เมื่อวันที่ 4 กรกฎาคม 2540 เจ้าของกิจการหนังสือพิมพ์และบรรณาธิการหนังสือพิมพ์ฉบับภาษาไทย อังกฤษ 25 ฉบับ จากจำนวนทั้งสิ้น32 ฉบับ รวมทั้งองค์กรที่เกี่ยวข้องกับหนังสือพิมพ์10 องค์กร ได้ร่วมกันลงนามในบันทึกเจตนารมณ์จัดตั้ง “สภาการหนังสือพิมพ์แห่งชาติ” เพื่อเป็นองค์กรควบคุมกันเอง และส่งเสริมเสรีภาพและความรับผิดชอบยกระดับผู้ประกอบวิชาชีพหนังสือพิมพ์และกิจการหนังสือพิมพ์ให้ดียิ่งขึ้น
ซึ่งบันทึกเจตนารมณ์ของผู้ประกอบวิชาชีพหนังสือพิมพ์ ในการจัดตั้งสภาการหนังสือพิมพ์แห่งชาติ ระบุว่า ข้าพเจ้า ผู้บริหาร/เจ้าของ/บรรณาธิการ ผู้มีอำนาจเต็ม ของหนังสือพิมพ์ฉบับต่างๆ รวมทั้งผู้แทนสมาคมผู้ประกอบวิชาชีพหนังสือพิมพ์ที่ชอบด้วยกฎหมาย ที่ได้ลงนามท้ายบันทึกเจตนารมณ์ฉบับนี้ มีความเห็นพ้องต้องกันว่า สมควรให้มี สภาการหนังสือพิมพ์แห่งชาติ อันเป็นองค์กรอิสระขึ้นมาทำหน้าที่ควบคุมกันเองในหมู่ผู้ประกอบวิชาชีพ หนังสือพิมพ์ เพื่อส่งเสริมเสรีภาพ ความรับผิดชอบ ยกระดับผู้ประกอบวิชาชีพและกิจการหนังสือพิมพ์ และเพื่อส่งเสริมสนับสนุนสิทธิการรับรู้ข่าวสารของประชาชนในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข
ซึ่งสภาการหนังสือพิมพ์แห่งชาติ จะประกอบด้วย คณะกรรมการที่คัดเลือกจากผู้ประกอบวิชาชีพหนังสือพิมพ์ ผู้ทรงคุณวุฒิและประชาชนทั่วไปที่สังคมยอมรับ ทำหน้าที่รับและวินิจฉัยคำร้องเรียน เมื่อมีการละเมิดหลักจริยธรรมเพื่อให้ผู้ถูกกล่าวหาซึ่งได้รับการวินิจฉัยอย่างเป็นธรรมแล้วว่าเป็นผู้ละเมิด ได้แสดงความรับผิดชอบอย่างเคร่งครัด
ครับ!!นั่นเป็นเรื่องย่อๆ ของสภาการหนังสือพิมพ์แห่งชาติ และผมขอช่วยประชาสัมพันธ์ต่อนะครับ
คือ ในวันที่ 4 กรกฎาคม 2559 นี้ ก็จะครบ 19 ปี ของสภาการหนังสือพิมพ์แห่งชาติซึ่งจะมีการจัดงานในลักษณะทางวิชาการ พร้อมเปิดเวทีเสวนา เรื่องร้อนที่อยู่ในความสนใจในแวดวงสื่อกับหัวข้อ “สื่อมืออาชีพยุคสงครามออนไลน์”หวังแยกแยะสื่อมืออาชีพและมือสมัครเล่น
เรื่องนี้ นายชวรงค์ ลิมป์ปัทมปาณี ประธานสภาการหนังสือพิมพ์แห่งชาติ กล่าวถึงการจัดงานครบรอบ 19 ปี สภาการฯ ว่า ทุกวันนี้โซเชียลมีเดียมีบทบาทสำคัญต่องานข่าว ผู้ปฏิบัติงานข่าวสามารถเผยแพร่ข่าวสารได้อย่างรวดเร็ว รวมถึงบุคคลทั่วไปที่สามารถโพสต์บทความ ข้อคิดเห็นในโลกออนไลน์ได้อย่างเสรี บางครั้งทำให้เกิดความเสียหายต่อบุคคลอื่นจนเป็นเหตุเรื่องราวใหญ่โตในโลกออนไลน์ จนถูกกล่าวหาเหมารวมว่าสื่อเป็นฝ่ายผิดพลาด ดังนั้นสภาการฯ จึงจัดงานนี้ภายใต้หัวข้อ “สื่อมืออาชีพยุคสงครามออนไลน์” เพื่อแยกแยะให้เห็นว่า ผู้ที่ทำงานข่าวกับบุคคลทั่วไป เหมือนหรือแตกต่างกันอย่างไร โดยมี ดร.พิเชฐ ดุรงคเวโรจน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ให้เกียรติมาเป็นปาฐกถาพิเศษ ในเรื่องดังกล่าวนี้
เสร็จแล้ว สภาการหนังสือพิมพ์แห่งชาติร่วมกับกองทุนส่งเสริมจรรยาบรรณนักหนังสือพิมพ์ มอบโล่ประกาศเกียรติคุณ และเงินรางวัล บทบรรณาธิการดีเด่นประจำปี 2558 แก่หนังสือพิมพ์ ส่วนกลาง ส่วนภูมิภาครางวัลละ 10,000 บาท และรางวัลบทบรรณาธิการดีเด่น หนังสือพิมพ์ฝึกปฏิบัติ มหาวิทยาลัย 5,000 บาท
สุดท้ายได้จัดสนทนากลุ่มในหัวข้อเดียวกัน โดยเชิญผู้เชี่ยวชาญมาแสดงความคิดเห็น ประกอบด้วย น.ส.กนกพร ประสิทธิ์ผลนายกสมาคมผู้ผลิตข่าวออนไลน์, นายอภิศิลป์ ตรุงกานนท์ นายกสมาคมผู้ดูแลเว็บไทย,ผศ.ดร.พิรงรอง รามสูต อาจารย์ภาควิชาวารสารสนเทศ คณะนิเทศ จุฬาฯ, น.ส.วาสนา นาน่วม ผู้สื่อข่าวอาวุโส หนังสือพิมพ์บางกอกโพสต์ดำเนินรายการโดย นายพีระวัฒน์ อัฐนาคผู้ประกาศข่าวเศรษฐกิจไทยรัฐทีวี
โดยงานครบรอบ 19 ปี จัดขึ้นในวันจันทร์ที่ 4 กรกฎาคม 2559 ตั้งแต่เวลา 12.00 น. ณ ห้องประชุมอิศรา อมันตกุล ชั้น 3 อาคารสมาคมนักข่าวนักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทย โดยสมาชิก แวดวงนักวิชาชีพและนักวิชาการสื่อมวลชนตลอดจนประชาชนผู้สนใจสามารถเข้าร่วมงานได้ สอบถามโทร.0-2668-9900 หรือ www.presscouncil.or.th
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี