ เพื่อเลี้ยงผู้ชุมนุมโดยมีผู้ชุมนุมตั้งแถวรอรับอาหารจำนวนมาก
ขณะเดียวกัน บริเวณพื้นที่ชุมนุมมีการนำผลผลิตทางการเกษตรมาวางจำหน่ายสร้างรายได้ให้เกษตรกร อาทิ ลิ้นจี่ มันสำปะหลัง กล้วย ฯลฯ ส่วนชาวนาที่เดินทางกลับมาร่วมชุมนุมได้นำข้าวเปลือกมาสีที่โรงสีข้าวชั่วคราว พร้อมบรรจุถุงจำหน่าย ขณะที่บางส่วนได้เรียนรู้การเกษตรแบบผสมผสานจากการจัดทำบ่อเลี้ยงปลาสาธิต การเลี้ยงไก่ โดยได้นำรำข้าวจากการสีช้าวเปลือกมาหมุนเวียนใช้เป็นอาหารสัตว์ นอกจากนี้ ยังเข้ารับการอบรมการผลิตน้ำมันรำข้าว และน้ำมันไบโอดีเซล จากน้ำมันที่ใช้แล้วด้วย
ส่วนในช่วงบ่ายหลวงปู่ฯ ได้นำมวลชนทำกิจกรรมทางธรรม เช่น การสวดมนต์ และฝึกการทำกรรมฐาน เพื่อให้เรียนรู้การทำจิตใจให้นิ่ง สงบ และฟื้นฟูร่างกายให้แข็งแรงจากภายใน
เสื้อแดงพร้อมชุมนุมทันที
ด้าน นายวรชัย เหมะ อดีต ส.ส.สมุทรปราการ แกนนำแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ(นปช.) กล่าวว่า สถานการณ์การเมืองตอนนี้เริ่มพลิกเข้าทางฝ่ายประชาธิปไตยมากขึ้น ประชาชนทั่วไปเริ่มเบื่อหน่าย ไม่เอาฝ่ายอำมาตย์ องค์กรอิสระ ไม่เอาขบวนการแช่แข็งประเทศ ต้องการเห็นการเลือกตั้งเกิดขึ้นเสียที ขณะเดียวกันนานาชาติทั้งจากทวีปอเมริกา ยุโรป หรือแม้แต่เอเชีย ก็มองเข้ามาด้วยความเป็นห่วง รับไม่ได้กับหลายสิ่งหลายอย่างที่กำลังเกิดขึ้นในประเทศไทย ฉะนั้นเชื่อมั่นว่าฝ่ายอำมาตย์และพวกไม่มีทางชนะฝ่ายประชาธิปไตยแน่นอน
“การชุมนุมใหญ่ของ นปช.ครั้งต่อไปรับรองว่าคนจะมาแบบล้นหลาม แต่จะชุมนุมวันไหนต้องรอดูศาลรัฐธรรมนูญ ถ้าศาลรัฐธรรมนูญตัดสินสถานภาพความเป็นนายกฯ ของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม สืบเนื่องจากการโยกย้าย นายถวิล เปลี่ยนศรี เลขาธิการ สมช.วันใด เราจะชุมนุมล่วงหน้า 1 วัน การชุมนุมของ นปช.ครั้งต่อไปศาลรัฐธรรมนูญจะเป็นคนนัดให้” นายวรชัย กล่าว
วงเสวนา คปท.ชี้ มาตรา7 ทำได้
เมื่อ เวลา 15.00 น. ที่เวทีเครือข่ายนักศึกษาประชาชนปฏิรูปประเทศไทย(คปท.) จัดเสวนาทางวิชาการในหัวข้อ "เหลียวหลังแลหน้า นายกฯมาตรา7 กับ ทางออกการเมืองไทย" โดยมีนักวิชาการที่เกี่ยวข้องเข้าร่วม
โดยนายสมบัติ ธำรงธัญวงศ์ อดีตอธิการบดี สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์(นิด้า) กล่าวว่า ในสมัยจอมพลถนอม กิตติขจร นายกรัฐมนตรี และใช้ธรรมนูญปกครองแผ่นดินเป็นกฎหมายในการปกครองประเทศ และภายหลังเหตุการณ์วันมหาวิปโยค จอมพลถนอม ลาออกจากตำแหน่งและเดินทางออกนอกประเทศ ทำให้รองประธานสภานิติบัญญัติแห่งชาติในสมัยนั้น กราบบังคมทูลเสนอนายสัญญา ธรรมศักดิ์ เป็นนายกรัฐมนตรี ตามธรรมนูญปกครองที่มีอยู่ในขณะนั้น จึงไม่ใช่นายกพระราชทาน การที่หลายคนไปเรียกแบบนั้นเพราะมาจากสื่อมวลชนที่ต้องการใช้คำเรียกง่ายๆแต่สมัยนั้นคนยังไม่ติดใจอะไร เพราะเพียงขัดแย้งกับผู้นำทางทหาร
ต้องเดินหน้าล้มรัฐบาล
นายสมบัติ กล่าวอีกว่า ตามรัฐธรรมนูญ 2550 ให้ผู้ชุมนุมได้ใช้สิทธิเสรีภาพในการชุมนุมโดยสงบปราศจากอาวุธ และมีสิทธิต่อต้านรัฐบาล มาตรา 69 ที่ระบุว่าบุคคลย่อมมีสิทธิต่อต้านโดยสันติวิธี ซึ่งการกระทำใดๆที่เป็นไปเพื่อได้มาซึ่งอำนาจการปกครองประเทศซึ่งมิได้เป็นไปตามวิถีทางที่บัญญัติไว้ในรัฐธรรมนูญนี้ เพราะรัฐบาลทำความผิดไว้หลายอย่าง ตั้งแต่ออกกฎหมายนิรโทษกรรม แก้ไขรัฐธรรมนูญที่มาของ สว. แก้ไขมาตรา 190 เพื่อพรรคพวกตนเอง หรือโกงเงินของชาวนา เมื่อรัฐบาลใช้อำนาจเพื่อประโยชน์ของตัวเอง เป็นรัฐบาลทรราชย์ ประชาชนสามารถโค่นล้มได้ เพราะอำนาจอธิปไตยเป็นของปวงชนชาวไทย ซึ่งการต่อต้านก็คือการโค่นล้มรัฐบาลอยู่แล้ว จะให้มาชื่นชมคงไม่ใช่ ส่วนมาตรา 7 จะถือเป็นขั้นตอนท้ายๆที่จะตามมา ตอนนี้คือการเดินหน้าล้มรัฐบาลโดยใช้มาตรา69
"ส่วนการรักษาการนายกรัฐมนตรีทำได้ 2 กรณีคืออยู่ครบวาระ หรือมีการยุบสภา ถ้าหากศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยให้สถานภาพนายกรัฐมนตรีสิ้นสุดลง ไม่สามารถรักษาการต่อได้ ก็ต้องเลือกกันใหม่สภา แต่เมื่อสภาเลือกไม่ได้เพราะไม่มีผู้แทน ถึงตอนนั้นจะเกิดสูญญากาศ" นายสมบัติ กล่าว
จ่อเผด็จศึกก่อนปปช.ชี้มูล”ปู”
ขณะที่นายทวี สุรฤทธิกุล อาจารย์คณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช และทีมยุทธศาสตร์ กปปส. กล่าวว่า กปปส. คงจะไม่รอผลคำวินิจฉัยสถานภาพของนายกรัฐมนตรี หรือการชี้มูลความผิดนายกฯจาก ป.ป.ช. เพราะพฤติการณ์ของทรรราชย์เกิดขึ้นแล้ว และภายในอีก 1-2 วัน นายสุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการ กปปส. คงมีการประกาศชัดเจนเพื่อแสดงความรู้สึกถึงการไม่เอารัฐบาลนี้ให้ชัดๆอีกครั้งหนึ่ง เราจะสถาปนาอำนาจการปกครองในระบอบประชาธิปไตย ให้เสร็จสิ้นในเร็วๆนี้ ขอชี้แจงว่าขณะนี้รัฐบาลไม่มีแล้ว อำนาจที่มีได้กลับคืนสู่ประชาชนแล้ว แต่เราต้องการปฏิรูปก่อนเลือกตั้ง รัฏฐาธิปัตย์มาอยู่ในมือแล้ว ขั้นตอนต่อไปเราจะใช้อำนาจนี้อย่างไร สำหรับมาตรา 7 มีไว้ในสถานการณ์ที่ไม่รองรับในรัฐธรรมนูญ ซึ่งขณะนี้สามารถใช้มาตรา 7 ได้ ซึ่งจะให้ศาลหรือวุฒิสภานำเสนอนายกฯก็ทำได้ ส่วนตัวมองว่าสถาบันศาลสามารถทำได้ จึงไม่จำเป็นต้องรอกระบวนการศาลรัฐธรรมนูญ เพราะความสมบูรณ์ของอำนาจอยู่ในมือประชาชนแล้ว
ด้านนายพิเชษฐ พัฒนโชติ อดีตรองประธานวุฒิสภา กล่าวว่า ตอนนี้พวกรัฐบาลก็ยอมรับในเรื่องมาตรา7แล้ว แสดงว่าใช้ได้ ถ้าศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยให้นายกรัฐมนตรีสิ้นสภาพหมายถึงสิ้นสุดทั้งคณะ แต่ถ้าเขาดื้อด้านก็เป็นอำนาจที่ประชาชนจะเปลี่ยนแปลง ทั้งนี้ ในอดีตที่ผ่านจากเหตุการณ์ 14 ตุลา และพฤษภาทมิฬ การเสนอนายกฯในแต่ละช่วงไม่เคยมีการประชุมสภา เป็นเรื่องของประมุขฝ่ายนิติบัญญัติ เป็นอำนาจชอบธรรมทูลเกลัาได้
สุเทพเดินสีลมเชิญชวนไล่ปู
นายเอกนัฎ พร้อมพันธุ์ โฆษก กปปส. เปิดเผยว่า วันที่ 20 เม.ย. เวลา 10.00 น. นายสุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการ กปปส. จะนำผู้ชุมนุมเดินเท้าออกจากสวนลุมพินี เข้าถนนสีสม ผ่านถนนนราธิวาสราชนครินทร์ มุ่งหน้าถนนจันทน์ และที่ศูนย์การค้าเอเชียทีค ถนนเจริญกรุง รวมระยะทาง 8 กิโลเมตร
ทั้งนี้ การเดินขบวนดังกล่าวเพื่อเชิญชวนให้ประชาชนออกมาร่วมชุมนุมใหญ่ครั้งสุดท้ายกับ กปปส. อย่างไรก็ตาม การเคลื่อนไหวของ กปปส. หลังจากนี้จะเคลื่อนไหวทุกวันไม่เว้นวันหยุดราชการ
“สุเทพ”ย้ำต้องปลุกพระสู้แล้ว
เมื่อเวลา 20.25 น. นายสุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการ กปปส. กล่าวบนเวทีสวนลุมพินี ว่า วันนี้มีพี่น้องทุกคนดูอิ่มเอิบใจ เนื่องจากมีการจัดพิธีพุทธาภิเษกพระพุทธประชานฤมิตรพิชิตมารที่สวนลุมพินี ถ้าเรียกแบบชาวบ้านก็คือปลุกพระสู้แล้ว วันนี้ผมเห็นจำนวนผู้มาชุมนุมหลังสงกรานต์เพิ่มขึ้นทุกวันๆ แสดงว่าพี่น้องพร้อมกันเต็มที่ ชาร์ตแบตเตอรี่มาจนเต็ม พร้อมที่จะลุยกันแล้ว แต่อย่างไรก็ตามยังมีประชาชนบางส่วนที่อาจจะยังไม่เข้าใจว่าพวกเราต่อสู้ไปเพื่ออะไร ขอก็ให้พวกเราอย่าเพิ่งเบื่อที่จะบอกคนทุกกลุ่มว่าเราต่อสู้เพื่อขจัดระบอบทักษิณให้พ้นไปจากประเทศไทย เนื่องจากเป็นสิ่งที่ทำร้ายประเทศไทยและคนไทย ซึ่งบางคนอาจจะหลงลืมไป เราก็ต้องเน้นย้ำให้ฟังอยู่เรื่อยๆ
ย้ำชุมนุมใหญ่คราวหน้าต้องชนะ
นายสุเทพ กล่าวว่า ระบอบทักษิณเป็นเหมือนมะเร็งร้ายที่กัดกินร่างกาย จึงจำเป็นต้องตัดทิ้ง ไม่งั้นร่างกายอยู่ไม่ได้ แต่วันนี้จอมบงการไม่อยู่ในประไทย คนที่เป็นตัวแทนของจอมบงการคือนางดอกงิ้ว เราจึงต้องไล่ออกไปด้วย ไล่ออกไปทั้งคณะ ต้องไล่ให้พ้นไปให้ได้ ที่ผ่านมาก็มีคนออกมาขับไล่เป็นจำนวนมาก ออกมากันเป็นล้าน แต่ก็ยังหน้าด้านไม่ยอมไป อย่างไรก็ตาม การนัดหมายชุมนุมครั้งใหญ่ที่จะถึงนี้ จะต้องเป็นวันเผด็จศึก นัดใหญ่จริงๆ จึงต้องให้ประชาชนทั่วประเทศได้รู้ว่าถึงเหตุผลที่ต้องขับไล่นางดอกงิ้ว ขอให้ทุกคนได้เตรียมตัวไว้ให้พร้อม
ยันไม่ยอมให้เลือกตั้งก่อนปฏิรูป
นายสุเทพ กล่าวถึงการที่กรรมการการเลือกตั้ง(ก.ก.ต.) นัดประชุมกับพรรคการเมืองในวันที่ 22 เมษายน เพื่อหารือเรื่องการจัดการเลือกตั้งครั้งใหม่ว่า มวลมหาประชาชนขอประกาศล่วงหน้าเลยว่าหากจะเดินหน้าจัดการเลือกตั้งขึ้นใหม่โดยที่ยังไม่มีการปฏิรูป ก็อย่าหวังว่าจะมีการจัดเลือกตั้งเกิดขึ้นได้ เพราะประชาชนไม่ยอมอย่างแน่นอน
กปปส.สุราษฎร์ธานีเข้ากรุง
วันเดียวกัน ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กลุ่มมวลชน กปปส.สุราษฎร์ธานี จำนวนมากทยอยเดินทางเข้ากรุงเทพฯ เพื่อร่วมต่อสู้กับนายสุเทพ เทือกสุบรรณ โค่นระบอบทักษิณ ทวงคืนประเทศไทยตามที่ได้นัดแนะไว้ล่วงหน้า
โดยตลอดทั้งวัน มีมวลชนทยอยเดินทางเข้ากรุงเทพฯอย่างต่อเนื่อง มีทั้งที่เดินทางด้วยรถโดยสารประจำทางปรับอากาศ รถตู้ รถไฟ และเครื่องบินจำนวนหลายหมื่นคน ในขณะที่บางส่วนได้ขนเสบียงอาหารไปสมทบ กปปส.ที่กรุงเทพฯด้วย ในส่วนของมวลชน กปปส.ที่ไม่ได้เดินทางไปร่วมการเคลื่อนไหวที่กรุงเทพฯได้บริจาคทรัพย์สิน เป็นเงินสดรวมทั้งเสบียงอาหารสนับสนุนการต่อสู้ของนายสุเทพ เทือกสุบรรณ และ กปปส.ส่วนกลาง เพื่อร่วมกันทวงคืนประเทศไทย
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี