ราคาข้าวตกต่ำและชาวนามีหนี้สินล้นพ้นตัวทั้งๆที่หลังสู้ฟ้าหน้าสู้ดินผลิตข้าวเลี้ยงคนไทยทั้งประเทศและชาวโลกดูเหมือนจะยังคงเป็นปัญหาซ้ำซากแก้ไม่ตกมาช้านาน ขณะที่ผู้บริหารประเทศทุกยุคทุกสมัยที่ผ่านมาต่างแก้ปัญหาข้าวและชาวนาอย่างไม่ยั่งยืน และบางครั้งยังฉวยโอกาสจากการแก้ปัญหาราคาข้าวและชาวนาเป็นช่องทางทุจริตแสวงหาผลประโยชน์มหาศาล ซ้ำอาศัยแนวทางประชานิยมหาเสียงสร้างคะแนนนิยมทวงบุญคุณจากชาวนาอย่างฉาบฉวยโดยไม่คำนึงถึงความเสียหายร้ายแรงที่จะเกิดกับชาติบ้านเมืองและชาวนาเองในระยะยาว
ปัญหาวิกฤติราคาข้าวตกต่ำจนสร้างความเดือดร้อนอย่างหนักต่อชาวนามีสาเหตุสำคัญประการหนึ่งก็คือต้นทุนการผลิตของชาวนาที่สูงกว่าที่ควรจะเป็นโดยเฉพาะต้นทุนจากปุ๋ยและยาฆ่าแมลงที่รวมกันแล้วเป็นสัดส่วนมากกว่าครึ่งหนึ่งของต้นทุนการผลิตข้าวของชาวนาทั้งหมดและยาฆ่าแมลงยังทำร้ายสุขภาพของชาวนาแบบตายผ่อนส่งด้วย ดังนั้นแนวทางแก้ปัญหาหนี้สินของชาวนาอย่างยั่งยืนก็คือ ลดต้นทุนการผลิตโดยรัฐควรส่งเสริมให้ชาวนาเลิกใช้ปุ๋ยและยาฆ่าแมลงแล้วหันมาทำเกษตรแบบอินทรีย์ซึ่งมีตัวอย่างเกษตรกรที่ประสบความสำเร็จให้เห็นมาแล้วในหลายจังหวัด อาทิ สุพรรณบุรี พระนครศรีอยุธยา แทน ซึ่งข้าวอินทรีย์เป็นที่ต้องการของตลาดทั้งในและนอกประเทศอีกทั้งมีราคาสูงกว่าข้าวที่ใช้ยาฆ่าแมลงมาก ทั้งนี้หากต้นทุนการผลิตข้าวต่ำชาวนาก็อยู่ได้อย่างสบายแม้ในยามราคาข้าวในตลาดตกต่ำ
นอกจากนี้ภาครัฐควรส่งเสริมให้ชาวนารวมตัวกันเป็นสหกรณ์ชาวนาที่เข้มแข็งในแต่ละพื้นที่ทั่วประเทศและจัดระบบพื้นที่เพาะปลูกข้าวทั่วประเทศหรือโซนนิ่งเพื่อไม่ให้ผลผลิตข้าวล้นตลาดทำให้ราคาตกต่ำขณะเดียวกันรัฐควรส่งเสริมสนับสนุนให้ชาวนาพึ่งตัวเองได้อย่างยั่งยืนตั้งแต่ต้นทางถึงปลายทาง ด้วยการจัดหาที่ดินรกร้างว่างเปล่าเพื่อให้เป็นนารวมชุมชนให้ชาวนารายย่อยซึ่งไม่มีที่นาของตัวเองเช่าทำนาในราคาถูก ตลอดจนระยะแรกควรช่วยเหลือชาวนาในเรื่องการให้องค์ความรู้ในด้านต่างๆ โดยผู้เชี่ยวชาญคอยเป็นพี่เลี้ยงให้คำแนะนำชาวนา
อีกทั้งรัฐควรสนับสนุนจัดหาเมล็ดพันธุ์ข้าวที่มีคุณภาพให้ผลผลิตต่อไร่สูงและเป็นที่ต้องการของตลาดแจกหรือจำหน่ายแก่ชาวนาในราคาถูก จัดหาอุปกรณ์ การผลิตข้าว อาทิ รถไถหว่าน การจัดตั้งโรงสีและไซโลในชุมชน รวมไปถึงการจัดหาตลาดหรือให้ความรู้ทางด้านการตลาดแก่สหกรณ์ชาวนาทั่วประเทศให้สามารถยืนอยู่บนลำแข้งของตัวเองได้อย่างมั่นคงในระยะยาว
ขณะเดียวกันในส่วนของชาวนาก็ควรปรับเปลี่ยนวิธีคิดการทำนาแบบเดิมๆ โดยหันมายึดแนวทางเศรษฐกิจแบบพอเพียงตามพระราชดำรินั่นคือการทำไร่นาสวนผสมด้วยการปลูกพืชชนิดอื่นรวมทั้งเลี้ยงสัตว์ อาทิ เป็ด ไก่ ปลา กบ นอกเหนือจากการทำนาเพียงอย่างเดียวเพื่อเป็นทางเลือกและเป็นภูมิคุ้มกันโดยในยามที่ราคาข้าวตกต่ำก็ยังมีพืชและสัตว์ชนิดอื่นๆ สร้างรายได้ทดแทน
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี