ตามปกติวิสัยของคนที่ไม่มีจิตคิดโกงบ้านกินเมือง ฉ้อราษฎร์บังหลวง ก็จะต้องพยายามหาทางประหยัดงบประมาณแผ่นดินให้สุดความสามารถ เพราะคนที่ไม่คิดจะโกงบ้านกินเมืองจะยึดถือตลอดเวลาว่า เงินของประเทศชาติ ก็คือเงินของประชาชน และจะต้องใช้เงินของประชาชนให้เกิดผลประโยชน์สูงสุด
แต่สำหรับประเทศไทยแล้ว กลับกลายเป็นเรื่องตรงกันข้ามกับสิ่งที่กล่าวข้างต้น เพราะคนไทยจำนวนไม่น้อยชอบคิดว่า ของหลวงคือของฟรี เมื่อเป็นของหลวงแล้วก็ไม่จำเป็นต้องรักษาดูแล มิหนำซ้ำคนบางจำพวกยังร่วมกันยักยอก ฉ้อโกง ของหลวงโดยไร้ความละอาย บางคนก็ทำลายของหลวงเพราะคิดว่าไม่ใช่สมบัติของตน
กรณีการจัดซื้อสิ่งประดิษฐ์ที่อ้างว่าใช้เพื่อตรวจหาวัตถุระเบิดซึ่งใช้ชื่อว่า GT 200 (Global Technical 200) โดยรัฐบาลไทยในชุดที่ผ่านๆ มานั้นเป็นกรณีศึกษาที่ทำให้สังคมไทยเห็นได้ชัดว่า หน่วยงานที่มีหน้าที่และมีอำนาจพิจารณาการจัดซื้อข้าวของเครื่องใช้ต่างๆ โดยรัฐไทยนั้นทำงานหละหลวมและไร้ประสิทธิภาพมาก
จากข้อเท็จจริงที่ปรากฏชัดเจนแล้วในสื่อมวลชน ซึ่งรายงานว่าศาลของประเทศอังกฤษพิพากษาให้ยึดทรัพย์มูลค่ากว่า 7.9 ล้านปอนด์ หรือประมาณ 395 ล้านบาท จากนายเจมส์ แมคคอร์มิก ผู้ต้องหาในคดีจำหน่าย GT 200 เพราะเครื่องมือดังกล่าวนั้นไม่สามารถใช้ตรวจหาวัตถุระเบิดได้ตามคำโกหกหลอกลวงทั้งนี้ ศาลอังกฤษได้พิพากษายึดทรัพย์เพื่อนำไปเยียวยาให้กับผู้ได้รับความเสียหาย
ในขณะที่สังคมไทยกำลังตั้งคำถามว่า แล้วประเทศไทยของเรานั้น ผู้ใดต้องรับผิดชอบกับการสั่งซื้อและอนุมัติให้ซื้อของ
ชนิดนี้ แล้วจะจัดการอย่างไรกับผู้ที่นำสินค้าลวงโลกชนิดนี้มาจำหน่ายในราคาที่แพงมาก แต่ที่มากกว่านั้นคือ จะมีใครรับผิดชอบหรือไม่กับการที่อนุมัติให้สั่งซื้อเครื่องมือที่ไม่สามารถใช้ตรวจหาระเบิดได้โดยแท้จริง แต่กลับนำของดังกล่าวไปให้เจ้าหน้าที่ผู้ต้องทำงานเสี่ยงภัยจากระเบิดใช้ในชีวิตประจำวันของพวกเขา
ฝ่ายผู้มีอำนาจรัฐตอบเรื่องนี้ว่า การสั่งซื้อ GT 200โปร่งใส บ้างก็ตอบว่า ไม่รู้จะตรวจสอบอะไรอีก เพราะทิ้ง GT 200ไปหมดแล้ว บางรายก็งงเป็นไก่ตาแตก เพราะตอบคำถามไม่ได้ว่าจะไปไล่เบี้ยเอาความผิดและหาความรับผิดชอบได้จากใครหน้าไหนไม่ว่าจะเป็นคนขาย หรือคนซื้อ
อนิจจา ประเทศไทย อนิจจา เงินงบประมาณแผ่นดินไทยก็ไหนอ้างกันนักกันหนาว่า เงินของแผ่นดินตกน้ำไม่ไหล ตกไฟไม่ไหม้อย่างไรเล่า แล้วเหตุไฉนคนซึ่งถือครองอำนาจรัฐของไทยจึงบอดใบ้และนิ่งอึ้งกับเรื่องสำคัญได้ถึงเพียงนี้
คนมีอำนาจรัฐ คนอนุมัติจัดซื้อ เคยคิดถึงชะตาชีวิตของคนใช้เครื่องมือปลอมดังกล่าวในการปฏิบัติหน้าที่บ้างหรือไม่เคยคิดถึงหัวอกของพ่อแม่ลูกเมียและญาติพี่น้องของคนที่ต้องใช้เครื่องมือที่ไม่มีประสิทธิภาพในการทำงานโดยเสี่ยงชีวิตเพื่อประเทศชาติ เพื่อคนไทยบ้างหรือไม่
แต่ที่ตลกยิ่งกว่าคือ กลับมีคนบางคนในรัฐบาลบอกว่าเครื่องมือปลอมเช่นนี้สามารถใช้งานได้ผลดี คำถามคือ ของปลอมแล้วใช้ทำงานได้ผลดี หมายความว่าอะไร บางคนอ้างอีกว่ามีเครื่องมือปลอมดังกล่าวน้อยเกินไปจึงส่งผลให้ทำงานได้ไม่ดีพอ ขออภัยที่ต้องบอกว่า ยิ่งพูดยิ่งแก้ตัวในเรื่องนี้ก็ยิ่งทำให้สังคมเห็นถึงความเสื่อมของผู้พดให้ชัดเจนมากยิ่งขึ้น
ขอถามอีกครั้งว่า ใครจะเป็นผู้รับผิดชอบกับการสั่งซื้อของปลอมที่ปราศจากประสิทธิภาพมาใช้ในหน่วยงานราชการไทย ขอถามย้ำด้วยคำถามเดิมว่า ใครต้องรับผิดชอบกับความผิดพลาดที่เกิดขึ้น แล้วขอถามด้วยว่าจะรับผิดชอบกับความผิดพลาดที่เกิดขึ้นอย่างไร แล้วตอบได้ไหมว่าผลาญงบประมาณแผ่นดินไปเพื่อของเลวๆ พรรค์นี้กี่พันล้านบาท
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี