การพัฒนาทุนมนุษย์คือหัวใจในการปรับองค์กรรองรับการออกนอกระบบของ
มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ PSU 1 และ PSU 2
ผมขอแสดงความยินดีกับ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ที่กฎหมายผ่านสภา (สนอ.) และประกาศเป็นราชกิจจานุเบกษาเรียบร้อยแล้วเป็นมหาวิทยาลัยในกำกับอย่างเต็มรูปแบบ
หลายคนสงสัยแปลว่าอะไร คือ ในอดีตมหาวิทยาลัยของรัฐคือมหาวิทยาลัยในระบบราชการ แต่มหาวิทยาลัยกำกับคือมหาวิทยาลัยที่มีระบบบริหารจัดการเป็นของตัวเอง ออกระเบียบต่างๆ ผ่านสภามหาวิทยาลัยโดยไม่ต้องอิงระบบราชการ แต่ยังได้รับการสนับสนุนงบประมาณจากภาครัฐลักษณะแบบเหมาจ่าย แต่ในอนาคตต้องหารายได้จากงานวิจัยและงานบริการทางวิชาการ
หลักสูตร ผู้นำนักบริหารเพื่ออนาคตของมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ รุ่นที่ 1 (PSU 1)
ซึ่งเป็นยุทธวิธีที่มหาวิทยาลัยสามารถทำได้แต่องค์กร มอ. ต้องคล่องแคล่วและรองรับการเปลี่ยนแปลงในอนาคตเพื่อมหาวิทยาลัยสามารถปรับตัวในการแข่งขัน และสู้กับปัจจัยการเปลี่ยนแปลงมากมายในอนาคตได้ ไม่ว่าจะเรื่อง 1.สังคมผู้สูงอายุ 2.การปรับให้เป็นเลิศเพื่อเทียบกับคู่แข่งใน Asean 3.การใช้ Digital Technology 4.และอื่นๆ
ผมโชคดีได้รับการติดต่อจากผู้นำของมหาวิทยาลัย ซึ่งประกอบไปด้วยรองอธิการบดีมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ 2 ท่าน คือ รองอธิการบดี นพ.บุญประสิทธิ์ กฤตย์ประชา และรองอธิการบดีพิชิต เรืองแสงวัฒนา และโดยความเห็นชอบจาก อธิการบดีมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ รศ.ดร.ชูศักดิ์ ลิ่มสกุล ได้ดำเนินการพัฒนาผู้นำเรียกว่า PSU Leadership 2 รุ่น พร้อมกัน โดยการแนะนำจากท่านอดีตคณบดีคณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ รศ.นพ.สุธรรม ปิ่นเจริญ ซึ่งผมทำคณะแพทย์ไปแล้ว 3 รุ่น
PSU1 คือระดับผู้บริหารระดับสูง ที่มีรองอธิการบดีและคณบดี PSU 2 คือ ระดับรองคณบดีและหัวหน้าข้าราชการสายบริหาร
PSU 1 และ PSU 2 จะใช้เวลาประมาณ 3 เดือนคู่ขนานกันไป ในปัจจุบันจึงอยากเล่าบรรยากาศของทั้งสองรุ่นให้ฟัง
อาจารย์พิชิต เรืองแสงวัฒนา รองอธิการบดีมอ.
รุ่นแรก PSU 1 เริ่มต้น ผมก็ใจไม่ดีนักเพราะท่านเป็นผู้ใหญ่และอาจจะไม่มีเวลาต้องทำการบ้าน ต้องทำงานหนักแต่พอผ่านไปได้แค่ ประมาณ 11 วัน พบว่าถ้าสร้างบรรยากาศเรียนให้สนุก สร้างการมีส่วนร่วมและเน้นการเรียนรู้ที่แลกเปลี่ยนประสบการณ์ต่างๆ จะเป็นประโยชน์มาก
ผมขอยกตัวอย่างที่น่าประทับใจมากๆ คือการไปดูงานที่กรุงเทพฯ แห่งแรกคือที่ การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย อีกแห่งคือที่โรงพยาบาลศิริราช ปิยมหาราชการุณย์ แต่ละแห่งใช้เวลากว่า 3 ชั่วโมง มีคำถามที่น่าสนใจมากมายโต้ตอบกัน ซึ่งแสดงให้เห็นว่าการเปิดโลกทัศน์ให้กว้างขึ้นเป็นการสร้าง Networking และหาทางออกร่วมกัน เป็นวิธีการที่น่าสนใจ และเมื่อดูงานเสร็จยังคิดที่จะหาทางสร้างความร่วมมือต่อไป อาจจะหมายถึงการหาทุนในอนาคต
นพ.บุญประสิทธิ์ กฤตย์ประชา รองอธิการบดีฝ่ายบุคคลและประกันคุณภาพมอ.
แต่ใน PSU 1 ผมประทับใจอีกเรื่องคือการอ่านหนังสือ นำมาวิเคราะห์และแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกัน หนังสือเล่มแรกชื่อว่า The Power of Habit ซึ่งเป็นหนังสือที่อ่านยากมาก แต่ผู้นำของ PSU 1 ก็ตีโจทย์แตกนำมาวิเคราะห์ได้ดี และนำมาใช้ใน PSU ในระดับบุคลากรได้ว่าจะพัฒนา Habit ใหม่ๆ ต้องมีตัวกระตุ้นให้มีการทำงานแบบใหม่และจะได้รับรางวัลที่คุ้มค่า หลุดจาก Comfort Zone ได้แน่นอนผมได้เรียนรู้จากลูกศิษย์ PSU 1 ว่าสามารถวิเคราะห์และนำมาประยุกต์กับ มอ.ได้ดี
สุดท้ายสำหรับ PSU 1 คือ มองโครงการที่เป็นเรือธงและมี Impact ต่อการสร้าง Brand ให้เป็นที่รู้จัก ซึ่งจะเน้นให้ 5 วิทยาเขตต้องทำงานร่วมกันเป็นโครงการที่มี Impact เพื่อดึง Diversity ต่างๆ มาเป็น Value Diversity
หลักสูตร ผู้นำนักบริหารเพื่ออนาคตของมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ รุ่นที่ 2 (PSU 2)
ส่วน PSU 2 ซึ่งผ่านไปได้แค่ 3 วัน แต่เป็น 3 วันที่มีค่ามาก เพราะระดับรองคณบดีหรือผู้นำในอนาคตของ มอ.มีศักยภาพมากมายที่คาดไม่ถึง อยากจะแบ่งปันให้ท่านผู้อ่านคือ ใน 3 วัน มี Theme หนึ่งที่ออกมาอย่างชัดเจน คืออยากให้มอง มอ. เป็นองค์การแห่งการเรียนรู้ต้องให้บุคคลของ มอ. เป็นบุคคลแห่งการเรียนรู้และมีวัฒนธรรมในการเรียนรู้ หรือคล้ายๆ การสร้างบรรยากาศให้ Share ความรู้ไปยังบุคลากรของ มอ. ทั้งระบบ รวมทั้งนักเรียนด้วย กลายเป็นการสร้าง Learning Culture หรือวัฒนธรรมการเรียนรู้ ซึ่งผมขอยกตาราง 4L’s ของผม และของ Peter Senge มาเป็นตัวอย่างไปบวกกับวิธีการที่ทำอยู่คือ Action Learning ทำให้กระจายไปทุกๆ จุดของ มอ.
รศ.นพ.สุธรรม ปิ่นเจริญ อดีตคณบดีคณะแพทยศาสตร์ มอ.
รศ.ดร.ชูศักดิ์ ลิ่มสกุล อธิการบดี มอ.
จีระ หงส์ลดารมภ์
dr.chira@hotmail.com
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี