เมื่อได้รับคำถามว่า พรรคการเมืองของไทย ในวันนี้มีสภาพอย่างไร พร้อมสำหรับการเลือกตั้งหรือไม่? ก็คงไม่ผิดเท่าไหร่นักหากจะตอบไปว่า พรรคการเมืองไทยวันนี้ ก็เหมือนกับเรือผุๆ รั่วๆ ที่ไม่ได้พร้อมจะออกทะเล แต่กัปตันและลูกเรือในหอบังคับการ ต่างยังคิดว่า เรือของพวกเขายังมีสภาพที่ดีอยู่ แถมยังมีเสียงเชียร์เจื้อยแจ้วจากผู้คนส่วนหนึ่งว่า “สบายมาก คุณมุ่งหน้าออกทะเลกันได้”
ซึ่งหากตั้งสติกันซะหน่อย ลองถอยหลังมาสักก้าวหนึ่ง แล้วมองดูว่าเรือพรรคการเมืองลำต่างๆ ที่ว่านั้น มันชำรุดทรุดโทรมกันอย่างไรบ้าง
แต่ก่อนจะไปวิพากษ์วิจารณ์กัน เราน่ามาซักซ้อมความเข้าใจกันเสียก่อนว่า เรือพรรคการเมืองที่มีสภาพดี ที่พร้อมจะออกทะเลการเมืองได้อย่างเหมาะสม (หรือพรรคการเมืองที่ควรพึงเป็น) นั้นเป็นอย่างไร ตามทฤษฎีและความคาดหวังก็พอประมวลได้ดังนี้ อาทิ
1. ผู้ร่วมก่อตั้ง ต้องมีอุดมการณ์ร่วม ต้องมีวิสัยทัศน์และเป้าหมายร่วม และต้องยอมรับซึ่งกันและกันว่า ผู้ใดจะเป็นผู้นำ และผู้อื่นจะแบ่งภาระหน้าที่รับผิดชอบกันอย่างไร
2. เมื่อมีตามข้อ 1 แล้ว ก็นำเสนอต่อประชาชน เพื่อเชื้อเชิญให้เข้าร่วมเป็นสมาชิก เป็นผู้ร่วมขับเคลื่อน
3. งานการเมืองและการมีส่วนร่วมในกิจการพรรค เป็นงานอาสา มิใช่งานอาชีพประจำ
4. การลงขัน เพื่อนำมาเป็นค่าใช้จ่ายตามพละกำลัง และด้วยความสมัครใจ ซึ่งถ้ากลุ่มผู้นำดี นโยบายมาตรการดี ความสนอกสนใจ และการสนับสนุน ก็จะหลั่งไหลเข้ามาโดยปริยาย
5. ในนโยบายมาตรการนั้น ก็ต้องมุ่งแก้ปัญหาที่คาใจ ที่อยู่ในใจของสังคมของผู้คนชนชั้นต่างๆ เป็นสำคัญว่า ชีวิตจะไม่ย่ำอยู่กับที่เหมือนเดิม แต่จะมีการเปลี่ยนแปลงสู่โอกาสและสภาวะที่ดีขึ้น เป็นการชี้แนวทางและให้ความหวัง ความมั่นใจต่อชาวประชา
6. การรวมตัวกัน การบริหารจัดการภายใน และการเสนอประเด็นต่อสังคม เป็นสิทธิเสรีภาพขั้นพื้นฐาน รัฐจะเข้ามาตั้งกฎเกณฑ์ ตีกรอบ จำกัดจำเขี่ย และคุกคามด้วยบทลงโทษต่างๆ นานา มิได้เป็นเรื่องที่ควร เพราะประเด็นคือ ประชาชนอยากตั้งพรรค หรือประชาชนชอบพรรคใด ก็เป็นเรื่องของประชาชนกับพรรคที่ต้องดูแลควบคุมกันเอง รัฐต้องไม่บังคับและไม่แทรกแซง
7. เมื่อพรรคมีอุดมการณ์ เป้าหมายวิธีการขับเคลื่อนประเทศ มีบุคลากรบริหาร และประชาชนสนับสนุนโดยเข้าเป็นสมาชิก เป็นอาสาสมัคร เป็นผู้บริจาคแล้ว พรรคก็ไม่มีการเป็นพรรคขององค์บุคคล กลุ่มครอบครัวหรือกลุ่มทุนใดๆ ประชาชนและสมาชิกเป็นเจ้าของพรรคและเป็นใหญ่เท่านั้นแต่ผู้เดียว
8. การทำงานภายในพรรคต้องโปร่งใส ตรวจสอบได้ ให้ข้อมูลต่อสาธารณะ และสาธารณะเข้าถึงได้ อีกทั้งจะต้องมีเวทีเพื่อการพบปะพูดจาเป็นระยะๆ อย่างสม่ำเสมอ เพื่อรู้เขารู้เรา และร่วมคิดร่วมทำ
พรรคใดมีครบ 8 ข้อนี้ ก็ถือได้ว่าเป็นเรือที่ดี สามารถออกทะเลไปได้อย่างมั่นคง ไม่สะทกสะท้านต่อคลื่นลม ต่อเรื่องวิพากษ์วิจารณ์ เพราะเป็นพรรคของประชาชน และมีประชาชนเป็นที่พึ่งยึดเหนี่ยว มีความโปร่งใส เมื่อใดมีที่นั่งในรัฐสภาหรือในคณะรัฐมนตรี ลูกพรรคดังกล่าวก็จะสามารถนำเอากติกา อุดมการณ์หลักมาปฏิบัติได้อย่างเป็นรูปธรรม
แต่เมื่อพรรคใดก็ตามที่ยังเป็นสมบัติของนายทุน ของครอบครัว ของกลุ่มผลประโยชน์ ต่างมุ่งหาแต่ผลประโยชน์ ก็คงเปรียบได้กับเรือผุๆ ที่นอกจากรอวันล่มแล้ว ยังสร้างความเน่าเฟะให้กับสังคมอีกด้วย เพราะสิ่งปฏิกูลทั้งหลายจากเรือ ก็จะไหลลงสู่น้ำทะเล กลายเป็นผู้ทำลายสิ่งแวดล้อม ทำลายบรรยากาศที่ดีทางการเมือง
ณ วันนี้ เอาเข้าจริง ก็ยังมิได้เห็นพรรคการเมืองใดของไทยเลย ที่คิดอ่านจะปรับปรุงพรรค เปลี่ยนรูปโฉมพรรค ปฏิรูปพรรค เพื่อให้พรรคเป็นของประชาชน และยกระดับให้สมาชิกได้มีบทบาทอย่างกว้างขวางลึกซึ้ง ในฐานะเจ้าของพรรคร่วมกันอย่างแท้จริง
จริงอยู่พรรคการเมืองถูกรัฐบาลทหารตั้งกฎเหล็กมิให้มีการเคลื่อนไหว หรือทำกิจการใดๆ แต่รัฐบาลทหารห้ามมิให้ขบคิดไม่ได้ ฉะนั้นก็นั่งคิด ขีดเขียนได้นี่นา
สติปัญญามี องค์ความรู้มี ประสบการณ์ของสมาชิกพรรคต่างๆก็มากหลาย จึงมิใช่เป็นเรื่องยากเย็นเข็ญใจว่า จะคิดทำการวางแผนอย่างไรเพื่อซ่อมแซมเรือผุๆ ให้เป็นเรือที่ออกทะเลได้อย่างสง่างาม
แต่ดูแล้วอุปสรรคเดียวที่มีก็คือ ใจที่ไม่ถึง มัวแต่เป็นหัวใจที่คร่ำครึ คับแคบ พึงพอใจกับฐานันดรศักดิ์ที่ตนมีอยู่ และทำตัวเหมือนไม่มีกึ๋น ไม่กล้าเสี่ยง จะตัดสินใจเปลี่ยนแปลง ปฏิรูปให้พรรคเป็นเรือประชาธิปไตยที่ทันสมัย แล้วออกไปแล่นโต้คลื่นลม ไปจนถึงจุดหมายปลายทางอย่างสง่างาม
อย่าทำร้ายประชาชนที่จำต้องเสี่ยงติดไปกับเรือผุๆ ในการเลือกตั้งที่กำลังจะมาถึง จะช้าจะเร็วก็ต้องซ่อมเรือ จะนั่งนิ่งเฉย ไม่ปรับปรุง เปลี่ยนแปลงพรรคของตนเองให้ทันสมัย และอนาคตของประชาธิปไตยแบบตัวแทน จะโชติช่วงชัชวาลได้อย่างไร
มองไปทั้งใกล้และไกล ในต่างแดนก็มีตัวอย่างของการซ่อมแซมปรับปรุงเรือผุ ไม่ว่าที่แคนาดา ฝรั่งเศส เนเธอร์แลนด์ ไต้หวัน และเกาหลีใต้ ก็จะได้เห็นตัวอย่างที่ดี เขาทำได้ ทำไมเราจะทำไม่ได้ ถ้าเรากล้าเสี่ยง กล้าเปลี่ยนแปลง และมุ่งมั่นเอาจริงเอาจัง
กษิต ภิรมย์
kasitfb@gmail.com
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี