l สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร พระราชทาน 9 แนวทางให้รัฐบาล เป็นหลักปฏิบัติเพื่อประเทศชาติ
นายกฯประยุทธ์ หัวหน้าคสช. เปิดเผยว่า ค่ำวันที่ 7 ส.ค.ที่ผ่านมาได้เข้าเฝ้าฯ ถวายรายงานการทำงานของรัฐบาลต่อสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร เป็นการส่วนพระองค์
l สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมีพระราชกระแสรับสั่ง โดยเรื่องที่สำคัญประกอบด้วย
- สั่งดูแลประชาชนให้ความเป็นธรรมในกระบวนการยุติธรรม ทุกอย่างทรงขอว่าให้เป็นไปตามขั้นตอน ตามกฎหมายทุกประการ ให้มีหลักฐานที่ชัดเจน ให้ประชาชนมีความเชื่อมั่นและไว้วางใจในกระบวนการยุติธรรมให้ได้
- เรื่องสำคัญที่สุดคือทรงเสียพระราชหฤทัยในการสูญเสียพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชบรมนาถบพิตรและคนไทยทั้งประเทศก็มีความรู้สึกเช่นเดียวกัน สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมีรับสั่งว่า ขอให้ช่วยกันสร้างความเข้าใจ ขยายสิ่งที่ในหลวงรัชกาลที่ 9 ทรงทำไว้อย่างมากมายให้ยึดถือเป็นแนวทางในการปฏิบัติต่อไป
“พระองค์ท่านพระราชทานแนวทางไว้เป็นระยะเวลายาวนาน ซึ่งสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเองก็ทรงได้รับการสั่งสอนจากพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 9 ด้วย เพราะฉะนั้นไม่มีอะไรที่จะต้องแก้ไข เพราะพระองค์ท่านตรัสว่า “เป็นสิ่งที่ดีที่สุดแล้วที่สมเด็จพ่อได้ทรงทำไว้”
- ขณะเดียวกันก็ทรงให้นึกถึงสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ ในรัชกาลที่ 9 ด้วย ซึ่งพระองค์พระราชทานสิ่งต่างๆไว้มากมายให้กับประเทศไทย ขอให้นำแนวทางพระราชดำริของทั้งสองพระองค์ไปขับเคลื่อน ให้ยึดถือเป็นแนวทางในการปฏิบัติต่อไป คือ ให้หน่วยงานของรัฐของส่วนทุกฝ่าย... ให้ยึดถือเป็นแนวทางในการปฏิบัติต่อไป
l หัวใจของพระบรมราโชวาทของในหลวงรัชกาลที่ 9 ในการบริหารปกครองบ้านเมือง มี 2 ประการ คือ หลักในการปกครอง และวิธีการ ที่จะให้บ้านเมืองเป็นธรรม เพื่อประโยชน์สุขแก่ประชาชน
1.พระปฐมบรมราชโองการเนื่องในพระราชพิธีบรมราชาภิเษกวันศุกร์ที่ ๕ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๔๙๓ “เราจะครองแผ่นดินโดยธรรม เพื่อประโยชน์สุขแห่งมหาชนชาวสยาม”
2.ในบ้านเมืองนั้น มีทั้งคนดีและคนไม่ดี ไม่มีใครจะทำให้คนทุกคนเป็นคนดีได้ทั้งหมด การทำให้บ้านเมืองมีความปรกติสุขเรียบร้อย จึงมิใช่การทำให้ทุกคนเป็นคนดี หากแต่อยู่ที่การส่งเสริมคนดี ให้คนดีได้ปกครองบ้านเมือง และควบคุมคนไม่ดีไม่ให้มีอำนาจ ไม่ให้ก่อความเดือดร้อนวุ่นวายได้
l หากรัฐบาล รัฐสภา และตุลาการ รวมทั้งสถาบันสำคัญของบ้านเมือง ได้ยึดแนวทางนี้เป็นหลัก
1.ก็จะทำให้ประชาชนในชาติ มีความสุข จากการได้รับความเสมอภาคเป็นธรรม และจะมีผลทำให้ สถาบันสำคัญดังกล่าวของรัฐได้รับการยอมรับและเชื่อถือรวมทั้งให้การร่วมมือสนับสนุน
2.แต่ข้อเท็จจริงที่ผ่านมา รัฐบาล รัฐสภาและตุลาการ ฯลฯยังมีข้อจำกัด ทำได้ไม่มากพอ และยิ่งมาเจอคนไม่ดี พรรคไม่ดี ฯลฯ เข้ามาบริหารฯ ใช้อำนาจโดยมิชอบ โกงกินเพื่อตนเองและพวกพ้อง อีกทั้งยังหาญกล้าบังอาจล่วงละเมิดจาบจ้วงต่อสถาบันหลักของชาติ อย่างต่อเนื่องเพื่อหวังอำนาจสูงสุด
อีกทั้ง นักการเมือง นักวิชาการและกลุ่มมวลชนบางส่วน ยังใช้“ประชาธิปไตยเลือกตั้ง” มากล่าวอ้าง โดยไม่คำนึงถึงสภาพที่เป็นจริงของสังคมไทย ที่ระบบโครงสร้างและประชาชนยังขาดคุณภาพ และข้อบกพร่องใหญ่ของพรรคการเมืองนักการเมืองที่ยังไม่ได้คนดีมีความรู้ความสามารถมากพอ อีกซ้ำยังได้คนเก่งที่ไม่ดีเข้ามาควบคุมบริหารพรรคการเมืองและรัฐบาลรัฐสภาเพื่อตนเองครอบครัว จึงทำให้เกิดปัญหา และสะสมกันมานานจนกลายเป็นวิกฤติทั้งการเมือง เศรษฐกิจและสังคมขึ้นในปัจจุบัน
l และเมื่อได้อ่านพระราชดำรัสของในหลวงรัชกาลที่ 10 ข้างต้นซึ่งเป็นการดำเนินรอยตามรัชกาลที่ 9
“สั่งดูแลประชาชนให้ความเป็นธรรมในกระบวนการยุติธรรมทุกอย่าง ทรงขอว่าให้เป็นไปตามขั้นตอน ตามกฎหมายทุกประการ ให้มีหลักฐานที่ชัดเจน ให้ประชาชนมีความเชื่อมั่นและไว้วางใจในกระบวนการยุติธรรมให้ได้”
➢ ทำให้พสกนิกรชาวไทย มีความหวังที่จะเห็นหน่วยงานรัฐทุกฝ่ายได้นำไปปฏิบัติตาม
l ความเป็นธรรมที่สำคัญอีกอย่างหนึ่ง คือ ความเป็นธรรมในกระบวนการยุติธรรม ซึ่งในบ้านเมืองเรายังมีปัญหาใหญ่คือ “ไม่เป็นธรรม ล่าช้า แพง ขาดประสิทธิภาพและมาตรฐาน”
ความไม่เป็นธรรม : ต่อคนที่ถูก ต้องรับโทษ, แต่ต่อคนผิด คนชั่วมีอำนาจ กลับลอยนวล
ล่าช้า : คดีต่างๆ มีขั้นตอนกระบวนการมากมายในการพิจารณา ทำให้เกิดความล่าช้า(เป็นปกติ)
แพง : ค่าใช้จ่ายในการมาศาล ค่าหาหลักฐานมาค้ำประกัน ค่าปรับ ค่าจ้างทนาย เป็นภาระใหญ่หลวง
ขาดประสิทธิภาพ : ระบบและขั้นตอนต่างๆ ยังขาดการจัดการที่ดี ซึ่งทำให้เกิดความซ้ำซ้อนล่าช้า
มาตรฐาน : ที่เกิดจากกระบวนยุติธรรมขั้นต้น-กลาง-ปลายน้ำไม่มีมาตรฐานที่ถูกต้องเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน
ตำรวจ อัยการ : ยังทำหน้าที่เอาผิดกับผู้ต้องหา มิใช่การให้ความถูกต้องเป็นธรรมแก่คู่คดี……..
l และประเด็นเรื่องมาตรฐานนี้ ปัจจุบันยังถูกกดดันโฆษณาจากฝ่ายผิดว่า “2 มาตรฐาน” ซึ่งความจริงมีมาตรฐานเดียว คือ การกระทำถูก กับการกระทำผิด ทั้งต่อคนอื่นและบ้านเมือง
คนที่ก่อการร้ายต่อบ้านเมืองและสถาบันชาติ ศาสน์ กษัตริย์ รัฐธรรมนูญ : ต้องถูกลงโทษหนัก
คนที่ก่อการดี ปกป้องรักษาบ้านเมืองและสถาบันชาติ ศาสน์กษัตริย์ : ต้องได้รับการยกย่อง มิใช่ถูกลงโทษ
l คดีการสลายการชุมนุมพธม. 7 ตุลาคม 2551 โดยศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง เหตุผลและตรรกขัดกับข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้นอย่างเป็นประจักษ์ต่อประชาชนและสื่อที่อยู่ในเหตุการณ์
คณะกรรมการป.ป.ช.น่าจะมีการอุทธรณ์ โดยนำความจริงที่ปรากฏต่างๆ : ทางรัฐสภา ศาลปกครอง ฯลฯ คำกล่าวของผบ.ทบ. ฯลฯออกรายการทีวีช่อง 3 ในวันที่ 16 ตุลาคม 2551 ที่กล่าวถึงความผิดของนายกฯขณะนั้น และคำกล่าวของสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ ในรัชกาลที่ 9 ที่เสด็จฯไปงานศพน้องโบว์ วันที่ 13 ตุลาคม 2551“น้องโบว์เป็นเด็กดี ช่วยชาติ ช่วยสถาบันฯ และมีความจงรักภักดีและปกป้องสถาบัน” มีนายทหารตำรวจชั้นผู้ใหญ่ทุกเหล่าทัพ รวมทั้งพลเอกอนุพงษ์(ผบ.ทบ) นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ฯลฯ ร่วมด้วย
@ พระราชินีทรงเสด็จฯพระราชทานเพลิงศพ น้องโบว์ ด้วยพระองค์เอง-https://www.youtube.com/watch?v=Tx7n_BnRcv0.
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี